ในหัวของฉันมันเต็มไปด้วยความสับสน ไม่รู้ว่าพี่เบสต้องการอะไร ทำไมท่าทางของเขาถึงได้เปลี่ยนไปราวกับเป็นคนละคนแบบนี้
“ทำแบบนี้ทำไมคะ” ฉันตัดสินใจถามออกไป เมื่อเห็นว่าพี่เบสขับรถออกจากตัวเมืองแล้ว แต่เขากลับไม่ยอมตอบคำถามของฉัน
“พี่เบส จอดรถเถอะนะคะ เมเบลขอร้อง” ฉันไม่รู้จะทำยังไงแล้ว นอกจากอ้อนวอนเขา ทันทีที่ฉันพูดจบพี่เบสก็ระเบิดเสียงหัวเราะออกมาเหมือนคนบ้า
“ไม่ต้องกลัว พี่ไม่ทำอะไรที่มันไม่ดีหรอกครับ”
“จะพาเมเบลไปไหนคะ บอกได้มั้ย...”
“เดี๋ยวก็รู้ครับ”
“เพราะเมเบลปฏิเสธพี่เบสใช่มั้ย พี่เบสถึงทำแบบนี้”
พี่เบสหัวเราะในลำคอแล้วค่อยๆ หันใบหน้าที่เปื้อนรอยยิ้มมามองฉัน “อย่าสำคัญตัวมากขนาดนั้นสิครับ”
คำตอบของพี่เบสทำให้ฉันหน้าชาไปทันที ฉันทำอะไรไม่ได้เลย จะเปิดประตูรถก็ไม่ได้ ทำได้แค่นั่งเงียบและคิดหาทางว่าจะเอายังไง
ฉันมองไปที่พวงมาลัยรถก่อนจะตัดสินใจเด็ดขาด ตายก็ตาย! ถ้าไม่ทำอะไรเลยก็ไม่รู้ว่าฉันต้องเจอกับอะไรต่อจากนี้ ฉันเอื้อมมือไปหักพวงมาลัยรถในขณะที่พี่เบสกำลังเผลอ ทำให้รถเสียหลัก
แต่!!! แผนการยังไม่ทันสำเร็จ พี่เบสผลักฉันออกอย่างแรงจนร่างของฉันกระแทกเข้ากับประตูรถ พี่เบสบังคับรถให้กลับมาวิ่งบนเลนถนนได้อย่างปกติ
เขาเอาบางอย่างขึ้นมา แล้วจี้มาที่เองของฉัน มันคือกระบอกปืน
“พี่ใจดีแล้วนะครับ เพราะฉะนั้นห้องเมเบลห้ามดื้อนะเข้าใจมั้ย” น้ำเสียงที่ชวนขนลุกถูกพี่เบสพ่นออกมา
ไม่ว่าจะยังไงก็ช่าง ฉันรับรู้ได้แล้วว่านี่มันคงไม่ใช่เรื่องดีแน่ๆ เขาเอาปืนขึ้นมาจี้ฉันขนาดนี้ ผู้ชายคนนี้เป็นใครกันแน่
“....พี่เบสเป็นใครกันแน่คะ”
ฉันถามด้วยความหวาดกลัวและสงสัย ฉันมั่นใจว่าตัวฉันเองไม่เคยสร้างเรื่องหรือมีปัญหากับใคร นอกจากยัยฮาน่า กับพี่เบสฉันก็มั่นใจว่าฉันไม่คุ้นหน้าเขา แบะไม่เคยรู้จักมาก่อน แต่ทำไมเขาถึงทำเหมือนว่าฉันเคยไปทำอะไรให้ไม่พอใจ
พี่เบสไม่ได้ตอบคำถามของฉัน เขาขับรถต่อไป ก่อนจะเก็บปืนเอาไว้ที่เดิมแล้วหันมาบอกฉัน “อย่าเล่นตุกติกกับพี่อีก เพราะครั้งหน้าจะไม่ใช่แค่ขู่แบบนี้นะครับ”
“เมเบลไปทำอะไรให้พี่เบสไม่พอใจหรือเปล่าคะ”
“คิดสิครับว่าเคยทำอะไรไว้บ้าง”
คำตอบของพี่เป็นมันทำให้ฉันคิดหนัก ฉันไปทำอะไรให้เขาโกรธ ฉันเพิ่งรู้จักกับเขา ฉันคิดไม่ออกจริงๆ ว่าเคยไปทำอะไรให้
“เดี๋ยวน้องเมเบลจะรู้ทุกอย่างเองครับ ตอนนี้แค่นั่งนิ่งๆ ทำตัวน่ารักๆ กับพี่ แค่นั้นก็พอ”
บอกตามตรงว่าฉันกลัว และกลัวมาก ฉันไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ มันบ้าที่สุด!!
แวบแรกของความคิด ฉันภาวนาขอให้คุณป๋ารู้ว่าตอนนี้เกิดอะไรขึ้นกับฉัน ถ้าคุณป๋ารู้ยังไงคุณป๋าก็ต้องมาช่วยฉันแน่ๆ ฉันมั่นใจแบบนั้น...
เวลาผ่านไปชั่วโมงกว่าได้ พี่เบสพาฉันมาที่ไหนสักแห่งซึ่งฉันก็ไม่รู้ว่ามันคือที่ไหน
รถหรูเลี้ยวเข้าไปในซอยเล็กๆ แล้วขับต่อไปอีก 10นาที ตอนนี้ฉันมองเห็นว่าตรงหน้ามีรีสอร์ตตั้งเรียงรายอยู่หลายหลัง และมีชายฉกรรจ์ยืนรออยู่ที่หน้ารีสอร์ตประมาณหกคนได้
“พะ พาเมเบลมาที่นี่ทำไมคะ” ฉันถามออกไปด้วยความกลัว หัวใจดวงน้อยมันเต้นรัวไม่เป็นจังหวะ
ถึงจะมั่นใจว่าคุณป๋าคงต้องตามหาฉันแน่ๆ แต่ทางที่พี่เบสพาฉันมามันทั้งลึกลับและซับซ้อน แบบนี้คุณป๋าจะตามเจอได้ยังไง บอกตามตรงว่าฉันเริ่มไม่แน่ใจแล้ว
เมื่อรถหรูจอดสนิท ประตูรถทางฝั่งที่ฉันนั่งก็ถูกเปิดออก มีชายฉกรรจ์สองคนดึงตัวของฉันให้ลงจากรถ พร้อมกับเสียงพี่เบสที่ออกคำสั่ง
“เอาตัวมันไป” พี่เบสยิ้มแล้วเดินมากระซิบบอกฉัน ด้วยน้ำเสียงที่ชวนขนลุก “ไม่ต้องตัวนะครับคนสวย”
ฉันเงียบและนิ่ง ไม่แม้แต่จะมองหน้าของพี่เบส ชายสองคนเอาตัวฉันไปที่รีสอร์ตหลังหนึ่ง ซึ่งฉันไม่แม้แต่จะขัดขืนอะไร เพราะรู้ดีต่อให้โวยวายหรือดิ้น ในตอนนี้ก็คงจะเหนื่อยฟรีเปล่าๆ
ฉันถูกขังอยู่ในห้องของรีสอร์ตนานเกือบครึ่งชั่วโมง ไม่ใช่ว่าฉันอยากจะนิ่งเฉยๆ แต่เพราะมันทำอะไรไม่ได้เลย
มันกลัวไปหมด กลัวทุกอย่าง จนในที่สุดฉันก็ต้องร้องไห้ออกมา ไม่รู้ว่าจากนี้ฉันต้องเจอกับอะไรบ้าง ฉันไม่น่าไว้ใจขึ้นรถมากับพี่เบสเลย น่าจะเชื่อที่คุณป๋าพูดว่าพี่เบสไม่ใช่คนดี แต่มาคิดได้เอาตอนนี้มันก็ไม่ทันแล้ว
แกร็ก! เสียงประตูห้องถูกเปิดเข้ามา ฉันที่กำลังร้องไห้อยู่รีบเช็ดน้ำตาออกจากแก้มทันที
เป็นพี่เบสที่เดินเข้ามา เขาไม่ลืมที่จะล็อกประตูไว้เหมือนเดิม ในมือของพี่เบสถือเบียร์ติดมาด้วยหนึ่งขวด
พี่เบสยกเบียร์ขึ้นดื่ม สายตาเอาแต่จับจ้องมองมาที่ฉัน ทำให้ฉันรีบหลบสายตาของเขาทันที เสียงฝีเท้าเดินย้ำมาใกล้ๆ ตรงที่ฉันนั่งหลบมุมอยู่ ก่อนที่มือหนาของพี่เบสจะจับปลายคางของฉันให้เงยขึ้นไปมองตัวเอง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เด็กดื้อของคุณป๋า Nc20+
มีต่อไหมครับ...