ตอนที่ 599 ปะทุ
ฉิงฮัวเห็นว่าสถานการณ์ค่อนข้างตึงเครียด พร้อมที่จะเกิดการปะทะกันได้ตลอดเวลา เขาจึงกัดฟันบังอยู่ด้านหน้าร่างเป่หมิงโม่ เตรียมตัวที่จะสู้นองเลือดสักครั้งหนึ่ง
ด้านนอกห้องพักผู้ป่วยเกิดความวุ่นวายขึ้นมากะทันหัน ทำให้เป่หมิงยันขมวดคิ้วเสียมิได้
เขาปลอบขวัญเจียงฮุ่ยซินชั่วครู่แล้วก็เปิดประตูเดินออกมาดูว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่
เมื่อเขาออกมาจากประตูห้องก็เห็นกลุ่มคนสองพวกเตรียมท่าทางที่จะชกต่อยกัน
ด้านหนึ่งคือเป่หมิงโม่และฉิงฮัว อีกด้านหนึ่งคือเป่หมิงยี่เฟิงและชายแปลกหน้าอีกสองคน
เป่หมิงยันตัดสินใจเข้าไปยืนขวางอยู่ระหว่างกลุ่มคนสองกลุ่มนี้ “เฮ้ๆ พวกนายทะเลาะกันเรื่องอะไร ทำไมคนในครอบครัวตีกับคนในครอบครัวกันเองล่ะ”
เป่หมิงยี่เฟิงเห็นเป่หมิงยันออกมาจากห้องพักผู้ป่วยก็รู้สึกประหลาดใจอยู่บ้าง “อาสาม คุณอามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไรกันครับ”
ยังไม่ทันรอให้เป่หมิงยันเอ่ยตอบ เป่หมิงโม่ก็ยื่นมือผลักฉิงฮัวไปอีกทางแล้วชี้ไปที่เป่หมิงยี่เฟิง พลางพูดว่า “นายมีส่วนร่วมกับเรื่องที่โรงแรมแมนดารินหรือไม่!”
เป่หมิงยี่เฟิงยื่นมือออกมาปาดรอยเลือดที่มุมปาก “ถ้าผมเกี่ยวข้องแล้วจะมาที่นี่เพื่อรนหาที่ตายหรือครับ!”
เป่หมิงยันเดินไปอยู่หน้าเป่หมิงยี่เฟิง “ตอนนี้อารองของนายอารมณ์ไม่ดี นายก็อย่าไปหาเรื่องเขา”
“อาสาม คุณยังไม่บอกเลยว่าคุณมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร” เป่หมิงยี่เฟิงเอ่ยถามต่อ
เป่หมิงยันคิ้วกระตุก “คุณแม่ฉันอยู่ที่นี่”
เป่หมิงยี่เฟิงคิดได้ในทันทีว่า “คงจะไม่ใช่คุณย่าที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ไม่คาดฝันที่เกิดขึ้นที่โรงแรมหรอกนะครับ”
เป่หมิงยันส่ายหน้าขมขื่น “คนที่เกิดเรื่องไม่ใช่คุณย่าของนาย แต่เป็นคุณปู่ของนาย เขาเสียชีวิตจากเหตุการณ์ไม่คาดฝันในครั้งนี้”
เป่หมิงยี่เฟิงได้ยินข่าวการเสียชีวิตของคุณปู่แล้วใจก็หลุดลอยไปชั่วครู่ ราวกับร่วงหล่นลงมาจากอาคารสูงอย่างไรอย่างนั้น
ตั้งแต่เล็กจนโต เขาสามารถพูดได้ว่าเป็นคุณปู่ที่ดูแลเขาจนเติบใหญ่
เทียบกับเฉิงเฉิงแล้ว เขามีความรู้สึกผูกพันกับคุณปู่ลึกซึ้งมากกว่า ได้ยินข่าวร้ายแบบนี้กะทันหัน สีหน้าของเขาก็ขาวซีดในทันที “นี่เป็นไปไม่ได้ คุณปู่อยู่ที่โรงพยาบาลไม่ใช่หรือครับ ทำไมถึงไปปรากฏตัวที่โรงแรมได้กัน”
***
เป่หมิงยันถอนหายใจยาว “พูดแล้วเรื่องมันยาว หลังจากนี้ค่อยเล่าให้เราฟังแล้วกัน คุณย่าของนายรับไม่ได้หลังจากที่รู้ข่าวการเสียชีวิตของคุณปู่ของนายจึงเป็นลมหมดสติไป ดังนั้นจึงนำตัวมาส่งที่นี่”
ที่แท้เรื่องราวก็เป็นเช่นนี้ เขามองไปที่เป่หมิงยันพลางเอ่ยว่า “อารอง ผมอยากเข้าไปเยี่ยมคุณย่า”
เป่หมิงยันพยักหน้า “นายเข้าไปเถอะ”
เป่หมิงยี่เฟิงหมุนตัวไปบอกกับชายที่อยู่ข้างกายสองคนนั้นว่า “พวกนายรอฉันอยู่ข้างนอกสักพัก” จากนั้นก็เปิดประตูเบาๆแล้วเดินเข้าไป
ชายสองคนนั้นก็ยืนอยู่ที่หน้าประตูห้องพักผู้ป่วย
เป่หมิงยันหันหน้ากลับไปมองฉิงฮัว “ที่นี่ไม่มีเรื่องอะไรแล้ว ยี่เฟิงอยู่ที่นี่ไม่ต้องกังวล พวกนายก็ไปทำเรื่องที่สมควรทำเถอะ”
จากนั้นก็หันไปพูดกับเป่หมิงโม่ว่า “ตอนนี้เด็กๆล้วนอยู่ที่บ้าน ฉันไม่ได้บอกกับพวกเขาว่าคุณปู่เสียชีวิตแล้ว ดังนั้นพวกเขาจึงรู้แค่เรื่องที่คุณย่าเป็นลมหมดสติไป”
เป่หมิงโม่พยักหน้า ยื่นมือออกไปตบบ่าเขา
จากนั้นก็เดินนำฉิงฮัวเข้าไปในลิฟต์โดยสาร
*
เหตุการณ์ลิฟต์โดยสารร่วงหล่นอย่างไม่คาดฝันที่โรงแรมแมนดารินเมื่อตอนเช้าตรู่นั้นก็กลายเป็นข่าวอึกทึกครึกโครมในเมือง A ภายในระยะเวลาสั้นๆไม่กี่ชั่วโมง
เมื่อเป่หมิงโม่เดินนำฉิงฮัวออกมาจากลิฟต์
ตอนนี้ภายในห้องโถงของโรงพยาบาลก็มีนักข่าวมารวมตัวกันที่นี่มากมาย
ตอนที่พวกเขากำลังกระซิบกระซาบกันอยู่นั้นก็เห็นเป่หมิงโม่เดินออกมา จึงกรูเข้าไปล้อมไว้ในทันที
ไม่นานก็ล้อมเป่หมิงโม่และฉิงฮัวเอาไว้ได้ ทำให้เบื้องหน้าของพวกเขาไม่มีทางออกใดๆ
“คุณชายเป่หมิงโม่คะ ฉันเป็นนักข่าวของสำนักงานหนังสือพิมพ์เมือง คุณมีความเห็นอย่างไรเกี่ยวกับอุบัติเหตุจากการที่ลวดสลิงของลิฟต์โดยสารขาดที่โรงแรมแมนดารินเมื่อเช้านี้บ้างคะ”
“คุณชายเป่หมิงโม่ ผมคือนักข่าวจากสำนักงานข่าวบันเทิง ได้ยินมาว่าระหว่างที่อุบัติเหตุครั้งนี้เกิดขึ้น คุณกำลังเตรียมตัวเข้าสู่พิธีแต่งงานอย่างลับๆอยู่ อย่างนั้นหลังเรื่องนี้สิ้นสุดลงแล้ว คุณยังจะเข้าพิธีแต่งงานต่อหรือไม่ครับ”
“คุณเป่หมิง ได้ยินมาวันเรื่องราวในครั้งนี้มีคนในตระกูลเป่หมิงได้รับบาดเจ็บ ขออนุญาตสอบถามค่ะ.......”
กลุ่มนักข่าวเอ่ยถามอย่างกล้าหาญไม่หยุด แสงแฟลชจากกล้องถ่ายรูปกะพริบอยู่เบื้องหน้าเขาไม่หยุด ทำให้เป่หมิงโม่รู้สึกรำคาญเป็นอย่างมาก
เขาหน้าตึง ถลึงตามองนักข่าวที่ตามเหมือนแมลงวันกลุ่มนี้
ภายใต้สภาพการณ์ที่ทุกคนไม่ได้เตรียมการป้องกันก็ยื่นมือออกไปแย่งกล้องวิดีโอที่ส่องมาทางตัวเองอยู่ตัวหนึ่ง จากนั้นก็ยกขึ้นกลางอากาศ แล้วก็ออกแรงขว้างมันลงบนพื้น จากนั้นก็ใช้เท้าขยี้อย่างแรง
เป่หมิงโม่ให้ภาพลักษณ์ที่สุภาพและสง่างามต่อผู้คนมาตลอด ตอนนี้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นมากะทันหัน ทำให้นักข่าวทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ล้วนตะลึงค้าง
ไมโครโฟน กล้องถ่ายรูป กล้องวิดีโอล้วนถูกเก็บขึ้นในทันที
เหล่านักข่าวเงียบนิ่งขึ้นมาชั่วขณะ ไม่เพียงแต่พวกเขาเท่านั้น ทั้งห้องโถงโรงพยาบาลก็เงียบสงบขึ้นมาให้ทันที
คนที่มาหาหมอล้วนไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่ จึงพากันยื่นหน้ายื่นตาเข้ามาดูจากด้านหลังนักข่าว
ฉิงฮัวที่ตามอยู่ทางด้านหลังเป่หมิงโม่ขมวดคิ้วเล็กน้อย รีบเดินเข้าไปบังอยู่ด้านหน้าเจ้า “เจ้านายครับ พวกเราไปจากที่นี่กัน”
เขาเอ่ยพูดแล้วก็ยื่นมือแยกนักข่าวและกลุ่มคนที่มาดูเรื่องสนุกออกมา ปกป้องเป่หมิงโม่ให้เดินไปทางรถที่จอดอยู่บริเวณลานหน้าประตู
เป่หมิงโม่มองรถยนต์ที่ประดับประดาด้วยดอกไม้สดและโบว์หลากสีก็ยื่นมือออกไปดึงทั้งหมดแล้วโยนลงบนพื้น
“เจ้านาย ขึ้นรถเถอะครับ” ฉิงฮัวรู้ว่าตอนนี้อารมณ์ของเจ้านายไม่ดี แต่ก็ยังคงเตือนเขาอย่างระมัดระวัง
เขาเอ่ยจบ ก็เปิดประตูรถให้กับเป่หมิงโม่
เป่หมิงโม่ระบายอารมณ์ไปรอบหนึ่งแล้วก็ขึ้นรถ
ฉิงฮัวก็รีบตามขึ้นไปติดๆ
หลังจากที่กลุ่มนักข่าวรู้สึกตัวขึ้นมาก็พุ่งตัวไปทางรถยนต์ ต่างคนต่างนำอุปกรณ์ออกมาถ่ายรูปเป่หมิงโม่และรถของเขา เพื่อเก็บรูปที่เขาโมโหจนดึงดอกไม้ที่ประดับประดาบนรถทิ้งเอาไว้
***
ฉิงฮัวขับรถพาเป่หมิงโม่กลับมายังบ้านใหญ่ตระกูลเป่หมิง
เขานั่งอยู่บนโซฟาโดยไม่เอ่ยพูดอะไรทั้งนั้น
เฉิงเฉิงและหยางหยางก็นั่งอยู่ในห้องนอนของเฉิงเฉิง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เดิมพันรักยัยตัวแสบ