ฉันเม้มริมฝีปากแน่นหัวใจดวงน้อยเต้นรัว ลอบหันมองท่าทางของมาลิคที่นั่งข้าง ๆ
“ลังเลอะไร หรือมึงอยากได้อะไรเพิ่มเสนอมาสิ” คาแลนพูดขึ้นเพราะมาลิคเอาแต่เงียบ
นี่มันไม่ใช่สิ่งที่อยากให้เขาพูด จะยอมเสียทุกอย่างเพื่อเอาตัวฉันกลับไปทำไม คิดว่าทำแบบนี้แล้วจะดีอย่างนั้นเหรอ กลับกันยิ่งเห็นเขาทุ่มขนาดนี้ฉันยิ่งรู้สึกแย่
“แค่ผู้หญิงคนเดียวมึงอยากได้คืนขนาดนั้น?”
“แล้วมึงกล้าคืนให้กูไหม”
“ลงทุนยอมแลกทุกอย่าง มึงมันโง่คาแลน”
“กล้าหรือเปล่า?”
“หึ!! ทำไมต้องให้ในเมื่อมิลาเป็นสมบัติของกู”
เหอะ!! สมบัติอย่างนั้นเหรอ คำพูดของมาลิคมันยิ่งทำให้ฉันรู้สึกขยะแขยง
“หมาที่มันชอบขโมยของคนอื่นไปจุดจบมันจะเป็นยังไงมึงรู้ไหม”
“กูไม่สนใจ”
“ฟังหน่อยกูอยากบอก”
“…”
“หมาตัวนั้นคงคิดว่ามันอยู่เหนือคนอื่น หึ!! ทั้งที่ความจริงมันอยู่ได้แค่ใต้ตีนกูเท่านั้น”
“ไอ้คาแลน!!!” มาลิคกำมือแน่นจนฉันเริ่มกลัวว่าทั้งคู่จะสาดกระสุนใส่กัน
“หงุดหงิดทำไมกูพูดถึงหมา หรือมึงเป็นหมา?”
“…”
“ถ้ากูจับมันเข้ากรงได้ กูจะทรมานให้สาสมกับทุกอย่างที่มันเคยพรากไปจากกู”
“ปากดีไปเถอะ กูนี่แหละจะโค่นมึงเอง!!”
“เกมยังไม่จบอย่าเพิ่งรีบเผยสันดานออกมาสิเพื่อนยาก”
“ไปตายซะ!!!”
“คนที่ตายต้องเป็นมึงไม่ใช่กูมาลิค”
มาลิคพ่นลมหายใจออกแรง ๆ เขาหยิบเอาปืนที่พกไว้ติดตัวออกมาแล้วเล็งไปยังคาแลนที่นั่งอยู่ เห็นแบบนั้นทำให้ฉันเบิกตากว้างรีบเอาตัวเองมาบังไว้
“อย่าทำเขา”
“กล้าปกป้องมันต่อหน้าฉันรึไง!!”
“…” เสียงตวาดนั้นทำให้ฉันกลัวแต่ไม่ได้ถอยหลบ
“เอาสิ ปกป้องมันแล้วน้องสาวเธอจะเป็นยังไงรู้หรือเปล่า”
จู่ ๆ คาแลนก็หัวเราะขึ้นในขณะที่ฉันกำลังกลัวคำขู่นั้นและลังเล หากปกป้องเขาต่อมินต้องแย่ สุดท้ายฉันก็ไม่ได้เรื่อง ปกป้องใครไม่ได้เลย
“มึงหัวเราะเหี้ยอะไร!!”
“หมอวาริสไม่ได้อยู่เอลเอนะ”
“มึงรู้จักว่าริสได้ยังไง”
“มึงคิดว่ากูโง่รึไงมาลิค กูรู้มากกว่าที่มึงคิดอีกนะ จะให้พูดไหมว่ายาตัวไหนที่หมอนั่นเอาให้มินกิน”
“…” ฉันค่อย ๆ หันมามองคาแลน เขารู้อย่างนั้นเหรอ รู้ได้ยังไงทั้งที่ไม่เคยพูดเลยสักครั้ง ส่งคนตามสืบงั้นเหรอ
“หมอวาริสพี่สาวของมึงนี่? เป็นหมอที่เก่งมีฝีมือ แต่เสือกร่วมมือทำเรื่องเหี้ย ๆ กับมึง กี่คนแล้วที่มึงขายยาให้ทำลายชีวิตเขา มึงกับพี่แม่งเหี้ยฉิบหาย!!”
“มึงมันก็ไม่ต่างจากกูนักหรอกคาแลน”
“กูไม่ทำเรื่องสกปรกแบบมึง อย่าดึงให้กูต้องลงไปเกลือกกลั้วกับสวะชั้นต่ำอย่างมึง”
คาแลนดันฉันให้มาอยู่ด้านหลัง เขาเอาปืนขึ้นมาจ่อไปที่หน้าของมาลิคเช่นกัน และไม่นานก็มีลูกน้องของคาแลนเปิดประตูเข้ามามากกว่าสิบคน
ครั้งนี้มาลิคพลาด มันเป็นเพราะเขามั่นใจมากเกินไป
คาแลนหันมามองหน้าฉันก่อนจะยกมือขึ้นมาจับที่พวงแก้มแล้วเอ่ยถาม “จะถามอีกครั้งว่าอยากให้ช่วยไหม?”
“…”
“ไม่ต้องห่วง มินจะไม่เป็นอะไร”
“…” ถ้าตอบตกลงมันก็เหมือนฉันทิ้งน้องสาวเอาไว้ให้เผชิญกับอันตรายอยู่คนเดียว
“เฮียรู้ทุกอย่างแล้ว หนูยังจะใจร้ายอีกรึไงมิลา”
หยดน้ำตาไหลอาบแก้มเมื่อได้ยินคำ ๆ นั้น ใช่ฉันมันคนใจร้าย และมันก็เจ็บมาก ๆ ด้วยที่ใจร้ายขนาดนี้แล้วเขายังรัก
“แค่ตอบตกลง มินลี่จะปลอดภัยเชื่อเฮียอีกสักครั้งได้ไหม อย่างที่หนูเคยเชื่อ”
“ถ้าตกลงฉันจัดการน้องเธอแน่มิลา”
“อึก~” เสียงที่แทรกมาของมาลิคทำให้ฉันส่ายหน้า น้ำตาไหลอาบแก้ม
“มิลาปล่อยน้องไว้ไม่ได้ อึก~” ฉันผลักคาแลนออกจะเดินไปหามาลิคที่ยกยิ้มมุมปากอย่างพอใจ ทว่ากลับถูกรั้งไว้
“ไม่ เฮียไม่ให้หนูกลับไปอีกแล้ว”
“ไม่ได้ อย่าทำแบบนี้นะ อึก~”
“ยังไงเฮียก็ไม่ยอม”
“อึก~ แต่มิน” ฉันร้องไห้สะอื้น ก่อนจะทรุดตัวนั่งลงกับพื้น ทำไมไม่เข้าใจว่าฉันไม่สามารถทิ้งมินได้
“อย่าไปฟัง ตราบใดที่มันอยากได้ตัวหนู มินจะไม่เป็นอะไร”
“อึก~”
“กูทำไปแล้วเคย์ หุบปากมึงไปซะ”
“หยุดเถียงกันสักทีกูรำคาญ ในเมื่อพาเธอมาแล้วก็คิดสิว่าจะช่วยน้องยังไง”
“ตอนนี้หมอวาริสอยู่กับเรา ก็ใช้เป็นข้อต่อรองให้มันเอาตัวมินมาแลก”
“แต่ยัยนั่นไม่ยอมปริปากบอกสูตรยาที่รักษามินเลย ยังไงก็ต้องเค้นให้มันยอมพูดก่อน จะปล่อยไปตอนนี้ไม่ได้”
“ถ้ามึงรู้อาการพอจะแกะสูตรได้ไหมเฟลิกซ์” ผมหันมาถามเพื่อน
“กูไม่แน่ใจ แต่คงไม่ธรรมดายัยนั่นมันเก่งขนาดปรุงยาเองได้”
“มึงก็เก่ง เรียนเล่น ๆ แต่เสือกเก่งฉิบหาย”
“ถ้าพลาดก็เท่ากับจบ อีกอย่างการทำยาขึ้นมามันไม่ได้ทำง่าย ๆ ต้องใช้เวลาเป็นปี ๆ เพราะถ้าพลาดเท่ากับชีวิตมึงจะเสี่ยงรึไง”
“ให้กูไปทรมานมันไหมเผื่อจะยอมปริปาก” เรื่องใช้กำลังต้องตกให้เคย์เดน เพราะมันเถื่อนที่สุดแล้ว
“กูสั่งงดอาหารสามวันยังไม่ยอมพูด ถูกฝึกมาดีจริง ๆ”
“เวร!! เพราะความวู่วามของมึงแท้ ๆ”
ผมถอนหายใจออกมาหนัก ๆ จริงอย่างที่เคย์เดนมันว่า ครั้งนี้ผมวู่วามทำให้แผนที่เตรียมไว้ล่มไม่เป็นท่า แต่มันก็คุ้มค่าที่ได้เธอกลับมา
คุยกันอยู่พักใหญ่เฟลิกซ์กับเคย์เดนก็ออกไปข้างนอก ผมลุกขึ้นมานั่งบนเตียงมองใบหน้าสวยที่ตอนนี้กำลังหลับสนิท
ไม่ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหนก็ยังมีแค่เธอที่ทำให้หัวใจของผมเต้นแรง ในตอนนี้ไม่หลงเหลือความเกลียดชังอยู่เลยหลังจากที่รู้ความจริงทั้งหมด
“อย่าทิ้งเฮียไปไหนอีกเลยนะมิลา” ผมก้มลงมาจูบบนหน้าผากอย่างแผ่วเบา ไม่ได้ตั้งใจกวนให้คนตัวเล็กตื่นแต่คงไม่ทันเพราะตอนนี้เธอลืมตาขึ้นมาแล้ว
“ฮะ... เฮีย”
ผมเอามือลูบที่ศีรษะของมิลาอย่างอ่อนโยนพร้อมยิ้มให้แล้วเอ่ยถาม “หิวไหมเดี๋ยวเฮียทำข้าวต้มให้กิน หนูจำได้ไหมว่าเคยชอบข้าวต้มหมูฝีมือเฮียขนาดไหน”
“ตอนนี้เราอยู่ที่ไหนคะ”
“อย่าเพิ่งลุกขึ้น หนูควรพักผ่อน”
“มิลาถามว่าอยู่ที่ไหน”
“เกาะส่วนตัวของเคย์เดน เฮียจำเป็นต้องพาหนูมาซ่อนที่นี่ก่อน”
“แล้วมินล่ะ มินจะเป็นยังไง ทำไมเฮียไม่ฟังมิลาเลย” เธอร้องไห้อีกแล้ว เพราะผมเอาแต่ใจตัวเองมากเกินไปหรือเปล่า
“อย่าร้องไห้ มินไม่เป็นอะไรเฮียส่งคนไปเฝ้าแล้ว มาลิคมันไม่ได้เข้าไปที่คอนโด”
“เขาทำร้ายมินแน่ ๆ ถ้าน้องเป็นอะไรไปเฮียจะรับผิดชอบยังไง”
“แล้วทำไมวันนั้นหนูถึงเลือกหันหลังให้เฮียแทนการพูดความจริง ทำไมไม่ยอมให้เฮียเป็นที่พึ่ง ทำไมล่ะมิลา ถ้าวันนั้นหนูบอกคิดว่าเฮียจะช่วยหนูไม่ได้เลยรึไง”
“…”
“ทำไมต้องตัดสินใจแบบนั้น ช่วยอธิบายเหตุผลให้เข้าใจได้ไหมว่าทำไมหนูไม่เชื่อใจเฮียเลย”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เด็กดื้อคนโปรด (ของมาเฟีย) BAD