บทที่ 561 อย่าเถียงกับนักกฎหมาย
เมื่อคิดถึงจุดนี้แล้ว ก้าวเดินของกู้ฮอนเริ่มชะลอลงเพื่อเว้นระยะห่างจากพวกเขาอย่างจงใจ เพราะเกรงว่าเขาจะรู้ความอึดอัดในตัวเธอ
ผ่านไปสักครู่หนึ่ง เฟยเอ๋อและเขาทั้งสามก็ได้เดินออกมายังหน้าล็อบบี้ของโรงพยาบาล และได้ขึ้นรถเก๋งสีดำที่จอดรออยู่หน้าประตู จากนั้นก็ออกจากโรงพยาบาลไป
กู้ฮอนถึงรู้สึกโล่งใจ เธอรีบออกจากประตูของโรงพยาบาลนั้นแล้วเรียกแท็กซี่เพื่อเดินทางไปยังที่พักของหยินปู้ฝันต่อ
***
ในบ้านของหยินปู้ฝัน เดิมทีเคยเป็นบ้านที่เงียบสงบ แต่ตอนนี้ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป
หยินปู้ฝันกับเฉิงเฉิงและหยางหยาง ในมือมีคอมพิวเตอร์คนละเครื่อง ซึ่งกำลังพากันเล่นเกมส์ อยู่
“ลุยเลย......เฉิงเฉิง ให้นายได้ลิ้มรสพลังอมตะของข้า นี่......คุณพ่อปู้ฝัน พ่ออย่าโกงผมได้ไหม” ใบหน้าเล็ก ๆ ของหยางหยางจ้องอยู่หน้าคอมพิวเตอร์นั้นอย่างจริงจัง และปากที่ยังพูดไม่หยุด
แน่นอนว่าศัตรูในเกมของหยางหยางนั้นต้องเป็นเฉิงเฉิงอย่างแน่นอน ส่วนหยินปู้ฝันนั่งไขว่ท้าวอยู่บนโซฟา และมีแล็ปท็อปวางอยู่บนตักเขา ซึ่งกำลังนั่งเล่นเกมส์อย่างเมามันกันอยู่
“กริ๊ง…...กริ๊ง......”
ณ เวลานี้ เสียงกริ่งประตูดังขึ้น
“หยางหยาง ไปเปิดประตูหน่อย…...”
“เดี๋ยวก่อนสิครับพ่อ กำลังบวกอยู่เลย เฉิงเฉิงนายอย่าโกงสิ คุณพ่อปู้ฝันครับ พ่ออยู่ใกล้ประตูมากกว่าพ่อช่วยเปิดประตูหน่อยสิครับ......”
……
ผ่านไปสองนาที ก็ยังไม่มีใครเปิดประตู
“กริ๊ง......กริ๊ง......”
เสียงกริ่งประตูก็ยังดังขึ้นเรื่อย ๆ
“หยางหยาง…...”
“คุณพ่อปู้ฝัน......”
“รู้แล้ว รู้แล้ว…...พ่อจะไปเดี๋ยวนี้ นายสองคนอย่าเพิ่งเปิดสงครามนะ” หยินปู้ฝันพูดเสร็จก็วางแล็ปท็อปไว้บนโซฟาแล้วลุกยืนขึ้นเพื่อจะไปเปิดประตู
“โอ้ย…...” หยินปู้ฝันยิ้มไม่ออก เพราะไขว้ขาไว้นานเกินไปจนขาทั้งสองข้างชาไปหมด
เขากัดฟันแล้วเดินกะโผลกกะเผลกไปที่ประตู
เมื่อหยางหยางเห็นหยินปู้ฝันลุกเดินไป เขาก็ยิ้มแล้วส่งสายตาให้เฉิงเฉิง ทั้งสองก็รีบรวบรวมกองทัพแล้วโจมตีฐานทัพของหยินปู้ฝันด้วยกัน
เมื่อประตูถูกเปิดออก กู้ฮอนเดินเข้ามาแล้วมองหน้าหยินปู้ฝันด้วยสีหน้าที่เคร่งเครียด “พวกเธอทำอะไรกันอยู่ ทำไมถึงเพิ่งมาเปิดประตู”
หยินปู้ฝันเกาหัวตัวเองแล้วยิ้มพูด “ผมกำลังอธิบายเรื่องการทำสงครามให้กับเฉิงเฉิงและหยางหยางอยู่ครับ”
เมื่อพูดถึงตรงนี้ ก็ได้ยินเสียงหยางหยางตะโกนออกมาจากในห้อง “เย้ พ่อปู้ฝันแพ้แล้ว......”
หยินปู้ฝันตกใจแล้วรีบเดินกะเผลกกลับไปดูแล็ปท็อปบนโซฟานั้น เขาก็ได้เห็นกองทัพของหยางหยางและเฉิงเฉิงรวมกันเป็นหนึ่ง แล้วกำลังโจมตีฐานทัพของเขาอยู่
นั่นคือการพ่ายแพ้สงครามที่เหลือเพียงซากของกองทัพ......
“เฮ้ ตัวแสบทั้งสอง บอกแล้วไม่ใช่เหรอว่าอย่าเพิ่งเปิดสงคราม ไม่รักษาคำพูดนี่นา วันหลังไม่เล่นด้วยแล้ววว” หยินปู้ฝันแสดงสีหน้าน้อยใจเหมือนกับเด็ก ๆ
หยางหยางปิดคอมพิวเตอร์แล้วกระโดดลงจากเก้าอี้โต๊ะคอมนั้น จากนั้นก็เดินออกมาจากห้อง ตามด้วยเฉิงเฉิงอยู่ด้านหลัง
“พ่อปู้ฝัน พ่อบอกห้ามทำสงคราม แต่ไม่ได้บอกว่าห้ามลับลอบโจมตีนี่นา” หยางหยางพูดอย่างได้ใจ
เฉิงเฉิงก็เห็นด้วย “ใช่ ๆ สงครามมันต้องประกาศศึก แน่นี่คือการโจมตีลับ ไม่จำเป็นต้องบอกก่อนหรอก”
กู้ฮอนเดินเข้ามาหาเขา แล้วเหลือบมองไปที่แล็ปท็อปนั้น “นี่คือการอธิบายการทำสงครามของคุณเหรอ”
สีหน้าหยินปู้ฝันมั่นใจ “ก็ใช่ไง คุณไม่เห็นเหรอ เขาสองคนจับมือเป็นพันธมิตรกัน แล้วแอบซุ่มโจมตีผม”
กู้ฮอนกลอกตาขาวใส่ “ฉันจะบ้าตาย นี่มันเป็นการพาลูก ๆ เล่นเกมส์ชัด ๆ ยังบอกว่าอธิบายการทำสงคราม ฉันก็ไม่ได้ห้ามพวกเขาเล่นเกมส์สักหน่อย แค่ไม่เวอร์เกินไปก็พอ”
หยินปู้ฝันได้แต่ยิ้ม “ฮอนฮอน ผมไม่ได้โกหกคุณนะ การเล่นเกมส์แบบนี้ก็เป็นการจำลองการทำสงครามนะ อีกอย่างเด็ก ๆ จะได้เรียนรู้ในการวางแผนในการทำสงคราม ซึ่งมันก็สนุกสนานมากแถมยังได้ประสบการณ์และทฤษฎีของการทำสงครามด้วย”
กู้ฮอนสุดจะทนกับคำแก้ตัวของทนายคนนี้แล้ว ได้แต่ชักสีหน้าน่าเบื่อ การแก้ตัวแบบนี้คงเป็นทักษะขั้นพื้นฐานของเขาแล้วล่ะ
***
กู้ฮอนเหลือทนกับสิ่งที่เขาพูดแล้ว “เอาล่ะ เอาล่ะ......คุณพูดอะไรก็ล้วนมีเหตุผลไปหมด ฉันนับถือในตัวคุณแล้ว พอใจยัง”
หยินปู้ฝันได้ใจมาก ไหน ๆ ก็ ไหน ๆ แล้ว สั่งสอนต่ออีกสักหน่อย “ฮอนฮอน ดูจากทัศนคติของคุณแล้ว ผมต้องพูดอะไรกับคุณหน่อย เนื่องในฐานะนักกฎหมายอาวุโส และเป็นเพื่อนสนิทที่สุดของคุณ และยังเป็นพ่อบุญธรรมของลูก ๆ คุณด้วย ผมจึงต้องถ่ายทอดประสบการณ์บางส่วนให้คุณด้วย”
หยินปู้ฝันพูดไปแล้วดึงแขนกู้ฮอนไปนั่งลงที่โซฟานั้น “ข้อห้ามที่สำคัญที่สุดของนักกฎหมาย สิ่งแรกก็คือใจต้องนิ่ง เหมือนที่คุณใจร้อนและรู้สึกเบื่อหน่ายเมื่อกี้นี้มันไม่สมควรอย่างมาก บางทีการที่เราใจร้อนอาจจะเกิดการตัดสินใจบางสิ่งบางอย่างผิดพลาด ซึ่งมันเป็นข้อห้ามที่สำคัญที่สุดเลยก็ว่าได้”
ประเด็นที่สองก็คือ การที่เราจะยอมแพ้อะไรง่าย ๆ มันก็คือข้อห้ามอันสำคัญของการเป็นนักกฎหมายเหมือนกัน ทัศนคติของตัวเองนั้นต้องยืนหยัดให้ถึงที่สุด การที่ไม่ยอมแพ้อะไรง่าย ๆ แบบนี้มันจะให้เราได้เห็นแก่นแท้ของเรื่องนั้น ๆ และสุดท้ายเราก็จะชนะมัน”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เดิมพันรักยัยตัวแสบ