เดิมพันรักยัยตัวแสบ นิยาย บท 261

ตอนที่ 261 พิธีมอบรางวัล

ฉิงฮัวรีบลงมาจากรถอย่างรวดเร็ว เขาเดินตามคนเป็นเจ้านายไปอย่างเร่งรีบ จากนั้นก็พูดว่า “คุณเพิ่งตรวจสอบไปไม่ใช่เหรอครับเจ้านาย ว่าเมื่อไม่นานมานี้นายน้อยเฉิงเฉิงได้เข้าร่วมการแข่งขันวาดภาพของเยาวชนระดับนานาชาติ 'Billodis' แถมยังได้รับรางวัลใหญ่มาด้วย รายชื่อที่อยู่บนใบรายการพิธีการมอบรางวัลคืนนี้ก็มีชื่อของนายน้อยเฉิงเฉิงอยู่”

ความจริงแล้วฉิงฮัวเองก็ประหลาดใจมากเหมือนกัน วันนี้เขาขึ้นเครื่องติดตามเจ้านายไปซิดนีย์ตั้งแต่เช้าตรู่ พอเครื่องบินลงจอด พวกเขาก็แทบจะตรงเข้าไปถึงที่พักในเมืองซิดนีย์ของนายน้อยเฉิงเฉิงทันที

แต่คิดไม่ถึงเลยว่าจะไม่มีใครเหลืออยู่เลยสักคน

เห็นได้ชัดเลยว่าไม่ง่ายเลยที่เป่หมิงโม่จะยอมบินมาเยี่ยมเฉิงเฉิงที่ซิดนีย์ พอจะได้พบหน้าลูกชายตัวเองแล้วไม่เพียงแต่จะไม่ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่น แม้แต่เงาคนก็ยังไม่ได้พบเสียด้วยซ้ำ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงสีหน้าของเขาที่เดิมทีไม่น่ามองอยู่แล้วนั้นก็ยิ่งไม่น่ามองมากขึ้นไปอีก !

ฉิงฮัวยืนฮึดฮัดอยู่ข้างหน้าเจ้านาย เขารีบเข้าไปบังคับข่มขู่ให้คนรับใช้ทั้งสองคนเล่าเรื่องราวทั้งหมดออกมา

ความจริงก็เพิ่งจะได้รู้ว่านายน้อยเฉิงเฉิงจะเข้าร่วมพิธีการรับรางวัลที่โรงละครซิดนีย์แกรนด์ในคืนนี้

ฉิงฮัวรู้ดีกว่าฝีมือการวาดรูปของเจ้านายของเขานั้นยอดเยี่ยมเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านงานสถาปัตยกรรม สามารถเรียกได้ว่าเป็นอัจฉริยบุคคล

แต่คิดไม่ถึงเลยว่านายน้อยเฉิงเฉิงจะได้รับพรสวรรค์ในการวาดภาพสืบต่อมาตั้งแต่ยังตัวเล็กขนาดนี้ ไม่นึกเลยว่าจะสามารถคว้ารางวัลใหญ่ระดับนานาชาติ‘Billodis’มาได้ อำนาจและอิทธิพลของ ‘Billodis’ ในวงการจิตรกรรมนั้นระดับโลกเป็นอะไรที่ไม่สามารถสั่นคลอนได้

ฉิงฮัวแอบชื่นชมอยู่เงียบ ๆ

ภายใต้ท้องฟ้ายามค่ำคืน นัยน์ตาสีดำที่เป็นประกายแวววาวลุ่มลึกของเป่หมิงโม่หรี่ลงเล็กน้อย เขาทอดมองความสวยงามตระการตาของโรงละครซิดนีย์แกรนด์ ริมฝีปากยกยิ้มที่ดูคล้ายเย็นชาเหี้ยมโหด “ฉิงฮัว ฉันอยากรู้จริง ๆ ว่าแท้ที่จริงแล้วลูกชายของฉันใช้ภาพวาดแบบไหนมาเอาชนะใจของกรรมการระดับนานาชาติพวกนั้นกัน”

“เหอ เหอ ไม่ใช่ว่าพอเข้าไปแล้วเดี๋ยวเจ้านายก็จะรู้เองเหรอครับ” ฉิงฮัวถือตั๋ววีไอพีแถวแรกเอาไว้ในมือ เห็นได้ชัดว่าเขาทำงานได้มีประสิทธิภาพเป็นอย่างมาก

เป่หมิงโม่เลิกคิ้ว ประโยคที่เขาพูดต่อนั้นมาฟังดูแล้วเยือกเย็นผิดปกติ ราวกับว่ามันถูกบีบเคล้นออกมาจากไรฟัน “แต่ว่าที่ฉันอยากรู้มากกว่าอะไรคือเหตุผลที่ทำให้ลูกชายได้รับรางวัลใหญ่ของฉันทำอะไรแอบ ๆ ซ่อน ๆ แบบนี้”

ฉิงฮัวสั่นไปทั้งตัว

เป่หมิงโม่ก้าวเท้าเดินเข้าไปในโรงละครอย่างสง่างามสมเป็นสุภาพบุรุษ

*

ภายในสถานที่จัดงานพิธีการมองรางวัลเต็มไปด้วยผู้คนเนืองแน่นจนไม่มีที่นั่งเหลืออยู่ คึกคักจนเป็นอย่างมาก !

ด้านบนเวทีกำลังมีการกล่าวสุนทรพจน์เกี่ยวกับพิธีการมอบรางวัล‘Billodis’อย่างคึกคัก

ส่วนด้านล่างเวทีก็มีเด็ก ๆ มากมายหลากหลายผิวสีนั่งอยู่กับพ่อแม่ เฝ้ารอชมพิธีการรับรางวัลอันสำคัญของเด็ก ๆ ด้วยกัน

รูปแบบรางวัลของ‘Billodis’ประกอบด้วย รางวัลแห่งเกียรติยศ 10 รางวัล รางวัลเหรียญทอง 5 รางวัล รางวัลแอปเปิลทองคำ 3 รางวัล และรางวัลใหญ่ประจำปี‘Billodis’อีก 1 รางวัล

ผลงานของเด็ก ๆ ที่ได้รับรางวัลเหล่านี้นั้นมาจากทั่วทุกมุมโลก แต่ละภาพล้วนเป็นภาพที่ให้ผู้ที่พบเห็นมันรู้สึกสะท้านสะเทือนและยังเต็มไปด้วยความคิดสร้างสรรค์ ทั้งหมดนี้ก็เพื่อเป็นการผลักดันคลื่นลูกใหม่ที่มีความสามารถจนมิอาจต้านทานออกมาเพื่อเข้าสู่วงการจิตรกรรมระดับโลกในอนาคต

เป่หมิงโม่เดินเข้าไปในสถานที่จัดพิธีการ เมื่อเทียบกับแสงไฟที่สาดส่องสว่างไสวอยู่ด้านบนเวทีแล้ว แสงไฟภายในงานนั้นค่อนข้างที่จะมืดสลัว เขาเดินข้ามผ่านผืนพรมที่ทอดยาวแล้วนั่งลงบนเก้าอี้วีไอพีที่อยู่ตรงกลางของแถวแรก !

ฉิงฮัวเองก็นั่งลงตรงด้านข้างเจ้านายของเขา

ด้านบนเวทีมีชาวออสเตรเลียคนหนึ่งกำลังถือไมโครโฟน ทำหน้าที่เป็นพิธีการพูดรายงานออกมาเป็นภาษาอังกฤษอย่างคล่องแคล่ว

“ท่านสุภาพบุรุษและท่านสุภาพสตรีทั้งหลาย รวมไปถึงเหล่าเด็กน้อยที่น่ารักของพวกเราทุก ๆ คน รางวัลถัดไปที่ผมจะขอประกาศนั่นก็คือรางวัลแอปเปิลทองคำ ! ขอเชิญผู้ที่ได้รับรางวัลแอปเปิลทองคำทั้งสามคนขึ้นมาบนเวทีด้วยครับ…และแขกผู้มีเกียรติที่จะทำหน้าที่มอบรางวัลให้กับเหล่าอัจฉริยะที่มากไปด้วยพรสวรรค์ทั้งสามคนก็คืออาจารย์โทมัส จิตรกรใหญ่ที่มีชื่อเสียงโด่งดังจากประเทศอังกฤษ คุณโทมัส ลอเรนขอเชิญด้วยครับ”

ทันใดนั้นเองที่ด้านเวทีก็มีเสียงปรบมือดังสนั่นจนคล้ายเสียงฟ้าร้องดังขึ้น

*

ที่ด้านนอกพื้นที่จัดงาน กู้ฮอนกับเฉิงเฉิงแทบจะเดินหาไปทั่วทุกซอกทุกมุมโรงละครอยู่แล้ว แต่พวกเขาก็ยังหาหยางหยางไม่เจอ ทั้งสองคนรู้สึกร้อนใจจนคล้ายกับว่าเหมือนตนเองเป็นมดที่อยู่ในหม้อร้อน ๆ ภาพข่าวโทรทัศน์ที่มีเด็กหลายคนถูกลักพาตัวไปขายลอยเข้ามาในหัวของเธอ ทำเอาเหงื่อเย็นๆผุดขึ้นมาเต็มขมับ

เสียงเพลงในพิธีและเสียงปรบมือดังสนั่นภายในงานลอยออกมาให้ได้ยินเป็นครั้งคราว...

กู้ฮอนขมวดคิ้ว ใบหน้าซีดขาว เธอลูบลงบนศีรษะของเฉิงเฉิงอย่างอ่อนโยน “ลูกรัก ลูกรีบกลับเข้าไปรับรางวัลเถอะ วันนี้แม่มาก็เพื่อที่จะดูลูกรับรางวัล แม่ไม่อยากที่จะให้ลูกพลาดพิธีรับรางวัลอังทรงคุณค่านี้ แต่ว่าหยางดันมาหายตัวไปในช่วงเวลาสำคัญแบบนี้...”

ไม่รอให้กู้ฮอนพูดจบ ทันใดนั้นนัยน์ตาสีดำแวววาวดั่งหินออบซิเดียนของเฉิงเฉิงก็ส่องสว่างขึ้นมา “แม่ครับ หรือว่าหยางหยางจะเข้าไปข้างในแล้ว”

กู้หยางเบิกตากว้าง “นั่นสิ พวกเราตามหาอยู่ข้างนอกตั้งนานก็ยังหาไม่เจอ แทบจะค้นหาตามซอกมุมเล็กใหญ่ในโรงละครจนทั่วหมดแล้ว ขาดก็แต่ในพื้นที่จัดงาน...”

“หยางหยางชอบความคึกคักเป็นที่สุด พวกเรารีบเข้าไปหาดูข้างในกันเถอะครับแม่”

เฉิงเฉิงยิ่งพูดก็ยิ่งรู้สึกว่ามีความเป็นไปได้ รีบดึงกู้ฮอนเข้าไปในพื้นที่จัดงานอย่างรวดเร็ว

กู้ฮอนกำมือแน่น “ถ้าหากหาตัวเจ้าเด็กดื้อนั่นเจอละก็ เขาจะต้องถูกจับตีก้นสักที ช่างซุกซนจริง ๆ เลยให้ตายเถอะ”

สองแม่ลูกเดินเข้าไปในพื้นที่จัดงาน พื้นที่ข้างในใหญ่โตกว้างขวาง แต่ค่อนข้างที่จะมืดสลัว

แต่ก็ยังคงสามารถรับรู้ได้ถึงความชื่นชมยินดีของพิธีการมอบรางวัลนี้ได้...

กู้ฮอนมองไปยังการมอบรางวัลอันยิ่งใหญ่บนเวทีที่เต็มไปด้วยแสงไฟสว่างไสว เธอก้มลงพูดกับเฉิงเฉิงเบาๆ ว่า “ลูกรัก ลูกไปหาดูทางด้านซ้ายของคนพวกผู้ชมนะ เดี๋ยวแม่จะหาทางด้านขวาเอง แล้วตอนสุดท้ายพวกเราค่อยไปหาดูที่บริเวณตรงกลางด้วยกัน ถ้าใครเจอหยางหยางก่อนก็รีบไปยืนอยู่ในที่ที่อีกคนจะสามารถมองเห็นได้ชัดเจน เข้าใจนะ”

“ครับแม่ !” เฉิงเฉิงพยักหน้า

สองแม่ลูกแยกกันออกไปคนละทาง พวกเขาเดินไปเดินมาภายใต้แสงไฟที่มืดสลัว

แต่ทว่า...

เฉิงเฉิงรีบค้นหาบริเวณที่นั่งผู้ชมฝั่งซ้ายเสร็จอย่างรวดเร็ว แต่เขาไม่พบแม้แต่เงาของหยางหยาง ด้วยเหตุนี้จึงรีบเข้าไปค้นหาในโซนพื้นที่ตรงกลางอย่างรีบร้อน

กู้ฮอนที่คอยมองหาอยู่ฝั่งทางด้านขวาเองก็ไม่ได้อะไรกลับมาเลยแม้แต่น้อย

ถ้าอย่างนั้นก็เหลือเพียงแค่ที่นั่งตรงกลางแล้ว...

เฉิงเฉิงวิ่งเข้าไปในโซนที่นั่งตรงกลาง...

ทันใดนั้นไฟทั้งหมดก็ถูกดับลง !

กู้ฮอนชะงักเท้า เธอรู้สึกตื่นตระหนก

วินาทีต่อมาก็มีแสงสีขาวสายหนึ่งส่องสว่างขึ้นไปยังบนเวทีก่อนจะตามด้วยเสียงด้วยเสียงดนตรีที่ฟังดูแล้วรู้สึกฮึกเหิมและอลังการ...

หลังจากนั้นไม่นาน ก็มีเสียงพูดเป็นภาษาอังกฤษที่ทั้งสูงทั้งดังกังวานเป็นพิเศษของพิธีกรดังขึ้นมาพร้อมด้วยรอยยิ้มเต็มใบหน้า

“ท่านสุภาพบุรุษ ท่านสุภาพสตรี และเหล่าเด็กน้อยทุกคน ช่วงเวลาที่น่าตื่นเต้นที่สุดของพิธีมอบรางวัลกำลังจะมาถึง...รางวัลที่เรากำลังจะมอบให้ต่อจากนี้นั้น เป็นรางวัลเกียรติยศอันสูงสุดของการแข่งขันวาดภาพของเยาวชนระดับนานาชาติ 'Billodis' นั่นก็คือรางวัลประจำปี ! ”

“ท่านสุภาพบุรุษ ท่านสุภาพสตรี และเหล่าเด็กน้อยทุกคน ช่วงเวลาที่น่าตื่นเต้นที่สุดของพิธีมอบรางวัลกำลังจะมาถึง...รางวัลที่เรากำลังจะมอบให้ต่อจากนี้นั้น เป็นรางวัลเกียรติยศอันสูงสุดของการแข่งขันจิตรกรรมเยาวชนระดับนานาชาติ 'Billodis' นั่นก็คือรางวัลประจำปี ! และผู้ที่ได้รับรางวัลใหญ่ในครั้งนี้ก็คือเด็กชายที่มาจากครอบครัวชาวเอเชีย จิตรกรน้อยอายุห้าขวบที่มากไปด้วยพรสวรรค์ Stern Qi ขอเสียงปรบมือแสดงความยินดีดัง ๆ เพื่อเป็นการต้อนรับเขาขึ้นมารับรางวัลบนเวทีด้วยครับ”

เมื่อพิธีกรพูดจบก็มีเสียงปรบมือที่เต็มไปด้วยความชื่นชมยินดีดังสนั่นขึ้นมาทันที เพียงพอที่จะกินเวลาค้างไปจนถึงสามนาที

เป่หมิงโม่ที่นั่งอยู่ตรงที่นั่งวีไอพีของแถวแรกบริเวณด้านล่างเวทียังคงนิ่งสงบอยู่เช่นเดิม

ฉิงฮัวที่ปกติมันจะทำหน้าตาเคร่งขรึมจนติดเป็นนิสัย เมื่อตกอยู่ภายใต้บรรยากาศที่น่าตื่นเต้นแบบนี้แล้วก็อดไม่ได้ที่จะส่งเสียงโห่ร้องแสดงความยินดีให้กับนายน้อยเฉิงเฉิงของตนเองออกมา

แต่ทว่ากู้ฮอนที่ยืนอยู่ด้านล่างเวทีในเวลานี้รู้สึกสะเทือนไปทั่วทั้งหัวใจในทันที ดวงตาของเธอพยายามมองหาเงาของเฉิงเฉิง แต่เป็นเพราะแสงที่มืดสลัวนี้ทำให้ยากที่จะแยกออกให้ชัดเจนว่าใครเป็นใคร

เธอรีบสาวเท้าก้าวไปทางเวทีอย่างรวดเร็ว ภายในหัวใจมีเสียงความคิดที่ฟังดูรีบร้อนว่า เฉิงเฉิง ถึงตาของลูกแล้ว รีบขึ้นไปรับรางวัลเร็วเข้าลูกรัก...

เฉิงเฉิงที่ยืนนิ่งอยู่ในงานรู้สึกว่าหัวใจตนเองบีบรัดแน่น ตอนที่ได้ยินชื่อของตัวเอง ขาทั้งสองข้างก็รีบทะยานขึ้นไปด้านบนเวทีโดยไม่รู้ตัว

แต่ตอนที่เขายังคงอยู่ห่างจากเวทีประมาณสิบเมตร

ทันใดนั้น ด้านบนเวทีก็...

แท่นยกทรงกลมขนาดเล็กค่อย ๆ เลื่อนขึ้นไปข้างบนอย่างช้า ๆ ทันใดนั้นก็มีเด็กชายในชุดลำลองสีขาวปรากฏตัวขึ้นมาภายใต้แสงไฟสีขาว

ทรงผมที่ถูกเซตไว้ด้วยเจลแต่งผมมาอย่างดีช่วยสร้างความหล่อเหลาให้ไม่น้อย เด็กน้อยแสดงท่วงท่าของUltramanออกมาอย่างสุดจะเท่ บนหน้าอกยังแขวนกล้องถ่ายรูปสีดำเอาไว้แบบเอียง ๆ

“ว้าว...” ผู้ชนะเพียงคนเดียวของรางวัลใหญ่ในปีนี้ได้ดึงดูดความตื่นเต้นของทุกคนทันทีที่ปรากฏตัวออกมา !

เฉิงเฉิงที่อยู่ด้านล่างเวทีหยุดเท้าทันที แก้มเล็ก ๆ นั้นเริ่มจะกระตุก…

กู้ฮอนตกตะลึง !

เธอแทบจะไม่เชื่อสายตาของตัวเอง ไม่ผิดแน่...

เด็กชายที่พวกเธอตามหาตัวอยู่ด้านล่างเวทีอยู่กี่รอบก็ไม่อาจจะเจอ หยางหยาง !

มุมปากของเป่หมิงโม่กระตุกขึ้นมาอย่างอดไม่ได้เมื่อเขามองไปเห็นสภาพของลูกชายที่ยืนอยู่บนเวทีจากบนที่นั่งของตัวเอง เจ้าเด็กโง่นี่ ! เด็กคนนี้วางแผนที่จะทำให้ตระกูลเป่หมิงของเขาขายหน้าคนทั้งโลกเลยหรืออย่างไร

ฉิงฮัวที่นั่งอยู่ด้านล่างเวทีส่งเสียงโห่ร้องอย่างตื่นเต้นว่า “สุดยอดไปเลยครับนายน้อยเฉิงเฉิง”

แปะ แปะ แปะ แต่ทว่าเสียงของฉิงฮัวก็ถูกเสียงปรบมือที่ดังสนั่นราวกับเสียงฟ้าผ่านกลบทับ...

“ท่านแขกผู้มีเกียรติทั้งหลาย เด็กคนนี้คือผู้ที่ได้รับรางวัลใหญ่ประจำปีของ'Billodis'ในปีนี้ จิตรกรอัจฉริยะตัวน้อย Stern พวกเรารับชมภาพบนหน้าจอไปพร้อม ๆ กันเถอะครับ ผลงานภาพวาดที่แสดงอยู่บนหน้าจอนี้มีชื่อว่า The Little Tadpole Who Doesn’t Find My Mother วาดโดยจิตรกรน้อย Stern คนนี้นั่นเอง”

The Little Tadpole Who Doesn’t Find My Mother ปฏิกิริยาตอบสนองแรกของผู้คนคือ พวกเขานึกถึงวรรณกรรมทางวิทยาศาสตร์ที่เป็นที่แพร่หลายอย่างเรื่อง Little tadpole looking for mother ระหว่างที่เหล่าลูกอ๊อดกำลังตาหาแม่อยู่ในบ่อน้ำนั้นเต็มไปด้วยเรื่องน่าตลกขบขันจำนวนมาก พวกมันยังได้เจออุปสรรคและความยากลำบากอีกมากมาย แต่ทันทีที่หาแม่กบพบแล้ว เหล่าลูกอ๊อดก็รีบเข้าไปอยู่ในอ้อมกอดของแม่ทันที เรื่องราวระหว่างแม่และลูกนั้นไม่สามารถที่จะใช้อารมณ์ความรู้สึกใด ๆ บรรยายออกมาได้ เป็นที่ประทับใจของคนทั้งโลก

แถมภาพวาดของ Stern ครั้งนี้ก็คือ The Little Tadpole Who Doesn’t Find My Mother

เมื่อพิธีกรพูดจบ สายตาของทุกคนก็จับจ้องไปบนหน้าจอขนาดใหญ่

ว้าว ภาพวาดภาพนี้ลงสีได้สดใสดีจริง ๆ เป็นภาพวาดสีน้ำมันที่ออกแบบได้ทันสมัยโดดเด่นมีความเป็นเอกลักษณ์

ใช้สีตัดกันได้อย่างยอดเยี่ยม !

สิ่งที่เหนือความคาดหมายของผู้ชมคือ พวกเขาไม่เห็นบ่อน้ำแล้วก็ไม่เห็นกบตามที่พวกเขาได้จินตนาการเอาไว้

แต่ทว่ามันเหมือนราวกับว่าภายในภาพวาดที่ดูเหมือนเป็นนามธรรมแต่กลับบรรยายพรรณนาตามความเป็นจริงภาพนี้สามารถมองเห็นมดลูกที่อยู่ในร่างกายของผู้เป็นแม่อย่างเลือนราง ภายในมดลูกนั้นมีลูกอ๊อดสองตัวห้อยกลับหัวลงมา ลูกอ๊อดตัวสีดำห้อยกลับหัวอยู่อย่างนิ่งเงียบ แต่ลูกอ๊อดตัวสีขาวอีกตัวนั้นบิดร่างกายไปมาจนดูเกินจริง...

Sternยังใช้การลงสีซ้อนเงาแบบสี่มิติ ทำให้ตอนที่เปลี่ยนมุมมองในการดูภาพนั้น วิสัยทัศน์ของพวกผู้ชมก็จะเกิดการกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง ประหนึ่งว่ามองเห็นเจ้าลูกอ๊อดตัวสีขาวบิดตัวไปมาอย่างสมจริงสมจังราวกับมีชีวิตจริง ๆ

ทำไมเจ้าพวกลูกอ๊อดไม่ตามหาแม่แล้วล่ะ

ทำไมเจ้าลูกอ๊อดสองตัวนี้ถึงได้ห้อยหัวอยู่แบบนั้น

แล้วทำไมลูกอ๊อดตัวสีดำถึงได้ทำท่าทางเงียบ ๆ ดูกลัดกลุ้มใจปานนั้น แต่ลูกอ๊อดตัวสีขาวกลับเต็มไปด้วยความมีชีวิตชีวาเป็นอย่างมากกันละ

เหล่าผู้คนรู้สึกถึงความโศกเศร้าอันละเอียดอ่อนที่พรั่งพรูออกมาจากในภาพวาดภาพนี้ผ่านการประสานกันของสีที่เด่นชัด

หลังจากที่เป่หมิงโม่ได้เห็นรูปวาดของเฉิงเฉิง หางคิ้วก็อดที่จะยกขึ้นไม่ได้ ความชื่นชมด้วยความตกตะลึงแตกกระสานซ่านเซ็นขึ้นในแววตา ในขณะเดียวกันก็มีความไม่แน่ใจปรากฏขึ้นมา

ฉิงฮัวรู้สึกว่าภาพภาพนี้งดงามมากจริง ๆ มันเป็นการเปิดเผยเรื่องราวของวรรณกรรมสายมืดออกมาด้วยความไร้เดียงสา ไม่แปลกเลยที่ผลงานชิ้นนี้จะโดดเด่นออกมาท่ามกลางชิ้นงานหลายพันชิ้น

แต่สำหรับกู้ฮอนแล้ว หลังจากที่เธอได้เห็นภาพนี้ ในชั่วพริบตาหยดน้ำตามากมายก็รินไหลลงมาอาบทั้งสองแก้ม

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เดิมพันรักยัยตัวแสบ