Talk หิรัญ (คุณป๋า)
หลังจากที่เมเบลเดินออกไปจากห้อง ผมก็อาละวาดพังข้าวของ ในเมื่อเธอบอกว่าไม่ต้องการแล้วผมก็จะพังทุกอย่างให้หมด
คิดว่าผมจะทนได้หรือไงที่เห็นเธอมากับผู้ชายคนอื่นขนาดนั้น ใช่!! ผมเหี้ยก่อน แต่เธอเลือกเอง เลือกที่จะจบทุกอย่างเอง
มันผิดที่ผม ผิดที่ผมเอง ผมรักเมเบล คำๆ นี้ผมสามารถพูดมันออกมาได้เต็มปาก อย่างไม่คิดลังเล ที่ผ่านมาผมรู้ตัวเองดีว่ารู้สึกยังไง ถึงแม้ว่าเธอจะเป็นลูกเลี้ยงของผม แต่ผมไม่เคยสนใจคำนี้
แต่เธอมันงี่เง่า เอาแต่ระแวงไม่เข้าเรื่อง พักหลังๆ มาทำให้ผมเครียดที่มีปากเสียงกับเมเบลบ่อยๆ แทบจะทุกครั้งที่เจอหน้า จึงเผลอตัวไปกับเพลง สาวใช้ที่ผมเพิ่งรับเข้ามาทำงาน
แต่ทุกอย่างมันก็ไม่ได้มีอะไรเลยเถิดไปไกล เพลงเธอแค่ใช้ปากทำให้ผมก็เท่านั้น ผู้หญิงคนเดียวที่ได้ขึ้นเตียงกับผมมีแค่เมเบล
ผมยังยืนยันว่าเพลงคือของเล่น ถ้าเมเบลเธอยอมกลับมา ทุกอย่างจะเป็นเหมือนเดิม ที่ผมยังให้เพลงอยู่ที่บ้านหลังนี้ ก็เพราะว่าเมเบลเธอยืนยันว่าจะจบความสัมพันธ์กับผม
แม้แต่คำว่าพ่อเลี้ยงลูกเลี้ยงเธอก็ตัดขาด แล้วผมจะทำเพื่อเธอไปทำไม ในเมื่อยังไงเธอก็ไม่กลับมา
ผิดแค่ครั้งเดียว เธอไม่แม้แต่จะให้อภัยผม ทำเหมือนว่าผมผิดมาตลอดซ้ำๆ พูดดี ขอโทษ ขอร้องให้เธออยู่ก็แล้ว ต่อไปนี้ผมคงไม่ต้องสนใจอะไรอีก อยากจะทำอะไรกับผู้หญิงคนไหนมันก็สิทธิ์ของผม เพราะผู้หญิงที่ผมรักเธอได้ทิ้งผมไปแล้ว เพราะความเหี้ยของผมเอง!!
“จะอาลัยอาวรณ์มันอีกทำไมคะ พาผู้ชายมาเย้ยขนาดนั้น”
“ใครใช้ให้เธอเข้ามา ถ้าฉันไม่อนุญาตก็อย่ามาเสนอหน้า”
“คุณหิรัญคะ!!!” เพลงเธอทำหน้าไม่พอใจที่ผมพูดออกไปแบบนั้น
“สถานะของเธอไม่ควรมาเรียกร้องอะไรอยากฉัน ถ้ายังอยากอยู่ที่นี่ก็ออกไปซะ!!”
เพลงเธอเดินออกไปจากห้องด้วยท่าทางที่ไม่เต็มใจ หลังจากนั้นผมก็เดินไปนั่งลงบนปลายเตียง ก้มหน้าลงพลางเอามือทั้งสองข้างประสานเข้าหากันแล้วบีบแน่น
ถึงผมจะพูดไปแบบนั้น แต่ความรู้สึกของผมจริงๆ แล้วไม่อยากจะเสียเธอไปเลย ไม่ต้องการให้เรื่องมันเป็นแบบนี้ ด้วยความที่ผมเป็นคนอารมณ์ร้อน ทำให้ทุกอย่างมันเลยเถิดไปไกล และตอนนี้ก็เอาอะไรกลับมาไม่ได้แล้ว
เมเบลเธอเลือกทางเดินชีวิตของตัวเองแล้ว แล้วผมล่ะ! ผมจะปล่อยเธอไปได้อย่างที่เธอต้องการจริงๆ น่ะหรอ ถ้าเกิดผมเห็นเธออีกครั้ง ผมจะห้ามตัวเองยังไงไม่ให้เขาไปยุ่ง ผมจะมองยังไงให้เธอเป็นคนอื่น
แม่งเอ้ย!!! จะว่าผมหวงก้างก็ได้ ผมเป็นแบบนั้นจริงๆ
เธอจบ แต่ผมคงไม่จบ !! ไม่ยอมจบแน่ๆ
Talk เมเบล
“ผ้าเช็ดหน้าครับน้องเมเบล” พี่ดินเป็นคนขับรถให้ เพราะในตอนนี้ถ้าให้ฉันขับเองคงไม่ได้
“ขอบคุณค่ะ” ตลอดทางที่นั่งรถฉันเอาแต่ร้องไห้ ไม่รู้ว่านานแค่ไหน รู้ตัวอีกทีพี่ดินก็ยื่นผ้าเช็ดหน้ามาให้แล้ว
“เอาเป็นว่าพี่จะไม่ถามเรื่องที่เกิดขึ้น จะไม่พูด จะไม่บอกใครทั้งนั้น ไว้ใจพี่ได้”
“…..” ฉันเช็ดน้ำตาออกจากแก้ม พยายามหยุดร้อง ฉันต้องหยุดร้องไห้สักที
“ถึงคอนโดพี่แล้ว จะขับรถกลับเองไหวมั้ย ?”
“ไหวค่ะ”
พี่ดินก้มหน้ามามองฉัน ก่อนจะยิ้มหวาน ถ้าเป็นผู้หญิงคนอื่นคงจะหลงเสน่ห์ใบหน้าหล่อเหล้ากับรอยยิ้มของเขาไปแล้ว แต่สำหรับฉัน ไม่เลย ฉันไม่เคยมีความรู้สึกหัวใจเต้นแรงกับใคร นอกจาก..คุณป๋า
“พรุ่งนี้ขอให้เป็นวันเริ่มต้นใหม่ที่ดีนะครับ” พูดจบพี่ดินก็เปิดประตูลงจากรถ
ส่วนฉันก็นั่งตั้งสติอยู่นานกว่าจะขับรถออกไปจากคอนโดของพี่ดินได้
มาถึงที่คอนโดไม่เห็นพี่กล้าอยู่แล้ว คงจะถูกคุณป๋าเรียกตัวกลับไปแล้ว แน่นอนว่าครั้งนี้ทุกอย่างมันจบแล้วจริงๆ
ฉันยืนมองตัวเองที่หน้าโต๊ะกระจกบานใหญ่ มองดูสภาพของตัวเองในกระจก ก่อนจะถอนหายใจออกมาเบาๆ พร้อมกับหยดน้ำตาที่มันค่อยๆ ไหลลงมาอาบแก้มทั้งสองข้าง
ฉันยกมือขึ้นมาปาดน้ำตาออกจากแก้ม จากนั้นก็ตั้งสติให้แน่วแน่ แล้วพูดเตือนสติตัวเอง “หยุดร้องไห้ แล้วกลับไปเป็นคนเดิมสักทีเมเบล”
วันต่อมา…
วันนี้มีเรียนบ่าย แต่ฉันชวนเอวากับฟาร์นมาทำบุญที่วัดในช่วงเช้า ว่าจะมาปล่อยนกปล่อยปลาน่ะ จู่ๆ ก็นึกอยากทำขึ้นมา เผื่อจะทำให้สิ่งที่มันอึดอัดในใจหายไปสักที
“คิดยังไงชวนมาวัดวะเมล ?” ฟาร์นถามในขณะที่เรากำลังยืนให้อาหารปลากันอยู่
“นั่นสิ มันดูไม่ใช่แกเลย” เอวาก็มองฉันอย่างแปลกใจไม่ต่างจากฟาร์น
“แกสองคนนี้ยังไงกัน ฉันชวนมาทำบุญก็เอาแต่จับผิด”
“เราสองคนเปล่าจับผิด แต่แกนั่นแหละทำตัวน่าสงสัย” ฟาร์นค้านขึ้นมาทันที
“เอาน่าๆ ก็อยากมาทำบุญบ้างไม่ได้หรือไง”
ฉันกับเพื่อนให้อาหารปลาเสร็จก็ไปซื้อนกมาปล่อย หลังจากที่ทำบุญเสร็จมันก็ทำให้ใจสงบขึ้นมาบ้าง อธิบายไม่ถูกเหมือนกัน รู้แค่ว่าทำให้รู้สึกดีขึ้นเยอะเลย
ต่อไปนี้ฉันจะพยายามคิดถึงความเจ็บปวดให้น้อยลง และคิดถึงความสุขให้มากขึ้น
#มหาวิทยาลัย
“เดี๋ยวฉันมานะ”
ฉันบอกเอวากับฟาร์นก่อนจะลุกขึ้น เพราะเห็นว่าพี่ดินเดินมาพอดีจึงรีบเดินไปดักหน้าเขาไว้
“ไหนจะให้เลี้ยงข้าวไงคะ จะกินอะไรบอกมาสิ” ฉันถามพี่ดิน เพราะเขาเงียบไปตั้งแต่เมื่อวาน
“อ่า! เปลี่ยนใจแล้วดีกว่า ^_^”
“คะ ?” ฉันขมวดคิ้วเป็นปมอย่างแปลกใจ
“อีกสองวันจะมีงานสมาคมรวมนักธุรกิจจากบริษัทต่างๆ งานนี้พ่อกับแม่คงให้พี่ไปด้วยแน่ๆ”
“ค่ะ แล้วยังไงหรอคะ” ถึงพี่ดินจะพูดแบบนั้น ฉันก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี
“พ่อกับแม่ก็คงจะจับคู่ให้พี่อีกตามเคย…”
“คงไม่คิดจะให้เมเบลไปเป็นคู่ขาหลอกๆ ให้หรอก ใช่มั้ยคะ” ครั้งนี้ฉันถามกลับอย่างรู้ทัน
พี่ดินยิ้มแบบเขินอาย “ถือว่าช่วยๆ กัน ได้มั้ยครับ พี่ก็ไม่รู้จะหาใคร”
ฉันทำท่าคิด จริงๆ เขาก็ยอมช่วยฉัน ถ้าฉันจะช่วยบ้างก็ไม่เห็นจะแปลกอะไร
“ถ้าเมเบลช่วยครั้งนี้ถือว่าเราหายกันนะคะ ต่อไปนี้ไม่มีอะไรติดข้างกันอีก”
“เป็นคำพูดที่ฟังแล้วหดหู่ใช่เล่นเลยนะครับ”
“ตามนั้นแล้วกันนะคะ ^_^” ฉันยิ้มก่อนจะเดินกลับมาหาเพื่อน
พอมาถึงที่โต๊ะ เอวากับฟาร์นก็มองฉันด้วยสายตาที่แปลกไปจากเดิม
“อะไรของพวกแกอีก”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เด็กดื้อของคุณป๋า Nc20+
มีต่อไหมครับ...