เดชราชาพิโรธ นิยาย บท 8

"เขาเคยกินของพวกนี้ที่ไหนกัน อย่างมากที่สุดที่เขากินในชีวิตก็คือพวกอาหารง่ายๆ ดูหยุนซูสิ อยู่กับเขาก็ผอมลงไปด้วย"

อันที่จริง จ้าวฟางสงเองก็ไม่ชอบอาหารตะวันตกมากนัก เขาแค่คิดว่าจำเป็นต้องแสดงผลงานสักหน่อยก็เลยเลือกที่นี่

คนทั่วไปส่วนใหญ่ไม่รู้วิธีสั่งเมื่อมาที่นี่

ในเวลานี้ เขารับเมนูมาดูอย่างใจเย็น ก่อนจะสั่งอาหารสองสามอย่างอย่างสง่างาม และพูดคุยเกี่ยวกับวัฒนธรรมตะวันตกที่เรียนรู้มาจากไป่ตู้เพื่อให้อีกฝ่ายประทับใจ

นอกจากนี้เขายังจงใจไปเรียนภาษาฝรั่งเศสง่ายๆ มาด้วย เพื่อพยายามไล่จีบผู้หญิงสวยอย่างเย่หยุนซู ซึ่งถือได้ว่าเขาก็ลงแรงไปอยู่บ้าง

จ้าวฟางสง ทักทายสาวเสิร์ฟชาวฝรั่งเศสเป็นภาษาฝรั่งเศส

เซียวหยางคิดว่าจ้าวฟางสงรู้ภาษาฝรั่งเศส แต่ไม่คาดคิดว่าเมื่อเขาสั่งอาหารเขาจะเปลี่ยนไปเป็นภาษาจีนกลาง

เย่หยุนซูยิ้ม "ประธานจ้าว ไม่คาดคิดว่าคุณจะพูดภาษาฝรั่งเศส"

“ก็แค่ธรรมดาทั่วไปเท่านั้น พอพูดได้ ไม่ได้เก่งอะไร” จ้าวฟางสงรู้สึกภูมิใจอยู่บ้าง แน่นอนว่าการมาสถานที่ระดับไฮเอนด์สามารถชนะใจผู้หญิงได้

“ฟางสงช่างถ่อมตัวจริงๆ แค่มองก็รู้แล้วว่าคุณเป็นพวกที่ชอบไปในสถานที่ของคนดัง ภาษาฝรั่งเศษของคุณต้องผ่าน CET-4 หรือ CET-6 แน่ใช่ไหม” หลิวฉ่ายเสียกล่าวด้วยรอยยิ้ม

เซียวหยางเกือบจะหัวเราะออกมาดัง ๆ ไม่เคยได้ยินมาก่อนว่ามีภาษาฝรั่งเศสระดับสี่หรือระดับหกด้วย เพื่อที่จะเอาใจจ้าวฟางสง หลิวฉ่ายเสียยังไม่ละความพยายามจริงๆ

“แม่ยาย ผมกลับคิดว่าภาษาฝรั่งเศสของคุณตจ้าวนั้นออกจะแค่ทั่วๆ ไป คำพูดของเขาก็ไม่ราบรื่น และระดับของเขาก็เหมือนกับเด็กสามขวบ”

เมื่อได้ยินคำพูดของเซียวหยาง ทุกคนก็ตกตะลึง จ้าวฟางสงมีสีหน้าดูถูก "ดูเหมือนว่าคุณเซียวจะมีความรู้ภาษาฝรั่งเศสอย่างลึกซึ้ง?"

เซียวหยางพยักหน้า “อืม ดีกว่าคุณมาก”

หลิวฉ่ายเสียไม่พอใจทันทีและพูดอย่างเย็นชาว่า "เซียวหยาง นายพอได้แล้ว นายก็รู้ภาษาฝรั่งเศสด้วย? พ่อบ้านอย่างนาย อย่ามากก็รู้ประโยคสองประโยคจากทางทีวีเท่านั้นแหละ ยังคิดว่าตัวเองเก่งอยู่อีก คนขี้โม้ก็คือขี้โม้ ไม่มีทางได้เชิดหน้าชูตาหรอก”

ในใจเย่หยุนซูรู้สึกไม่ดี เดิมทีเธอเรียกเซียวหยางมาก็เพื่อแสดงว่าเธอมีสามีแล้วและปล่อยให้เขาเลิกราไป แต่ตอนนี้ทั้งครอบครัวกลับอยู่ข้างจ้าวฟางสง และแบ่งแยกเซียวหยางออกไปอยู่ฝั่งเดียว

“แม่อย่าพูดอย่างนั้นสิ”

"เอาล่ะ พวกเราสั่งอาหารเถอะ"

จ้าวฟานไม่ต้องการถูกมองว่าตนเป็นเด็กขี้ประจบประแจง หลังจากสั่งอาหารไปสองสามอย่าง เขาก็สั่งไวน์แดง Romani Kangdi สองขวด

จากนั้นจ้าวฟางสงก็ช่วยหลิวฉ่ายเสียและเย่เสี่ยวหว่านสั่งอาหาร

"หยุนซู คุณอยากกินอะไร"

"อะไรก็ได้" เย่หยุนซูพูดเรียบๆ

"คุณเซียว ผมไม่รู้รสนิยมของคุณ คุณสั่งเองดีกว่า"

พูดไป เขาก็ยื่นเมนูให้เซียวหยาง ในใจของเขารู้สึกสะใจขึ้นมา ในความคิดของเขา เซียวหยางต้องไม่เคยกินอาหารฝรั่งเศสแบบดั้งเดิมและอาจจะไม่รู้กระทั่งวิธีสั่งอาหารด้วยซ้ำ

เซียวหยางชำเลืองมองบริกรสาวชาวฝรั่งเศสและพูดเป็นภาษาฝรั่งเศสอย่างคล่องแคล่ว "สาวน้อย ผมขอกะหล่ำปลีปารีส หอยเชลล์ผัดซอสตับห่าน และโรลแซลมอนมาจอแรม"

บริกรสาวชาวฝรั่งเศสตาเป็นประกายและพูดอย่างเหลือเชื่อว่า "คุณ คุณ......พูดภาษาฝรั่งเศสได้? ภาษาฝรั่งเศสของคุณคล่องแคล่วมาก เป็นสำเนียงปารีสต้นฉบับด้วย"

นั่นเพราะที่นี่มีชาวจีนไม่กี่คนที่พูดภาษาฝรั่งเศสได้ โดยเฉพาะคนที่พูดคล่องแคล่วอย่างเซียวหยาง

หญิงสาวตัวน้อยเข้ามาหาเซียวหยางและพูดเบา ๆ ว่า "คุณคะ คุณเป็นคนจีนที่สุภาพเรียบร้อยที่สุดเท่าที่ฉันเคยเห็นมา คุณช่วยบอกเบอร์มือถือของคุณได้ไหม?"

ผู้หญิงฝรั่งเศสเป็นคนโรแมนติกและอ่อนไหว ดังนั้นจุดประสงค์ของการขอหมายเลขโทรศัพท์มือถือจึงชัดเจนในตัวเอง

เซียวหยางปฏิเสธด้วยรอยยิ้มและพูดเป็นภาษาจีนกลางว่า "ขอโทษครับ ผมมีภรรยาแล้ว"

หญิงสาวฝรั่งเศสมองไปที่เย่หยุนซูซึ่งอยู่ข้างๆ สีหน้าแสดงความอิจฉา

ในขณะนี้ ภาพความทรงจำของเย่หยุนซูที่มีต่อเซียวหยางได้เปลี่ยนไป ไม่ว่าจะพูดยังไง ผู้ชายคนนี้ถือว่ามีบางอย่างที่เชิดหน้าชูตาได้แล้ว

แต่พูดตามตรง ดูเหมือนว่าเธอไม่เคยเป็นฝ่ายเริ่มทำความเข้าใจผู้ชายคนนี้เลยตั้งแต่รู้จักกันมา

เย่หยุนซูอดไม่ได้ที่จะสงสัยว่าเขามีอะไรปิดบังตัวเองหรือไม่ แม้กระทั่งในตอนนั้นคุณปู่ของตนก็ยืนกรานจะให้แต่งงานกับผู้ชายคนนี้ มาตอนนี้เย่หยุนซูเริ่มสงสัย

จ้าวฟางสงนิ่งเงียบ เขาแสร้งทำเป็นเข้าใจและพยักหน้าเป็นครั้งคราว แต่ในใจกลับกู่ร้อง ไหนบอกว่าสามีของเย่หยุนซูเป็นพวกขี้แพ้ไร้ประโยชน์ไง วันนี้ได้เจอ ดูเหมือนจะแตกต่างจากข่าวลือ

ในขณะนี้ หลิวฉ่ายเสียก็เอ่ยดูถูกออกมา "ชิ เป็นภาษาฝรั่งเศสนิดหน่อยแล้วยังไง คิดว่าเจ๋งมากหรือไงกัน ถ้าฉันไม่ต้องทำการทำงานเอาแต่อยู่บ้านทั้งวัน ฉันก็สามารถเรียนรู้ภาษาต่างประเทศได้หลายภาษา ฟางสงยุ่งขนาดนี้ คงไม่เอาเรื่องนี้มาใส่ใจหรอกใช่ไหม”

"ประธานจ้าว คุณมีอะไรจะพูดกับหยุนซูไม่ใช่หรือ พวกเราทุกคนล้วนเป็นพยาน คุณได้โปรดพูดเร็วเข้า" เย่เสี่ยวหว่านเกลี้ยกล่อม

จ้าวฟางสงคิดว่านี่เป็นเวลาที่ไม่เลว ดังนั้นเขาจึงเอ่ยยิ้มน้อยๆ :

"หยุนซู แม้ว่าผมจะหย่าร้างไปแล้ว แต่ก็เพราะเหตุผลนี้ผมจึงถนอมความรู้สึกมากขึ้น การแต่งงานที่ไม่มีความสุขจะไม่มีวันยืนยาว ผมคิดว่าผมมีสิทธิ์ที่จะตามจีบคุณ"

นี่เป็นคำสารภาพแบบโจ่งแจ้ง

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เดชราชาพิโรธ