หนึ่งอาทิตย์ต่อมา
ที่ผ่านมาฉันไม่ได้ไปช่วยงานพี่ลีวายแล้วเพราะอ้างกับคุณท่านว่าเรียนหนัก แต่ความจริงคือฉันพยายามหลบหน้าเขา ไม่ใช่ว่า
ไม่อยากเจอแต่เพราะความใจร้ายของพี่ลีวายทำให้ฉันอยากถอยห่าง… แต่ความรู้สึกที่มีมันยังไม่ยอมลดลง
วันนี้คุณท่านต้องไปต่างประเทศแล้วและฉันรู้ดีว่าต้องเจอกับ
พี่ลีวายอย่างเลี่ยงไม่ได้
“ไปอยู่ที่นู้นอย่าลืมโทรมาหาหนูบ้างนะคะ ครั้งนี้คุณท่านไป
นานมาก ๆ หนูคงคิดถึงแย่” คุณท่านยกมือขึ้นมาลูบศีรษะของฉันเบา ๆ อย่างเอ็นดู
“สายแล้วลูกชายตัวดีของฉันยังไม่โผล่หัวมาอีกรึไง นี่ถ้ามันรู้ว่าฉันกำลังจะตายมันจะเสียใจบ้างไหม”
“อย่าพูดแบบนั้นสิคะ”
“เฮ้อ! ชอบทำให้หนักใจอยู่เรื่อยอายุก็ไม่ใช่น้อย ๆ แล้ว”
ฉันได้แต่ฟังคุณท่านบ่นพี่ลีวายอยู่อย่างนั่นพักใหญ่ ในใจภาวนาขอให้เขาไม่มา แต่ทว่าสิ่งที่ฉันภาวนามันไม่เป็นผลเมื่อเห็นพี่ลีวาย
เดินผ่านประตูบ้านเข้ามา
“ทำไมถึงเพิ่งมาเอาป่านนี้” พอเห็นหน้าลูกชายคุณท่าน
ก็เค้นถามเสียงเข้มทันที
“แค่พ่อจะไปต่างประเทศจะให้ผมมาทำไมครับ” พี่ลีวายถามคุณท่านแต่สายตากลับมองฉัน พอได้สบตากันฉันก็รีบก้มหน้า
หลบความอำมหิต
“ฉันมีเรื่องต้องสั่งแกไว้ก่อนไป”
“เรื่องอะไรครับ”
“ตอนที่ฉันไม่อยู่แกต้องดูแลหนูมิลินให้ดี เข้าใจไหม”
“ทำไมผมต้องทำแบบนั้น”
“นี่เป็นคำสั่งของฉัน หลังจากกลับมาฉันจะจัดการเรื่องหมั้น
ให้เรียบร้อย”
“ผมไม่รับปาก”
“อย่าทำให้ฉันลำบากใจ แล้วหลังจากนี้ก็กลับมานอนที่บ้าน
ทุกวัน”
“แค่ลูกคนใช้พ่อจะสนใจอะไรมากมายหรือเพราะแม่ของเธอ?” พี่ลีวายถามกลับอย่างท้าทาย คำความนั้นทำเอาฉันจุกแน่นอกราว
กับกำลังถูกบีบหัวใจแน่น
“หุบปาก!!” คุณท่านตวาดเสียงดัง ฉันจึงรีบประคองเพราะกลัวอาการป่วยจะกำเริบ
“ผมพูดอะไรผิด”
“แม่ของหนูมิลินไม่ได้เป็นอย่างที่แกว่า อย่าพูดแบบนั้นให้ฉัน
ได้ยินอีก”
พี่ลีวายขมกรามแน่นด้วยความโกรธ สายตาเอาแต่จ้องมองฉัน ไม่เข้าใจว่าทำไมตัวเองถึงถูกมองแบบนั้นทั้งที่เงียบตลอดไม่ได้พูดอะไรแทรกเลย
“ทำตามที่ฉันสั่ง ถ้าแกไม่ทำฉันจะปลดแกออกจากประธานบริษัททั้งหมดรวมทั้งหุ้นที่แกถือ”
“ต้องทำกับผมที่เป็นลูกชายแท้ ๆ ขนาดนี้เลยเหรอครับ”
“ฉันแค่อยากเห็นแกเป็นคนที่ดีขึ้น ดูแลหนูมิลินได้”
“ทำไมต้องดูแล เกี่ยวอะไรกับผม!” พี่ลีวายตอบคุณท่านอย่าง
หัวเสีย ก่อนจะถามฉัน “เธอไม่มีปัญญาดูแลตัวเองรึไงฮะ!!”
“…”
“ถือว่าฉันได้สั่งแกไปแล้ว หวังว่าแกจะทำตาม”
คุณท่านบอกอย่างเด็ดขาดก่อนจะลุกขึ้นยืนแล้วเดิน
ออกจากบ้านโดยมีฉันคอยประคองมาส่งที่รถ
“อย่ายอมให้ลูกชายฉันรังแกอยู่ฝ่ายเดียวล่ะรู้ไหม หนูต้องสู้
มันบ้าง”
“… ค่ะ”
“เฮ้อ! ยอมมันมาตลอดตั้งแต่เด็กแบบนี้ไงตาลีวายถึงได้ใจ”
“…”
“มหาวิทยาลัยปิดเทอมแล้วฉันจะให้ตาลีวายจัดการเรื่องตั๋วเครื่องบินให้”
“ยะ… อย่าลำบากพี่ลีวายเลยค่ะ” ที่ไม่อยากให้พี่ลีวายจัดการเรื่องนี้ก็เพราะว่าฉันอยากหายไปโดยไม่ให้เขารู้
คุณท่านถอนหายใจเบา ๆ ก่อนจะขึ้นไปบนรถโดยไม่ได้พูดอะไรต่อ ฉันยืนมองจนรถขับออกไปพ้นรั้วบ้าน จากนั้นจึงเดินกลับเข้ามาภายในตัวบ้านและเห็นว่าพี่ลีวายกำลังยืนจ้องเขม็ง
ฉันพยายามดิ้นตลอดทางจนมาถึงในห้อง ก่อนที่พี่ลีวายจะปล่อยร่างของฉันกระแทกลงบนเตียงอย่างไม่ใยดี
ตุบ!!
“อึก~” ฉันเอามือกุ้มท้องตัวเองไว้ ถึงแม้เตียงจะนุ่มมาก ๆ แต่ถูกปล่อยให้ตกกระแทกแรง ๆ แบบนี้ก็รู้สึกจุกอยู่เหมือนกัน
“ทำไมต้องหลบหน้าฉัน”
“เปล่านะคะ มิลินแค่เรียนหนัก”
“ฉันรู้ว่าเธอตั้งใจ”
พี่ลีวายตวาดเสียงเข้ม แค่หลบทำไมต้องหงุดหงิดด้วย ไม่ดี
หรือไงที่ไม่ต้องเห็นคนที่ตัวเองเกลียด
“แปลว่าที่ผ่านมาพี่ลีวายอยากเจอมิลินเหรอคะ ถึงได้หงุดหงิดขนาดนี้”
“หึ!! หลงตัวเองเกินไปหรือเปล่า” พี่ลีวายคลานเข่าขึ้นมาบนเตียงแล้วคร่อมตัวฉันเอาไว้ ก่อนจะพูดต่อ “คิดหน่อยสิ ว่าที่ฉัน
อยากเจอเธอมันเป็นเพราะอะไร”
พูดแล้วพี่ลีวายก็ไล่สายตากวาดมองเรือนร่างของฉันอย่าง
มีความหมาย
“รู้ไหมว่าต่อให้เธอพยายามแค่ไหนก็ไม่มีวันหนีพ้น”
“…”
“ทางเดียวที่เธอจะหลุดพ้นได้คือออกไปจากชีวิตของฉัน”
พี่ลีวายพูดคำนี้ออกมากี่ครั้งแล้วนะ รู้สึกว่าฉันได้ยินมันจนนับไม่ถ้วน
เมื่อไรหัวใจของฉันมันจะด้านชาสักที จะได้ไม่ต้องมาเจ็บปวดกับคำพูดของพี่ลีวายซ้ำแล้วซ้ำเล่าแบบนี้
“ตลอดเวลาที่พ่อไม่อยู่ฉันจะทำให้เธอจะรู้ซึ้งถึงความทรมาน
จนอยากหนีไปไกล ๆ”
“… แค่นี้ยังไม่พอใจอีกเหรอคะ” ไม่รู้จะพูดยังไงกับคำขู่ ได้แต่
คิดว่าที่ผ่านมาฉันยังทรมานไม่พออีกหรือไง ต้องเจ็บปวดขนาดไหน
ถึงจะพอใจพี่ลีวาย
“… จนกว่าเธอจะหายไปจากชีวิตฉัน”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เด็กดื้อคนโปรด (ของมาเฟีย) BAD