ตอนที่ 261 พิธีมอบรางวัล
ฉิงฮัวรีบลงมาจากรถอย่างรวดเร็ว เขาเดินตามคนเป็นเจ้านายไปอย่างเร่งรีบ จากนั้นก็พูดว่า “คุณเพิ่งตรวจสอบไปไม่ใช่เหรอครับเจ้านาย ว่าเมื่อไม่นานมานี้นายน้อยเฉิงเฉิงได้เข้าร่วมการแข่งขันวาดภาพของเยาวชนระดับนานาชาติ 'Billodis' แถมยังได้รับรางวัลใหญ่มาด้วย รายชื่อที่อยู่บนใบรายการพิธีการมอบรางวัลคืนนี้ก็มีชื่อของนายน้อยเฉิงเฉิงอยู่”
ความจริงแล้วฉิงฮัวเองก็ประหลาดใจมากเหมือนกัน วันนี้เขาขึ้นเครื่องติดตามเจ้านายไปซิดนีย์ตั้งแต่เช้าตรู่ พอเครื่องบินลงจอด พวกเขาก็แทบจะตรงเข้าไปถึงที่พักในเมืองซิดนีย์ของนายน้อยเฉิงเฉิงทันที
แต่คิดไม่ถึงเลยว่าจะไม่มีใครเหลืออยู่เลยสักคน
เห็นได้ชัดเลยว่าไม่ง่ายเลยที่เป่หมิงโม่จะยอมบินมาเยี่ยมเฉิงเฉิงที่ซิดนีย์ พอจะได้พบหน้าลูกชายตัวเองแล้วไม่เพียงแต่จะไม่ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่น แม้แต่เงาคนก็ยังไม่ได้พบเสียด้วยซ้ำ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงสีหน้าของเขาที่เดิมทีไม่น่ามองอยู่แล้วนั้นก็ยิ่งไม่น่ามองมากขึ้นไปอีก !
ฉิงฮัวยืนฮึดฮัดอยู่ข้างหน้าเจ้านาย เขารีบเข้าไปบังคับข่มขู่ให้คนรับใช้ทั้งสองคนเล่าเรื่องราวทั้งหมดออกมา
ความจริงก็เพิ่งจะได้รู้ว่านายน้อยเฉิงเฉิงจะเข้าร่วมพิธีการรับรางวัลที่โรงละครซิดนีย์แกรนด์ในคืนนี้
ฉิงฮัวรู้ดีกว่าฝีมือการวาดรูปของเจ้านายของเขานั้นยอดเยี่ยมเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านงานสถาปัตยกรรม สามารถเรียกได้ว่าเป็นอัจฉริยบุคคล
แต่คิดไม่ถึงเลยว่านายน้อยเฉิงเฉิงจะได้รับพรสวรรค์ในการวาดภาพสืบต่อมาตั้งแต่ยังตัวเล็กขนาดนี้ ไม่นึกเลยว่าจะสามารถคว้ารางวัลใหญ่ระดับนานาชาติ‘Billodis’มาได้ อำนาจและอิทธิพลของ ‘Billodis’ ในวงการจิตรกรรมนั้นระดับโลกเป็นอะไรที่ไม่สามารถสั่นคลอนได้
ฉิงฮัวแอบชื่นชมอยู่เงียบ ๆ
ภายใต้ท้องฟ้ายามค่ำคืน นัยน์ตาสีดำที่เป็นประกายแวววาวลุ่มลึกของเป่หมิงโม่หรี่ลงเล็กน้อย เขาทอดมองความสวยงามตระการตาของโรงละครซิดนีย์แกรนด์ ริมฝีปากยกยิ้มที่ดูคล้ายเย็นชาเหี้ยมโหด “ฉิงฮัว ฉันอยากรู้จริง ๆ ว่าแท้ที่จริงแล้วลูกชายของฉันใช้ภาพวาดแบบไหนมาเอาชนะใจของกรรมการระดับนานาชาติพวกนั้นกัน”
“เหอ เหอ ไม่ใช่ว่าพอเข้าไปแล้วเดี๋ยวเจ้านายก็จะรู้เองเหรอครับ” ฉิงฮัวถือตั๋ววีไอพีแถวแรกเอาไว้ในมือ เห็นได้ชัดว่าเขาทำงานได้มีประสิทธิภาพเป็นอย่างมาก
เป่หมิงโม่เลิกคิ้ว ประโยคที่เขาพูดต่อนั้นมาฟังดูแล้วเยือกเย็นผิดปกติ ราวกับว่ามันถูกบีบเคล้นออกมาจากไรฟัน “แต่ว่าที่ฉันอยากรู้มากกว่าอะไรคือเหตุผลที่ทำให้ลูกชายได้รับรางวัลใหญ่ของฉันทำอะไรแอบ ๆ ซ่อน ๆ แบบนี้”
ฉิงฮัวสั่นไปทั้งตัว
เป่หมิงโม่ก้าวเท้าเดินเข้าไปในโรงละครอย่างสง่างามสมเป็นสุภาพบุรุษ
*
ภายในสถานที่จัดงานพิธีการมองรางวัลเต็มไปด้วยผู้คนเนืองแน่นจนไม่มีที่นั่งเหลืออยู่ คึกคักจนเป็นอย่างมาก !
ด้านบนเวทีกำลังมีการกล่าวสุนทรพจน์เกี่ยวกับพิธีการมอบรางวัล‘Billodis’อย่างคึกคัก
ส่วนด้านล่างเวทีก็มีเด็ก ๆ มากมายหลากหลายผิวสีนั่งอยู่กับพ่อแม่ เฝ้ารอชมพิธีการรับรางวัลอันสำคัญของเด็ก ๆ ด้วยกัน
รูปแบบรางวัลของ‘Billodis’ประกอบด้วย รางวัลแห่งเกียรติยศ 10 รางวัล รางวัลเหรียญทอง 5 รางวัล รางวัลแอปเปิลทองคำ 3 รางวัล และรางวัลใหญ่ประจำปี‘Billodis’อีก 1 รางวัล
ผลงานของเด็ก ๆ ที่ได้รับรางวัลเหล่านี้นั้นมาจากทั่วทุกมุมโลก แต่ละภาพล้วนเป็นภาพที่ให้ผู้ที่พบเห็นมันรู้สึกสะท้านสะเทือนและยังเต็มไปด้วยความคิดสร้างสรรค์ ทั้งหมดนี้ก็เพื่อเป็นการผลักดันคลื่นลูกใหม่ที่มีความสามารถจนมิอาจต้านทานออกมาเพื่อเข้าสู่วงการจิตรกรรมระดับโลกในอนาคต
เป่หมิงโม่เดินเข้าไปในสถานที่จัดพิธีการ เมื่อเทียบกับแสงไฟที่สาดส่องสว่างไสวอยู่ด้านบนเวทีแล้ว แสงไฟภายในงานนั้นค่อนข้างที่จะมืดสลัว เขาเดินข้ามผ่านผืนพรมที่ทอดยาวแล้วนั่งลงบนเก้าอี้วีไอพีที่อยู่ตรงกลางของแถวแรก !
ฉิงฮัวเองก็นั่งลงตรงด้านข้างเจ้านายของเขา
ด้านบนเวทีมีชาวออสเตรเลียคนหนึ่งกำลังถือไมโครโฟน ทำหน้าที่เป็นพิธีการพูดรายงานออกมาเป็นภาษาอังกฤษอย่างคล่องแคล่ว
“ท่านสุภาพบุรุษและท่านสุภาพสตรีทั้งหลาย รวมไปถึงเหล่าเด็กน้อยที่น่ารักของพวกเราทุก ๆ คน รางวัลถัดไปที่ผมจะขอประกาศนั่นก็คือรางวัลแอปเปิลทองคำ ! ขอเชิญผู้ที่ได้รับรางวัลแอปเปิลทองคำทั้งสามคนขึ้นมาบนเวทีด้วยครับ…และแขกผู้มีเกียรติที่จะทำหน้าที่มอบรางวัลให้กับเหล่าอัจฉริยะที่มากไปด้วยพรสวรรค์ทั้งสามคนก็คืออาจารย์โทมัส จิตรกรใหญ่ที่มีชื่อเสียงโด่งดังจากประเทศอังกฤษ คุณโทมัส ลอเรนขอเชิญด้วยครับ”
ทันใดนั้นเองที่ด้านเวทีก็มีเสียงปรบมือดังสนั่นจนคล้ายเสียงฟ้าร้องดังขึ้น
*
ที่ด้านนอกพื้นที่จัดงาน กู้ฮอนกับเฉิงเฉิงแทบจะเดินหาไปทั่วทุกซอกทุกมุมโรงละครอยู่แล้ว แต่พวกเขาก็ยังหาหยางหยางไม่เจอ ทั้งสองคนรู้สึกร้อนใจจนคล้ายกับว่าเหมือนตนเองเป็นมดที่อยู่ในหม้อร้อน ๆ ภาพข่าวโทรทัศน์ที่มีเด็กหลายคนถูกลักพาตัวไปขายลอยเข้ามาในหัวของเธอ ทำเอาเหงื่อเย็นๆผุดขึ้นมาเต็มขมับ
เสียงเพลงในพิธีและเสียงปรบมือดังสนั่นภายในงานลอยออกมาให้ได้ยินเป็นครั้งคราว...
กู้ฮอนขมวดคิ้ว ใบหน้าซีดขาว เธอลูบลงบนศีรษะของเฉิงเฉิงอย่างอ่อนโยน “ลูกรัก ลูกรีบกลับเข้าไปรับรางวัลเถอะ วันนี้แม่มาก็เพื่อที่จะดูลูกรับรางวัล แม่ไม่อยากที่จะให้ลูกพลาดพิธีรับรางวัลอังทรงคุณค่านี้ แต่ว่าหยางดันมาหายตัวไปในช่วงเวลาสำคัญแบบนี้...”
ไม่รอให้กู้ฮอนพูดจบ ทันใดนั้นนัยน์ตาสีดำแวววาวดั่งหินออบซิเดียนของเฉิงเฉิงก็ส่องสว่างขึ้นมา “แม่ครับ หรือว่าหยางหยางจะเข้าไปข้างในแล้ว”
กู้หยางเบิกตากว้าง “นั่นสิ พวกเราตามหาอยู่ข้างนอกตั้งนานก็ยังหาไม่เจอ แทบจะค้นหาตามซอกมุมเล็กใหญ่ในโรงละครจนทั่วหมดแล้ว ขาดก็แต่ในพื้นที่จัดงาน...”
“หยางหยางชอบความคึกคักเป็นที่สุด พวกเรารีบเข้าไปหาดูข้างในกันเถอะครับแม่”
เฉิงเฉิงยิ่งพูดก็ยิ่งรู้สึกว่ามีความเป็นไปได้ รีบดึงกู้ฮอนเข้าไปในพื้นที่จัดงานอย่างรวดเร็ว
กู้ฮอนกำมือแน่น “ถ้าหากหาตัวเจ้าเด็กดื้อนั่นเจอละก็ เขาจะต้องถูกจับตีก้นสักที ช่างซุกซนจริง ๆ เลยให้ตายเถอะ”
สองแม่ลูกเดินเข้าไปในพื้นที่จัดงาน พื้นที่ข้างในใหญ่โตกว้างขวาง แต่ค่อนข้างที่จะมืดสลัว
แต่ก็ยังคงสามารถรับรู้ได้ถึงความชื่นชมยินดีของพิธีการมอบรางวัลนี้ได้...
กู้ฮอนมองไปยังการมอบรางวัลอันยิ่งใหญ่บนเวทีที่เต็มไปด้วยแสงไฟสว่างไสว เธอก้มลงพูดกับเฉิงเฉิงเบาๆ ว่า “ลูกรัก ลูกไปหาดูทางด้านซ้ายของคนพวกผู้ชมนะ เดี๋ยวแม่จะหาทางด้านขวาเอง แล้วตอนสุดท้ายพวกเราค่อยไปหาดูที่บริเวณตรงกลางด้วยกัน ถ้าใครเจอหยางหยางก่อนก็รีบไปยืนอยู่ในที่ที่อีกคนจะสามารถมองเห็นได้ชัดเจน เข้าใจนะ”
“ครับแม่ !” เฉิงเฉิงพยักหน้า
สองแม่ลูกแยกกันออกไปคนละทาง พวกเขาเดินไปเดินมาภายใต้แสงไฟที่มืดสลัว
แต่ทว่า...
เฉิงเฉิงรีบค้นหาบริเวณที่นั่งผู้ชมฝั่งซ้ายเสร็จอย่างรวดเร็ว แต่เขาไม่พบแม้แต่เงาของหยางหยาง ด้วยเหตุนี้จึงรีบเข้าไปค้นหาในโซนพื้นที่ตรงกลางอย่างรีบร้อน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เดิมพันรักยัยตัวแสบ