บทที่ 562 ซ้อมการแสดง
หยางหยางรู้สึกได้ใจมาก “เด็กขายหนังสือพิมพ์ข้างทางแล้วทำไมล่ะ อย่างน้อยก็ยังมีบทบาทในการแสดงอยู่ เป็นเพราะพระเอกคนนี้จริง ๆ เพราะทุกคนฟังผม ผมเสนอเฉิงเฉิงขึ้นมา ไม่มีใครกล้าปฏิเสธเลย ดูสิผมมีหน้ามีตาแค่ไหน”
เฉิงเฉิงกลอกตาขาวใส่ แล้วพูดอย่างน่าเบื่อ “นิสัยนายก่อกวนขนาดนี้ ไม่มีใครกล้าปฏิเสธแน่นอนสิ อีกอย่างไม่มีใครสมัครเป็นบทบาทนี้สักคน นายเสนอขึ้นไปแบบนี้ คุณครูก็ต้องรับแน่นอนสิ”
เอาล่ะ ในที่สุดก็เข้าใจเรื่องราวทั้งหมดของเรื่องนี้แล้วล่ะ
เมื่อกู้ฮอนนึกถึงภาพที่หยางหยางปรากฏตัวบนเวทีการแสดง เธอรู้สึกกังวลในตัวเขาไม่น้อย
ขออย่าให้เหมือนที่เฉิงเฉิงพูดว่าหยางหยางจะเป็นจอมก่อกวนที่ทำให้การแสดงนี้พังเลย
เธอมองหน้าหยางหยางแล้วถามอย่างจริงจังอีกครั้ง “ลูกรัก ลูกรู้ว่าต้องแสดงยังไงจริง ๆ ใช่ไหม”
หยางหยางตอบกลับด้วยสีหน้าท่าทางที่มั่นใจมาก “ผมต้องเข้าใจอย่างแน่นอนสิครับ ผมเคยเห็นในทีวีแล้ว มันก็แค่แต่งหน้านิดหนึ่ง แล้วแต่งชุดนักแสดง จากนั้นก็แค่ขึ้นไปอ่านบทที่เตรียมไว้บทเวทีแค่นั้น”
คนรอบข้างเขา ณ ตอนนั้น ทุกคนต่างพากันรู้สึกเหวอเลย……
โอ้ว พระเจ้า โชคดีที่คุณหลี่ไม่ได้ยินคำนี้จากปากเขา
ไม่งั้น คุณครูต้องเสียใจที่ยอมให้หยางหยางรับบทนี้แน่ ๆ
แต่ว่า ต่อให้ตอนนี้จะเสียใจหรือหาคนมาเปลี่ยนก็คงไม่ทันแล้ว เพราะช่วงบ่ายวันนี้ก็ต้องซ้อมใหญ่ และพรุ่งนี้ก็เป็นวันแสดงแล้ว......
ในหัวสมองกู้ฮอนมีแต่คำว่า ชิบหายแล้ว......
สุดท้ายแล้วเธอได้แต่กัดฟันไว้ กระทืบเท้าแรง ๆ แล้วรวบรวมสติทั้งหมด จากนั้นพาหยางหยางไปซ้อมใหญ่บ่ายวันนี้ ช่วยไม่ได้จริง ๆ แล้ว
“ลูก ๆ กินข้าวกันแล้วยัง” กู้ฮอนมองนาฬิกา นี่มันก็ใกล้จะบ่ายโมงแล้ว
หยางหยางลูบท้องน้อยของเขาเบา ๆ “คุณพ่อปู้ฝันทำหมูตุ๋นกับน่องไก่ราดซอสให้พวกผมกินแล้วครับ”
หยินปู้ฝันเดินเข้ามาหากู้ฮอน “ฮอนฮอน คุณเพิ่งกลับมาจากโรงพยาบาล คงยังไม่ได้ทานข้าว ผมเก็บกับข้าวไว้ให้คุณแล้วนะ”
เมื่อพูดเสร็จเขาก็เดินเข้าไปอุ่นกับข้าวที่ห้องครัว จากนั้นก็ยกกับข้าวที่เตรียมไว้มาวางไว้บนโต๊ะชานั้นอย่างเรียบร้อย
กู้ฮอนอมยิ้มแล้วพูดกับเขา “ขอบคุณนะ ยังเตรียมกับข้าวไว้ให้” จากนั้นเธอนั่งลงที่โซฟาแล้วเริ่มกินอาหารนั้น
เมื่อหยินปู้ฝันเห็นกู้ฮอนทานอาหารอย่างเอร็ดอร่อย เขาจึงพยักหน้าแล้วรู้สึกพอใจในตัวเอง “ดูสิ หัวหน้าสำนักงานทนายความคนนี้ยังต้องมาทำหน้าที่แม่บ้านอีก”
กู้ฮอนหันหน้าเหลือบมองเขา “ทำไมเหรอ จะหาว่าเราสามแม่ลูกจุกจิกเหรอ”
หยินปู้ฝันรีบปฏิเสธ “ฮอนฮอน ผมจะคิดแบบนั้นทำไม ผมมีความสุขมากกว่าที่ได้ทำอะไรเพื่อพวกคุณ”
“ค่อยยังชั่ว รอฉันได้ใบอนุญาตทนายความมาก่อน ฉันจะรับคดีมาเยอะ ๆ เพื่อเป็นการตอบแทนคุณก็แล้วกันนะ” กู้ฮอนรีบกินข้าวให้เสร็จ จากนั้นจัดกระเป๋าให้เรียบร้อย “ลูกรักของแม่ เตรียมตัวไปซ้อมละครกันเถอะ”
“มาแล้วค้าบ......” หยางหยางรีบวิ่งไปสวมรองเท้าหน้าประตู
หยินปู้ฝันหันกลับไปแล้วเห็นเฉิงเฉิงกำลังเล่นแล็ปท็อปอยู่บนโซฟา “เฉิงเฉิง หยางหยางเขาจะไปซ้อมการแสดงกันแล้วนะ นายทำไมยังไม่ไปล่ะ”
เฉิงเฉิงวางแล็ปท็อปลง “ผมไม่ต้องซ้อมหรอกครับ บทบาทของผมง่ายมาก แค่เดินอีกข้างของเวทีไปยังอีกข้างก็พอแล้วครับ”
“ลูกรัก หยางหยางบอกว่าลูกยังมีบทพูดด้วยไม่ใช่เหรอ” กู้ฮอนถามด้วยความสงสัย
เฉิงเฉิงตอบกลับด้วยความเบื่อหน่าย “ความจริงแล้วก็แค่พูดคำเดียว ‘ขายหนังสือพิมพ์ค่ะ ใครจะซื้อหนังสือพิมพ์คะ’ ก็แค่คำนี้คำเดียว” เมื่อพูดเสร็จเฉิงเฉิงก็ก้มหน้าเล่นแล็ปท็อปต่อ
กู้ฮอนกับหยินปู้ฝันทำหน้าเหวอยืนอยู่กับที่ เพราะนี่คือบทบาทที่ได้รับการเสนอจากหยางหยางผู้ที่มีหน้ามีตาคนนั้น มันเป็นเพียงบทพูดคำเดียว แถมยังเป็นสาวขายหนังสือพิมพ์ที่ได้ขึ้นเวทีไม่ถึงนาทีด้วยซ้ำ......
ใช่แล้ว คุณไม่ได้อ่านผิด สาว ขาย หนัง สือ พิมพ์
***
สุดท้ายแล้ว หยินปู้ฝันกับเฉิงเฉิงอยู่ต่อในบ้าน เขาทั้งสองได้ส่งสายตาและสีหน้าที่บ่งบอกว่าช่วยอะไรไม่ได้ เพื่อที่จะอำลากู้ฮอนกับหยางหยาง
จากบ้านของหยินปู้ฝันไปโรงเรียนของหยางหยางก็ไม่ได้ไกลกว่าจากบ้านของกู้ฮอนไปโรงเรียนของหยางหยาง ระหว่างทางไปโรงเรียน ความรู้สึกของกู้ฮอนก็เหมือนเพลงจีนเพลงหนึ่ง – ชื่อเพลงว่าใจไม่ดี
เมื่อเธอเหลือบไปมองหยางหยาง ก็เห็นเด็กแสบคนนั้นสวมแว่นตากันแดดไว้ เหมือนไร้ความกังวลใด ๆ สองตาของเขาปิดลงแล้วนอนหลับอย่างสบายใจ
เดิมทีเป็นเส้นทางที่มีระยะไกลมาก แต่ด้วยอารมณ์ที่จำเป็นต้องแปรปรวนของกู้ฮอนกลับต้องรู้สึกว่าระยะทางมันใกล้กว่าปกติ
รู้สึกว่าเพิ่งขึ้นรถได้ไม่นานก็ถึงโรงเรียนแล้ว เธอยังต้องเปิดหน้าต่างรถนั้นเพื่อมองให้ชัดเจนว่าได้เดินทางถึงโรงเรียนแล้ว
เนื่องจากจะมีการแสดงวรรณกรรมในวันพรุ่งนี้ จึงมีนักเรียนจำนวนมากมาที่โรงเรียนเพื่อทำการซ้อมรอบสุดท้ายสำหรับการแสดงในวันพรุ่งนี้
สถานที่ซ้อมใหญ่ของหยางหยางก็คือเวทีที่จะจัดการแสดงวรรณกรรมในวันพรุ่งนี้
ณ เวลานี้ ครูหลี่กำลังจัดเตรียมสถานที่กับภารโรงประจำโรงเรียน บนเวทีนั้นก็มีนักเรียนหลายคนกำลังท่องบทของตัวเองอย่างจริงจัง
“สวัสดี” หยางหยางสวมแว่นกันแดดดำเดินเข้าไปในห้องประชุมนั้นเหมือนดาราตัวน้อยคนหนึ่งที่กำลังโบกมือทักทายกับเพื่อน ๆ ผู้ปกครอง และคนที่มาช่วยจัดเตรียมสถานที่
ทุกสายตานั้นก็ได้มองมาที่หยางหยาง ส่วนกู้ฮอนเดินตามหลังมา เธอรู้สึกอายจนต้องเอามือกุมหน้าผากไว้ ไอ่เด็กแสบคนนี้ ให้มันน้อยหน่อยได้ไหม
“หยางหยาง......” ณ เวลานั้น มีเสียงเด็กผู้หญิงที่สดใสเรียกจากข้างหลังเขา กู้ฮอนหันไปมองแล้วเห็นเด็กผู้หญิงน่ารักคนหนึ่ง เธอกำลังวิ่งเข้ามาหาหยางหยางอย่างร่าเริง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เดิมพันรักยัยตัวแสบ