ตอนที่609 ล้วนเป็นคนกันเอง
“เฉียวเฉียว น้องพูดก็ไม่ผิด ในฐานะที่เป็นลูกชาย พี่ก็ทำลายจิตใจพ่อแม่เป็นอย่างมาก ในฐานะพี่ชาย พี่ก็เป็นแบบอย่างที่ไม่ดีให้กับน้อง ” น้ำเสียงของโล่ฮานอ่อนโยนขึ้นมาเยอะมาก เขามองลั่วเฉียวแล้วพูดต่อว่า
“แต่ว่า ในฐานะที่เป็นลูกสาวของพ่อแม่ ก็ไม่ใช่หนีหายไปหลายปีไม่กลับมาบ้านนะ คุณรู้ไหม ว่าพ่อแม่ยังคงเก็บรักษาห้องของคุณไว้อยู่ เหมือนแบบเดิมที่คุณหายไปไม่มีผิดเพี้ยน แม่คอยกวาดทำความสะอาดห้องของคุณ หวังว่าสักวันหนึ่ง คุณกลับมาก็จะได้มีที่พักอยู่ พ่อก็เห็นละครที่คุณแสดง เขาจะนั่งดูคุณแสดงหน้าจอทีวีกับแม่ และก็มักจะน้ำตาไหล ”
“พี่ ไม่ต้องพูดแล้ว ตอนแรกฉันเป็นคนเอาแต่ใจเกินไป ฉันสู้ทนอยู่ด้านนอกมาตั้งหลายปีไม่กล้าที่จะกลับบ้านกลัวพ่อแม่เห็นฉันแล้วจะโกรธ คิดไม่ถึงว่าพวกเขาอยากที่จะเจอฉันมาก ” พูดถึงตรงนี้ ลั่วเฉียวก็หมุนตัวจะเดินออกไป
โล่ฮานดึงน้องสาวเอาไว้ “เฉียวเฉียว คุณจะทำอะไร? ”
***
ลั่วเฉียวน้ำตาเออล้นออกมาหันหน้ากลับมามองพี่ชายแล้วพูดว่า “ฉันจะกลับไปดูพวกเขาเดี๋ยวนี้ ”
โล่ฮานมองน้องสาวอย่างอ่อนโยน แล้วพยักหน้าเบาๆ “พี่ก็กำลังจะเตรียมตัวกลับพอดี พวกเรากลับไปพร้อมกันเถอะ ”
สองพี่น้องเดินออกมาจากห้องอาหารพร้อมกัน
เห็นพวกเขาเดินออกมา แอนนิถามอย่างเป็นห่วงว่า “พวกคุณไม่เป็นไรแล้วใช่ไหม? ”
โล่ฮานยิ้มยิ้ม “ไม่มีอะไรแล้ว ขอโทษที่ให้พวกคุณได้เห็นเรื่องน่าตลกแล้ว ผมจะพาเฉียวเฉียวกลับบ้านตอนนี้ ”
แอนนิพยักหน้า “ถึงแม้ว่าฉันจะไม่รู้ว่าพวกคุณมีเรื่องที่ไม่พอใจอะไรกันแน่ แต่ว่าพูดออกมาให้ชัดเจนก็ดีที่สุดแล้ว ”
เธอเพิ่งพูดเสร็จ กู้ฮอนก็ซึมๆกลับมาถึงบ้านพอดี
ตั้งแต่ที่เธอกับทนายความหวังกลับมาจากบริษัทเป่หมิง ทั้งสองคนก็มีสิ่งที่ไม่พอใจกันขึ้นมานิดหน่อย
โดยเฉพาะทนายความหวัง เขาคิดว่ากู้ฮอนมีหยินปู้ฝันค้ำเอวอยู่ ไม่ว่าจะทำอะไรหรือพูดอะไรก็จะไม่แคร์
แต่กู้ฮอนกลับรู้สึกว่าตัวเองกลับไม่ได้ทำอะไรที่ไม่เหมาะสม เธอคิดว่าไม่จำเป็นต้องอ่อนน้อมถ่อมตัวกับเป่หมิงโม่เหมือนกับทนายความหวัง
ทั้งตอนบ่าย คดีที่ทั้งสองร่วมกันทำก็ไม่มีความคืบหน้าใดๆเลย
มองเห็นพวกเขาทั้งสองอารมณ์ไม่ดีขัดแย้งกัน หยินปู้ฝันก็เลยไม่ให้พวกเขาทำโอที เพราะว่าถ้าทำโอทีด้วยอารมณ์แบบนี้ ก็คงทำให้เสียเวลาเปล่าๆ
*
เมื่อตอนที่เธอกลับมาถึงบ้าน เงยหน้าขึ้นมามองก็เห็นลั่วเฉียวถูกผู้ชายร่างพอๆกับฉิงฮัวดึงไว้อยู่
ดวงตาทั้งสองของเธอแดงก่ำ เหมือนร้องไห้มา
แอนนิและลูกชายทั้งสองคนยืนอยู่ข้างพวกเขา แต่ก็ไม่มีท่าทีที่จะห้ามอะไรเลยสักนิด
“เฉียวเฉียว คุณกลับมาตอนไหน สรุปเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่? ” เธอพูดแล้วเดินไปด้านหน้าลั่วเฉียว และก็ใช้สายตาที่จงใจมองผู้ชายที่ดึงเธอคนนั้นอีกด้วย
มองดูท่าทางของพวกเขา ผู้ชายคนนี้เหมือนจะลากเธอออกไปจากที่นี่
ลั่วเฉียวเห็นกู้ฮอนกลับมา รีบเผยรอยยิ้มออกมาทันที “ฉันเพิ่งถ่ายละครเสร็จแล้วกลับมา เดิมทีจะกลับไปที่โรงแรมเลย แต่ว่าคิดได้ว่าไม่ได้เจอเธอมานานแล้ว ก็เลยมาหาเธอและลูกๆของเธอก่อน ”
“งั้นคุณผู้ชายคนนี้คือ? ” กู้ฮอนมองผู้ชายที่อยู่ข้างเธอ ถามด้วยความสงสัย
ลั่วเฉียวยิ้มแล้วชี้ไปที่ โล่ฮานที่อยู่ข้างเธอ “นี้คือพี่ขายของฉัน ชื่อโล่ฮาน คิดไม่ถึงว่าฉันเข้ามาที่นี่ก็เห็นเขาอยู่ที่นี่พอดี ”
กู้ฮอนโค้งพยักหน้าให้ โล่ฮานอย่างแสดงความขอโทษ “ขอโทษนะคะ ฉันชื่อกู้ฮอน เป็นเพื่อนสนิทของเฉียวเฉียว ”
เธอยิ่งฟังยิ่งสับสนเข้าไปใหญ่ ทำไมพี่ขายของเฉียวเฉียวถึงมาถึงบ้านก่อน เหมือนกับว่าเขาไม่ได้มาเพื่อเฉียวเฉียวเลย
เห็นท่าทางสับสนงุนงงของกู้ฮอน แอนนิพูดขึ้น “ฮอน ที่จริงเป็นอย่างงี้ คุณโล่ฮานมาที่นี่เพื่อสอนเสริมให้กับหยางหยาง ”
โล่ฮานพยักหน้าให้กู้ฮอนอย่างสง่างาม “คุณกู้ฮอน ผมชื่อโล่ฮาน เป็นอาจารย์สอนที่บ้านของเป่หมิงซีหยาง เป็นคุณเป่หมิงที่วางแผนให้ผมมาวันนี้ครับ ”
ในที่สุดกู้ฮอนก็เข้าใจว่าสรุปเกิดอะไรขึ้นกันแน่แล้ว
“ครูโล่ ในเมื่อมาแล้ว ทำไมถึงรีบร้อนกลับอย่างนี้ล่ะ คุณดูซินี้ก็ได้เวลากินข้าวแล้ว กินข้าวให้เสร็จก่อนแล้วค่อยกลับนะคะ ถึงยังไงก็ยังไม่ได้กินข้าวนิคะ ”
เมื่อหยางหยางได้ยิน ก็เบิกบานดีใจ เขาหวังเป็นอย่างยิ่งว่า โล่ฮานจะอยู่กินข้าวที่นี่ ยืนอยู่ข้างๆแล้วรีบพูดออกมา “ใช่แล้ว ครูโล่ คุณก็ให้เกียรติแม่ผมหน่อยเถอะ กินข้าวอยู่ที่นี่ก่อน ”
“คือ……” โล่ฮานมีความลังเลใจนิดหน่อย เขาหันไปสบตากับน้องแป๊บหนึ่ง ลั่วเฉียวยิ้มๆแล้วพยักหน้า
***
น้องสาวพยักหน้าแล้ว และกู้ฮอนก็มีความกระตือรือร้นอยากจะให้ตัวเองอยู่ก่อนอีก
ถ้าปฏิเสธพวกเขาอีกก็ตัดน้ำใจเกินไปแล้ว โล่ฮานพยักหน้า “ก็ได้ พวกเราต้องรบกวนพวกคุณแล้วนะครับ ”
โล่ฮานยอมที่จะกินข้าวที่นี่ หยางหยางดีใจที่สุด เขากระโดดแล้วตะโกนออกมาเสียงดัง
แล้วก็หมุนตัววิ่งเข้าไปในห้องนอน หยิบเกมออกมาจากกระเป๋าเดินทาง “ครูโล่ พวกเรามาแข่งกัน ”
กู้ฮอนเห็นหยางหยาง เจ้าเด็กน้อยคนนี้ไปไหนก็ห่างจากเกมของเขาไม่ได้เลยจริงๆ
“หยางหยาง คุณเขียนการบ้านเสร็จหรือยังถึงเล่นเกม? ” กู้ฮอนเห็นว่าทุกคนล้วนเป็นคนกันเอง ก็เลยถามหยางหยางเหมือนปกติ
“ผมเขียนเสร็จแล้ว ไม่เชื่อก็ถาม ครูโล่ ” หยางหยางพูดไปด้วยแล้วก็เสียบปลั๊กไปด้วย
กู้ฮอนรู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างมาก หยางหยางเขียนการบ้านเสร็จได้อย่างรวดเร็วตั้งแต่ตอนไหน ทุกครั้งต้องเลยสิบสองนาฬิกา เขาก็ถึงจะทำ
และเห็นเขากับครูโล่สนิทกันแบบนั้นอีก ก็ดูเหมือนว่าพี่ชายของลั่วเฉียวมีฝีมือในการสอนเด็กๆจริงๆ
ในเมื่อเป็นแบบนี้ กู้ฮอนก็ไม่ได้สนใจเขาแล้ว ลากแอนนิเดินไปที่ห้องครัว เตรียมทำกับข้าว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เดิมพันรักยัยตัวแสบ