คุณป๋าพาฉันมาที่ร้านอาหารสุดหรู ที่ขึ้นชื่อว่าราคานั้นแพงหูฉีก แต่ถึงราคาจะแพงยังไงก็คงไม่มีผลกระทบอะไรกับคุณป๋าหรอก
“แค่มากินข้าว ไม่เห็นห้องให้ลูกน้องตามมาเฝ้ามากมายขนาดนี้เลยนี่คะ” ฉันท้วงขึ้นในขณะที่กำลังรออาหารมาเสริฟ
เพราะนี่มันห้องอาหารแบบส่วนตัว ด้านในจะมองเห็นคนด้านนอกชัดเจน แต่คนด้านนอกมองเข้ามาจะไม่เห็นอะไร ส่วนด้านหน้าห้องอาหารก็จะมีลูกน้องของคุณป๋ายืนเรียงรายอยู่กันเป็นแถว
“ฉันเป็นนักธุรกิจ ทั้งถูกและผิดกฎหมาย การมีลูกน้องคอยตามมันเป็นเรื่องปกติ เธอน่าจะชินได้แล้วนะ”
“พี่กล้าไม่ตามมาด้วยหรอคะ”
ดูเหมือนว่าคำถามของฉันจะทำให้คุณป๋าไม่ชอบใจสักเท่าไหร่ ฉันจึงเลือกที่จะเงียบดีกว่า เพราะที่นี่คงไม่เหมาะถ้าจะมีปากเสียงกัน
“ไอ้กล้ามันทำงานให้ฉันอยู่” คุณป๋าตอบเพียงสั้นๆ หลังจากจบคำพูดของคุณป๋า พนักงานก็ยกอาหารมาเสริฟ
“เป็นไงบ้าง มหาวิทยาลัยถูกใจเธอหรือเปล่า”
“ค่ะ ถูกใจ”
“แล้วมีผู้ชายมาเกาะแกะหรือเปล่า ?” คุณป๋าถามโดยมี่จ้องมองใบหน้าของฉันตาไม่กระพริบ
“หนูเพิ่งไปมหาวิทยาลัยวันแรก คงจะไม่ฮ๊อตถึงขนาดมีผู้ชายมารุมล้อมหรอกนะคะ”
“ก็ดี....”
ทั้งฉันและคุณป๋าต่างก้มหน้าก้มตากินข้าว ทั้งที่ชวนฉันมาแท้ๆ แต่บทที่อยากจะเงียบคุณป๋าก็เงียบซะจนบรรยากาศโดยรอบมันอึดอัด
“กับฮาน่าไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันแล้วจริงๆ หรอคะ” ฉันตัดสินใจถามในสิ่งที่ค้างคาใจ
คำถามของฉันทำให้คุณป๋าที่กำลังกินข้าวอยู่เงยขึ้นมามอง ควงตาคู่นั้นของคุณป๋ามันเย็นยะเยือกและยากที่จะคาดเดา
จู่ๆ คุณป๋าก็หัวเราะออกมาในลำคอก่อนจะวางช้อนลงบนจ้านข้าว “เธอเห็นว่าฉันเป็นพวกจมปักหรือกับอะไรเดิมๆ หรือยังไง”
“ก็ทำเหมือนว่าหลงมันขนาดนั้น...”
“เธอทำเหมือนกับว่ากำลังหึงฉันอยู่ ?”
“มะ ไม่สักหน่อยค่ะ หนูไม่คิดอะไรแบบนั้นหรอก” ฉันเม้มปากแน่น ทำไมต้องรีบรนรานปฏิเสธไปแบบนั้นด้วย ทำให้คุณป๋าที่เห็นท่าทางของฉันถึงกับต้องยิ้มมุมปากอย่างพึงพอใจ
คุณป๋าพ่นลมหายใจออกมาหนักๆ ก่อนจะหยิบแก้วน้ำขึ้นมาดื่มแล้วพูด “เรื่องบางเรื่องฉันก็ทำเพราะผลประโยชน์ของตัวเอง”
“...คะ ?” ฉันขมวดคิ้วเป็นปม เพราะคำพูดของคุณป๋ามันไม่ได้สอดคล้องอะไรกับเรื่องที่เรากำลังคุยกันอยู่เลยสักนิด
“กินข้าวเถอะ อย่าใส่ใจเรื่องของฉันมากนักเลย”
มันเป็นเหมือนการเตือน เตือนว่าฉันไม่มีสิทธิ์ไปยุ่งเรื่องส่วนตังของคุณป๋า แต่คุณป๋าก็แค่ใช้คำพูดที่มันซอฟลงก็เท่านั้น
หลังจากกินข้าวเสร็จ ฉันก็รีบขอตัวกลับคอนโด อ้างว่าเอวารออยู่คุณป๋าจึงยอมให้กลับมาง่ายๆ แต่จริงๆ แล้วเอวาไม่ได้รอฉันหรอก
เช้สวันต่อมา...
ฉันมาที่มหาวิทยาลัยพร้อมกับเอวาและฟาร์น แต่ไม่ได้ขึ้นรถมาคันเดียวกันหรอกนะ เพราะวันนี้ฉันดันตื่นสาย สองคนนั้นเลยมาก่อน
วันนี้ฉันมีเรียนแค่ถึงห้าโรงเช้าน่ะ ถือว่าเป็นเริ่มเรียนวันแรก
“นู้นไงเมเบลมานู้นแล้ว” เอวาพอเห็นฉันก็รีบชี้ให้ฟาร์นหันมามองทันที
“เมเบล เมื่อกี้พี่เบสมาถามหาแกด้วย” เอวารีบพูดพอฉันเดินมาถึง
ฉันมองอย่างแปลกใจ คงจะหนีไม่พ้นจริงๆ สินะ เวรกรรมอะไรของฉันกัน ถึงได้มีแต่เรื่องมาให้ปวดหัวอยู่ทุกวัน
“ไปเรียนเถอะว่ะ อย่าไปใส่ใจมันเลย” ฟาร์นบอก
ฉันกับเอวาพยักหน้ารับก่อนที่เราจะเดินไปที่ตึกเรียน ซึ่งก็ไม่ได้อยู่ไกลจากตรงนี้สักเท่าไหร่
หลังจากเรียนเสร็จฉันกับเพื่อนก็แยกย้านกัน โชคดีที่ไม่เจอพี่เบสเลย คงเป็นเพราะมหาวิทยาลัยมันกว้างและมีนักศึกษาอยู่หลายพันคนด้วย การเจอกันคงไม่ใช่เรื่องง่าย
เอวากับฟาร์นมารถคันเดียวกันสองคนนั้นกลับไปแล้ว ส่วนฉันจอดรถไว้ไกลหน่อยจึงต้องเดินไกลกว่าเพื่อน
“บ้าอะไรเนี่ย!!” ฉันสบถออกมาอย่างหัวเสียเมื่อเห็นว่ายาวรถล้อหน้าของตัวเองมันแบนติดไปกับพื้น ทั้งที่เมื่อเช้าก็ยังดีๆ อยู่ แล้วทำไมตอนนี้ถึงมาแบนได้
“วันซวยอะไรของฉันกัน!!” ฉันพ่นลมหายใจออกมาพรืดใหญ่ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา กำลังจะโทรออกไปหาฟาร์น
“น้องเมเบล”
ยังไม่ทันได้กดโทรออก เสียงผู้ชายคนหนึ่งก็ท้วงดังขึ้นมาจากทางด้านหลังของฉัน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เด็กดื้อของคุณป๋า Nc20+
มีต่อไหมครับ...