แต่จูเจียนเฉียงก็ไม่ได้ถามอะไรมากมาย เขารู้ว่านับแต่นี้ไปเขาได้กลายเป็นศิษย์ของเซียวหยางแล้ว
ใบหน้าของจูเจียนเฉียงเต็มไปด้วยความร้อนแรง หัวใจของเขาเต็มไปด้วยความคาดหวัง หวังว่าเซียวหยางจะสอนกังฟูที่แท้จริงให้กับเขา
ความสูงของจูเจียนเฉียงประมาณ 1.8 เมตร รูปร่างสูงผอม แค่ดูก็รู้ว่าเขาไม่เคยผ่านการฝึกอย่างเข้มข้นมาก่อน
ความแข็งแกร่งไม่เพียงพอ ความเร็วในการตอบสนองไม่เพียงพอ และสำหรับกระบวนท่าต่อสู้ เขาไม่รู้อะไรเกี่ยวกับมันเลย
เซียวหยางเริ่มสอนจากพื้นฐาน เมื่อมีรากฐานมั่นคง ในอนาคตถึงสามารถเติบโตไปได้ไกล
“ยก 60 กิโลกรัมก่อน เซตละสิบครั้ง ทั้งหมดห้าเซตก่อนแล้วกัน” เซียวหยางชี้ไปที่บาร์เบลด้านข้างของเขา
หลังจากนั้นก็วิ่งไปกลับ ซิทอัพ ในกระบวนการทั้งหมดนี้ ในสายตาของเซียวหยางมันไม่ใช่การกลั่นแกล้ง
นี่คือความแข็งแกร่งสูงสุดที่ร่างกายของจูเจียนเฉียงจะทนได้โดยไม่ทำให้พื้นร่างกายของเขาถูกทำลาย
เสี่ยวจูไม่เคยผ่านการฝึกที่เข้มข้นเช่นนี้มาก่อน เขาแทบหมดแรง เหงื่อจำนวนมากไหลออกมา เสื้อบนร่างกายของเขาแทบจะสามารถบิดน้ำออกมาได้
แต่เขาก็ยังกัดฟันและอดทนต่อไป ความเพียรนี้มีค่าควรแก่การชื่นชม
หนึ่งชั่วโมงผ่านไป
จูเจียนเฉียงยังคงฝึกฝนต่อไป เซียวหยางโบกมือและพูดว่า “วันนี้พอแค่นี้ก่อน การฝึกครั้งแรกจะหักโหมเกินไปไม่ได้”
พูดตามตรง เซียวหยางค่อนข้างพอใจกับการแสดงออกของเสี่ยวจูในวันนี้
เมื่อได้ยินเช่นนี้ จูเจียนเฉียงคุกเข่าล้มลงกับพื้น ทั่วทั้งร่างกายไร้ซึ่งเรี่ยวแรง อยากจะนอนอยู่แบบนี้บนพื้นโดยไม่ลุกขึ้นมา
แต่ในตอนที่เขากำลังจะหลับตา เซียวหยางยกเท้าขึ้นมา คำพูดเพียงประโยคเดียวทำให้ความฝันของเขาแหลกสลายในทันที
“ใครบอกให้นายนอน ไปสควอชที่หน้ากระจก เพื่อถือเป็นการผ่อนคลาย”
“20 นาที หากกล้าขยับ จะให้ดันพื้นสิบครั้งเพื่อเป็นการลงโทษ”
จูเจียนเฉียงอยากจะร้องไห้ออกมาโดยไม่มีน้ำตา เขาเกือบจะคุกเข่าให้เซียวหยาง
ตอนนี้เขาถึงได้รู้ว่าอะไรที่เรียกว่าการฝึกฝนอย่างทรมาน
แต่คำสั่งของอาจารย์มิอาจละเลยได้ เขาทำได้แค่เดินไปสควอชตรงหน้ากระจก
ท่าทางของเซียวหยางดูมีความสุข พยักหน้าด้วยความพอใจ หลังจากนั้นก็เดินไปด้านหน้ากระสอบทราย ออกกำลังกายเคลื่อนไหวกระดูกและกล้ามเนื้อ
ตุบ ! ตุบ ! ตุบ !
ทุกมัดที่เซียวหยางปล่อยออกไป ไม่ทำให้เกิดแรงสั่นสะเทือนบนกระสอบทรายเลยแม้แต่น้อย แต่อีกด้านหนึ่งปรากฏรอยหมัดขึ้นอย่างชัดเจน พร้อมกับเสียงอันหนักแน่นที่เหมือนกับฟ้าร้อง
วิชานี้มันเหมือนกับหมัดหวิงชุน ดูไร้ซึ่งกำลัง แต่แท้จริงแล้วพลังหมัดของมันช่างน่าหวาดกลัว
หลังจากปล่อยออกไปสองสามหมัด มีเสียงดังโครมครามเกิดขึ้น กระสอบทรายระเบิด เม็ดทรายกระจัดกระจายไปทั่วพื้น
กระสอบทรายธรรมดาแบบนี้ไม่สามารถทนต่อหมัดของเซียวหยางได้ กระสอบทรายที่ใช้ฝึกในวิหารมังกรของพวกเขาคือกระสอบทรายที่ทำมาเป็นพิเศษ สิ่งที่อยู่ด้านในไม่ใช่ทราย แต่เป็นลูกเหล็กพิเศษ และด้านนอกไม่ใช่ถุงผ้า แต่เป็นหนังจระเข้
ถึงกระนั้นมันก็ยังไม่สามารถระงับฮอร์โมนที่พลุ่งพล่านของชายหนุ่มในวิหารมังกรได้ ดังนั้นจึงต้องเปลี่ยนใหม่เป็นระยะ
ดวงตาของจูเจียนเฉียงเบิกกว้าง ไม่อยากเชื่อกับสิ่งฉากตรงหน้าที่ได้เห็น เหงื่อบนใบหน้าถูกเหงื่อเย็นไหลเข้ามาแทนที่
อาจารย์น่ากลัวเกินไปหรือเปล่า ถึงกับระเบิดกระสอบทราย ในตอนนั้นหัวใจของเขาเต็มไปด้วยความบ้าคลั่ง แม้ตอนนี้เขาเหนื่อยจนไร้เรี่ยวแรง แต่ความคิดที่อยากจะแข็งแกร่งของเขากลับมีความมุ่งมั่นมากขึ้น
“ยืนให้มั่นคง ตัวสั่นแบบนั้นมันอะไรกัน นายกำลังเต้นรูดเสางั้นเหรอ แขนเกร็งแน่น สะโพกรับแรง !”
เซียวหยางเดินมาด้านหน้า ใช้มือตบไปทุกส่วนบนร่างกายของจูเจียนเฉียง
รอยยิ้มที่แปลกประหลาดของจูเจียนเฉียงปรากฏออกมาหลังจากถูกตบ แต่หลังจากนั้นไม่นาน ท่าทางของเขาก็แข็งทื่อ
ดูเหมือนว่าการตอบของอาจารย์จะทำให้พลังงานในร่างกายของเขาสูบฉีด ความรู้สึกสดชื่นพรั่งพรูไปทั่วร่างกายของเขา
ต่อให้ฝันยังคิดไม่ถึง เซียวหยางไม่ได้ตบร่างกายของเขาสุ่มสี่สุ่มห้า แต่เป็นการบรรเทากล้ามเนื้อจากการไหลเวียนโลหิต ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย
หากทำการฝึกเช่นนี้ พรุ่งนี้จูเจียนเฉียงคงไม่มีทางลุกขึ้นมาจากเตียงได้อย่างแน่นอน ผลกระทบที่ได้รับจากการฝึกจะปรากฏออกมา ดังนั้นที่เซียวหยางทำเช่นนี้ก็เพื่อผ่อนคลายกล้ามเนื้อของจูเจียนเฉียง ป้องกันไม่ให้กล้ามเนื้อของเขาตึง
สองชั่วโมงผ่านไปชั่วพริบตา
จูเจียนเฉียงยังคงฝึกฝนต่อไปอย่างไม่หยุดพัก เขาพักผ่อนในท่าสควอชอย่างผ่อนคลายในระหว่างการฝึก
อย่างไรก็ตาม ระดับการฝึกฝนของเซียวหยางนั้นแสดงให้เห็นถึงประโยชน์อย่างชัดเจน แม้ว่าร่างกายถึงขีดจำกัด แต่จิตวิญญาณของจูเจียนเฉียงนั้นหนักแน่นกว่า
ฝึกฝนเป็นอันเรียบร้อย ทั้งสองคนเดินออกมา มองเวลา ตอนนี้ก็ได้เวลาเลิกงานแล้ว
“อาจารย์ ผมขอเลี้ยงข้าวท่านสักมื้อ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เดชราชาพิโรธ