#คอนโด
ฉันที่พยายามเข้มแข็งมาตลอดเวลาที่นั่งรถกลับมาที่คอนโด เมื่อมาถึงภายในห้องแขนขามันก็อ่อนแรง ฉันนั่งลงกับพื้นเมื่อปิดประตูห้อง จากนั้นก็ร้องไห้ออกมาพลางยกมือกุมไว้ตรงหน้าอกข้างซ้ายของตัวเอง
ที่ผ่านมาฉันปล่อยใจไปกับคุณป๋ามากเกินไป โดยไม่คิดเผื่อว่าวันหนึ่งต้องเจอกับความเจ็บปวด เมื่อเวลานั้นมาถึงฉันก็เหมือนกับคนที่หมดสิ้นแล้วทุกอย่าง มันทรมานจนอยากจะลาจากโลกนี้ไป
แต่การทำอะไรโง่ๆ แบบนั้นคงเป็นสิ่งสุดท้ายที่ฉันจะเลือกทำ
สิ่งที่ฉันต้องการมากกว่าความรัก คือความซื่อสัตย์ ซึ่งคุณป๋าไม่สามารถให้ฉันได้
“อึก ทำไม ทำไมต้องเจ็บปวดขนาดนี้กัน” ฉันร้องไห้สะอื้นอยู่เป็นเวลานาน
ตอนนี้ระหว่างฉันกับคุณป๋าจบลงแล้ว และมันก็จบลงไม่สวยด้วย ต่อจากนี้ไม่ว่าคุณป๋าจะยุ่งกับผู้หญิงคนไหน มันก็แล้วแต่คุณป๋า
หลังจากที่ร้องไห้เป็นเวลานาน ฉันค่อยๆ พยุงร่างของตัวเองลุกขึ้น แล้วลาดกระเป๋สเข้าไปไว้ในห้องนอน พรุ่งนี้มีเรียน แต่ฉันกลับไม่พร้อม ไม่พร้อมจะเผชิญหน้ากับอะไรทั้งนั้น
ถึงแม้จะพยายามห้ามไม่ให้ตัวเองร้องไห้ แต่ยิ่งห้ามเท่าไหร่ น้ำตาเจ้ากรรมมันก็ไม่ยอมเชื่อฟังจ้องจะไหลออกมาอยู่ตลอดเวลา
ได้แต่หวังว่าสักวัน ต้องมีสักวันที่ฉันเข้มแข็งกว่านี้
เช้าวันใหม่….
“เมเบล ตื่นได้แล้วแกไม่ไปเรียนหรือไง” เสียงของเอวาดังเข้ามาให้ได้ยิน ทำให้ฉันที่นอนหลับอยู่ค่อยๆ ลืมตาขึ้นมอง
“ตายแล้ว ทำไมตาแกมันบวมเป่งขนาดนั้น” เอวาเบิกตากว้างเมื่อเห็นสภาพที่ไม่สู้ดีของฉัน พลางเอามือมาแตะลงบนหน้าผากของฉันด้วย “ตัวร้อนจี๋เลย แกไม่สบายนี่”
“อื้อ~” ฉันทำอะไรไม่ได้นอกจากตอบรับในลำคออาการปวดหัวเริ่มประเดประดังขึ้นมา
คงเป็นเพราะเมื่อคืนฉัสเอาแต่ร้องไห้ ร้องไห้อย่างหนัก แทบไม่ได้นอน วันนี้จึงทำให้ป่วย
เอวาก้มดูนาฬิกาบนข้อมือของตัวเอง “สายแล้วด้วย จะเช็ดตัวให้คงไม่ทัน เดี๋ยวฉันบอกพี่กล้าให้ไปซื้อข้าวต้มมาให้แกนะ”
“อื้อ…”
ไม่รู้ว่าเอวาเดินออกไปจากห้องตั้งแต่เมื่อไหร่ เพราะฉันหลับไปหลังจากที่เอวาพูดจบ
รู้สึกตัวอีกทีก็เหมือนได้นินเสียงคนเรียก ทำให้ฉันค่อยๆ ลืมตาขึ้นมอง
“…พี่กล้า” ฉันเรียกชื่อพี่กล้าด้วยน้ำเสียงที่แหบพร่า
พี่กล้าเดินเข้ามาในห้องพร้อมกับชามข้างต้มในมือ “ผมเอาข้าวต้มมาให้ครับคุณหนู”
“ขอบคุณค่ะ” ฉันค่อยๆ พยุงตัวเองลุกขึ้นนั่ง แต่ด้วยอาการป่วยจึงเหมือนคนไม่มีแรง ทำให้พี่กล้าต้องวางชามข้าวต้มลงแล้วรีบมาช่วยประคอง
“คุณหนูคงจะกินเองลำบาก ให้ผมป้อนดีกว่านะครับ”
“…ไม่กินได้มั้ยคะ ไม่หิวจริงๆ”
“ยังไม่ได้กินอะไรตั้งแต่เมื่อวานไม่ใช่หรอครับ ถ้าวันนี้ไม่กินอีกจะแย่กว่าเดิม”
ฉันถอนหายใจออกมาเบาๆ จากนั้นพี่กล้าก็เริ่มตักข้าวต้มมาป้อนฉัน
“อิ่มแล้วค่ะ” พูดจบฉันก็เบือนหน้าหนี
“เพิ่งกินไปได้ไม่กี่คำเองนะครับ”
“หนูกินไม่ลงจริงๆ ค่ะ” คำพูดของฉันทำให้พี่กล้าถอนหายใจออกมาเบาๆ “ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวผมเอาชามไปเก็บก่อนนะครับ”
“คุณป๋ายังสั่งให้มาเฝ้าอยู่ที่หน้าห้องอีกหรอคะ” ฉันถามพี่กล้า “ถ้ามันเป็นคำสั่งของคุณป๋าพี่กล้าก็กลับไปเถอะค่ะ ไม่ต้องมาเฝ้าแล้ว”
“ผมขัดคำสั่งนายไม่ได้ คุณหนูน่าจะรู้ดีนะครับ”
ในหัวของฉันมันมีแต่คำว่าเพื่ออะไรอีก เต็มไปหมด ยังจะห่วงฉันอีกหรือไง
“อย่าบอกคุณป๋านะคะว่าหนูป่วย ต่อไปนี้ไม่ว่าหนูจะเป็นอะไรก็ห้ามรายงานให้คุณป๋ารู้” ฉันมองพี่กล้าอย่างอ้อนวอน หวังว่าพี่กล้าจะยอมทำตามคำขอร้องจากฉัน
“ครับ ผมจะไม่รายงานให้นายรู้”
พูดจบพี่กล้าก็เก็บชามข้าวต้มยกออกไปจากห้อง ไม่รู้ว่าพี่กล้าจะซื่อสัตย์กับคำพูดของตัวเองหรือเปล่า ฉันได้แต่หวังว่าพี่กล้าคงจะไม่ทรยศฉันอีกคน
ฉันค่อยๆ เอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์มาดู ทุกอย่างมันว่างเปล่า แต่ฉันก็ไม่ได้หวังว่าจะให้คุณป๋าโทรมาหรือส่งข้อความมาหรอก ไม่ได้ต้องการแบบนั้นเลยสักนิด
#มหาวิทยาลัย
ฉันป่วยอยู่สามวันเต็มๆ ลุกขึ้นไปไหนไม่ได้ แต่ก็ดีที่ฉัรมีเพื่อนดี เอวากับฟาร์นคอยมาดูแลฉันทุกวัน จนดีขึ้น แต่ก็ไม่ใช่ว่าหายดีแล้ว เป็นเพราะว่าใกล้สอบฉันจึงไม่อยากจะขาดหลายวัน
แปลกที่ฉันเห็นผู้ชายคนนั้นอีกแล้ว คนที่ชอบแอบมองฉันอยู่บ่อยๆ ครั้งนี้เขาก็แอบมองฉันอีก แต่ฉันก็ไม่ได้สนใจอะไร
“อีกสองอาทิตย์ก็จะสอบแล้ว เราต้องติวหนักๆ นะ” เอวาพูด เธอคือผู้หญิงที่ตั้งใจเรียนเอามากๆ
ฟาร์นถอนหายใจออกมาเบาๆ จากนั้นก็เอนหลังไปกับก้าวอี้ “ยัดเงินก็จบ”
แปะ!! สิ้นสุดคำพูดเอวาก็ตีแขนฟาร์นแรงๆ แล้วมองค้อนใส่
“บอกให้เลิกนิสัยใช้เงินแก้ปัญหาไงฟาร์น ดูไม่แมนเลยนะ”
ฉันได้แต่ฟังสองคนนั้นเถียงกันไปมา สายตามองตรงไปอย่างไร้จุดหมาย ไม่รู้จะโฟกัสที่ตรงไหนดี หัวใจดวงน้อยเหมือนโดนบีบรีดจนแน่น จุกอกไปหมดเมื่อคืนถึงคำพูดและการกระทำของคุณป๋า
ไม่ใช่ว่าฉันอยากจะคิดถึงความเจ็บปวดซ้ำๆ แต่ฉันไม่สามารถห้ามความคิดของตัวเองได้เลย ทุกคืนฉันยังคงร้องไห้ มันบ้าที่สุดเลยใช่มั้ย
ไม่ใช่ว่าฉันไม่อยากกลับมาเป็นคนเดิม แต่ฉันยังทำแบบนั้นไม่ได้ ตอนนี้ใจมันอ่อนแอมากจริงๆ
หนึ่งอาทิตย์ผ่านไป…ฉันพยายามหมกมุ่นอยู่กับการอ่านหนังสือสอบ พยายามหาอะไรทำให้ได้มากที่สุดเพื่อที่ตัวเองจะได้ไม่ต้องไปคิดฟุ้งซ่านถึงความเจ็บปวดอีก แต่ทุกครั้งที่สมองมันว่างเปล่า ความเจ็บปวดมันก็จะประเดประดังเข้ามาไม่ขาดสาย
ติ่ง~ ในขณะที่เรียนอยู่เสียงแชตข้อความเข้าดังขึ้นมาจากโทรศัพท์ของฉัน ทำให้ฉันกดเข้าไปดูทันที
คุณป๋า: มาเก็บของเธอไปให้หมด ไม่ต้องเหลือไว้ที่บ้านฉัน
ฉันมองแชต จู่ๆ น้ำตามันก็คลอเต็มสองเบ้าตา คุณป๋าเป็นคนที่ส่งข้อความมาหลังจากที่เงียบหายไปนาน มันดูเป็นคำที่ใจร้ายมากจริงๆ แต่ก็เป็นอย่างที่ฉันคิด ระหว่างฉันกับคุณป๋าแม้คำว่าลูกเลี้ยงหรือพ่อเลี้ยงก็คงให้กันไม่ได้แล้ว
ถึงแม้ว่าปากฉันจะบอกให้ทุกอย่างกลับไปเป็นเหมือนเดิม แต่เราต่างรู้ดีแก่ใจว่าไม่มีทาง ไม่มีคำว่าเหมือนเดิม…
“ฉันไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ”
ฉันบอกเอวาและฟาร์น ก่อนจะลุกขึ้นแล้วเดินออกไปจากห้องเรียน เพราะน้ำตาที่มันกลั้นเอาไว้ไม่ได้ ยังไม่ทันถึงห้องน้ำฉันก็ร้องไห้ออกมา จึงหามุมเงียบๆ ลับตาคนเพื่อแอบร้องไห้ออกมาเบาๆ
ฉันไม่ชอบที่ตัวเองอ่อนแอแบบนี้เท่าไหร่ ฉันอยากเข้มแข็งมากกว่านี้ ผ่านมาอาทิตย์กว่าแล้ว เมื่อไหร่ความเจ็บปวดมันจะหายไปจากใจสักที
ร้องไห้อยู่นานกว่าที่น้ำตามันจะหยุดไหลได้ แต่ความเจ็บปวดมันก็ยังอยู่ มันเป็นช่วงเวลาที่ทรมานมากจริงๆ
ฉันเดินออกมาจากที่ลับตาคน สายตาไปสะดุดกับผู้ชายคนนั้นอีกครั้ง เขาแอบตามมาอย่างนั้นหรอ น่ากลัวเกินไปแล้วนะ
“นี่!!” ฉันรีบเรียกเขาเอาไว้ ทำให้ผู้ชายคนนั้นหยุดชะงัก แล้วค่อยๆ หันมามองฉัน “ทำไมต้องแอบตามด้วย”
“โดนจับได้แล้วสินะ” เขายกมือขึ้นมาเกาหัวตัวเองแก้เก้อ จากนั้นก็ยิ้มแห้งให้ฉัน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เด็กดื้อของคุณป๋า Nc20+
มีต่อไหมครับ...