เดชราชาพิโรธ นิยาย บท 38

แต่หลังจากผ่านไปไม่นาน เซียวหยางเดินกลับเข้ามาในห้องทำงาน เห็นในมือทั้งสองข้างของเซียวหยางว่างเปล่า เย่หยุนซูถามออกไปว่า

“บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปอยู่ที่ไหน คุณคงไม่ได้กินมันเข้าไปเร็วขนาดนั้นหรอกใช่ไหม คุณเป็นผีหิวโหยที่กลับชาติมาเกิดหรือไง”

ใบหน้าและท่าทางของเย่หยุนซูเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ

“อาหารขยะแบบนั้นผมไม่กิน ผมเอามันไปทิ้งแล้ว” เซียวหยางตอบกลับไปอย่างเฉยเมย

“คุณเอามันไปทิ้งแล้ว ? นี่คุณ......”

หัวใจของเย่หยุนซูรู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก กำหมัดแน่น พูดออกมาด้วยความไม่พอใจ

“นั่นมันอาหารมื้อเย็นของฉัน ฉันยังไม่ทันได้กินมันเข้าไปเลย ทำไมคุณถึงได้เอามันไปทิ้ง ?”

เซียวหยางตอบกลับไปอย่างจริงจัง “ก็แค่บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปถ้วยเดียว แม้แต่ของที่มีราคาเพียงไม่กี่บาทพวกนี้ผมยังไม่มีสิทธิ์ที่จะทิ้งมัน สถานะของผมมันต่ำเกินไปหรือเปล่า”

เมื่อเห็นท่าทีเฉยเมยของเซียวหยาง เย่หยุนซูโกรธจนตัวสั่น

หากปล่อยให้เซียวหยางอยู่แบบนี้ต่อไป ต่อให้ตนเองทำงานเพิ่มอีกทั้งคืนก็คงไม่มีทางทำเสร็จ

“คุณไปทำงานของเธอก่อนเถอะ ผมมีเรื่องต้องออกไปทำสักหน่อย ไม่นานจะกลับมา”

ก่อนที่เย่หยุนซูจะไล่ออกไป ดูเหมือนเซียวหยางจะอ่านใจของเธอออก พูดออกมาว่าจะจากไปด้วยตัวเอง

เย่หยุนซูถูขมับของเธออย่างช่วยไม่ได้ นั่งลงและทำงานต่อไป ทะเลาะกับคนกวนประสาทเช่นนี้มันไม่คุ้มเอาเสียเลย

เซียวหยางเดินออกไปจากสำนักงาน ข้าไปยังซอยด้านหลังของอาคารสำนักงาน เดินทางมายังร้านชิสุบาร์บีคิวที่เขามาเมื่อเที่ยง

ทานบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปตอนกลางคืนนั้นไม่ดีต่อร่างกาย อีกอย่างร่างกายของเย่หยุนซูเองก็ไม่ค่อยดีอยู่แล้ว เขาจึงต้องการซื้ออาหารเบา ๆ กลับไปฝากเธอ

แม้ว่ามันจะสามทุ่มแล้ว แต่ธุรกิจแผงขายบาร์บีคิวเพิ่งเริ่มต้นขึ้น ฉากนี้ร้อนแรงอย่างน่าประหลาดใจ ถอดเสื้อดื่มเหล้า ชมแก้วและกินปิ้งย่างเสียบไม้กันอย่างมีความสุข

ร้านของเสิ่นอ้าวจวินนั้นขายอาหารขบเคี้ยวในตอนกลางวัน ในตอนกลางคืนจะขายปิ้งย่าง ในหนึ่งวันจึงสร้างรายได้จำนวนไม่น้อย

“นี่เถ้าแก่ บะหมี่เกี๊ยวชามหนึ่ง อ่า ขอเป็นห่อกลับบ้าน”

เซียวหยางเดินเข้าไปกล่าวทักทายเสิ่นอ้าวจวิน

เสิ่นอ้าวจวินซึ่งกำลังตรวจบัญชีที่หน้าเคาน์เตอร์ เมื่อได้ยินเสียงที่คุ้นเคยก็เงยหน้าขึ้นมามองเซียวหยางทันที

เธอพูดออกมาด้วยใบหน้าประหลาดใจ “ดึกขนาดนี้แล้วเพิ่งจะเลิกงาน แล้วทำไมถึงไม่มากับแฟนสาวของคุณ ?”

เซียวหยางผงะเล็กน้อย แฟนสาวที่เสิ่นอ้าวจวินพูดถึงนั้นน่าจะเป็นเย่หยุนซูที่เห็นในสถานีตำรวจตอนกลางวัน

เซียวหยางไม่ได้อธิบายอะไรออกไป เย่หยุนซูไม่อยากให้ใครรู้ความสัมพันธ์แบบสามีภรรยาของทั้งสองคน มันทำให้เธอรู้สึกอับอาย

“ตัวคนเดียวยังเอาไม่รอด จะให้จ่ายเพิ่มเป็นสองเท่าอีกหรือไง ?”

เสิ่นอ้าวจวินกลอกตาขาว ยิ้มและพูดออกมาว่า “ก็ไม่ได้เอากำไรอะไรมากมายขนาดนั้น อีกอย่างร้านของฉันก็เป็นแค่ร้ายเล็ก ๆ แค่ไม่ขาดทุนก็พอแล้ว ”

เซียวหยางยิ้มออกมาโดยไม่พูดอะไร เสิ่นอ้าวจวินเปิดเบียร์หนึ่งขวดมาวางไว้หน้าเซียวหยาง สั่งลูกน้องในครัวให้ทำบะหมี่เกี๊ยว จากนั้นเธอก็ทำงานของเธอต่อไป

ท้องฟ้าสว่างไสวไปด้วยดวงจันทร์และหมู่ดาว ตึกสูงในเมืองบดบังการมองเห็นของผู้คน เซียวหยางไม่รู้ว่านานแค่ไหนแล้วที่เขาไม่ได้เงยหน้าขึ้นมองดวงจันทร์ที่สว่างไสว

ดื่มเบียร์พร้อมกับสายลมยามเย็นที่พัดผ่านหู ทำให้เซียวหยางอดนึกถึงวันวานในวิหารมังกรไม่ได้

รอยยิ้มของเขาชวนให้นึกถึง หยิบภาพหมู่หนึ่งใบที่พกติดตัวตลกเวลาออกมา

เซียวหยางนั่งอยู่บนที่นั่งของผู้นำแห่งวิหารมังกร บนหัวของเขามีหัวมังกรยักษ์ที่ทำจากทองคำบริสุทธิ์ และดวงตาของมังกรก็ทำขึ้นจากอัญมณีอันล้ำค่า

ผู้ซึ่งนั่งอยู่จากเขาถัดไปทางซ้ายมือและขวามือก็คือทูตฟ้าเพิงผู้ยิ่งใหญ่ทั้งสี่

ด้านล่างมีสิบสองทูตฟ้าหกปีกนั่งอยู่

คนเหล่านี้แต่ละคนมีชื่อเสียงอย่างมากในโลก แต่พวกเขาเต็มใจที่จะเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของราชามังกรเซียวหยาง ซึ่งนี่เป็นสิ่งที่พวกเขาภูมิใจ

เซียวหยางขมวดคิ้ว แต่ก็ไม่ได้รู้สึกหวั่นไหวแต่อย่างใด แม้จะจ้องมองเธอ แต่สายตาที่จ้องมองนั้นมันเหมือนกับทะเลสาบอันนิ่งสงบ ไร้ซึ่งคลื่นลม

เสิ่นอ้าวจวินผงะเล็กน้อย ดวงตาคู่นี้เหมือนกับตอนเที่ยงทุกประการ ซึ่งแตกต่างจากผู้ชายคนอื่น ๆ ที่มองตนเองราวกับหมาป่าผู้หิวโหย

ความเฉยเมยของเซียวหยางทำให้นางหลงทางไปเล็กน้อย หรือว่าตนเองไม่สามารถดึงดูดผู้ชายคนนี้ได้จริง ?

เธอค่อนข้างมั่นใจในรูปลักษณ์ของตัวเองเสมอ ไม่อย่างนั้นเธอคงไม่ถูกเรียกว่าเป็นชิสุบาร์บีคิว

“เถ้าแก่ นี่ก็ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งในการตอบแทนฉันหรือเปล่า หากเป็นเช่นนั้นจริง แค่นี้มันยังไม่พอ”

เซียวหยางแสดงให้เห็นรอยยิ้มอันชั่วร้าย

เสิ่นอ้าวจวินถอนหายใจเบา ๆ ใบหน้าอันสวยงามของเธออดไม่ได้ที่จะรู้สึกร้อนขึ้นเล็กน้อย

“เถ้าแก่ บะหมี่เกี๊ยวเรียบร้อยแล้ว” ในตอนนั้นเอง พ่อครัวนำบะหมี่เกี๊ยวมาวางไว้บนเคาน์เตอร์

“บะหมี่เกี๊ยวเสร็จแล้ว ฉัน......ฉันจะไปเอามามันให้คุณ”

คิดไม่ถึงว่าเซียวหยางจะอ่านความคิดของตนเองออก เพื่อปกปิดความเขินอายนั้น เสิ่นอ้าวจวินจึงรีบเดินไปที่เคาน์เตอร์

เซียวหยางเดินตามไป ในตอนที่เสิ่นอ้าวจวินหันกลับมา เธอรู้สึกได้ถึงลมหายใจของผู้ชายที่ล้อมรอบตัวเธอ

ในตอนนั้นเซียวหยางยื่นมือออกมาแล้วหยิบบะหมี่เกี๊ยวไป

“เถ้าแก่ ฉันยังมีเรื่องที่ต้องทำ อยู่นานกว่านี้ไม่ได้แล้ว ไว้วันหลังพวกเราค่อยเจอกันใหม่”

เซียวหยางยิ้มจาง ๆ ข้างหูของเธอ หลังจากพูดจบเขาก็เดินออกไปจากร้านบาร์บีคิว

ในตอนที่เสิ่นอ้าวจวินได้สติกลับคืนมา ร่างของเซียวหยางก็หายไปแล้ว

เสิ่นอ้าวจวินกระทืบเท้าด้วยความโกรธ เดิมที่อยากจะแกล้งเด็กคนนี้ คิดไม่ถึงเลยว่าตนเองจะเป็นฝ่ายถูกเขาแกล้ง

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เดชราชาพิโรธ