คำถามนั้นเล่นเอาคนฟังอย่างฉันจุกอกจนไม่รู้จะตอบไปว่ายังไง ไหนจะแววตาที่ไม่ปิดบังความรู้สึกของคนตัวสูงตรงหน้าอีก
ผิดหวัง เสียใจ ที่ฉันทำกับเขาวกไปวนมา
อยากเจอ แต่แค่เจอได้ไหมถ้าพูดคุยกันแล้วฉันยิ่งกลายเป็นผู้ร้ายในเรื่องที่ทำให้เขาเจ็บซ้ำ ๆ
“มิลา” เพราะฉันไม่ยอมตอบอะไรอีกฝ่ายจึงเรียกเสียงเข้ม
“ขัดไม่ได้ค่ะ”
“อืม” คำตอบในลำคอสั้น ๆ แต่ทำให้หัวใจดวงน้อยของฉันเหมือนถูกมีดนับร้อยเล่มกรีดลงช้า ๆ
“อย่ามาที่แบบนี้คนเดียวอีก มันอันตราย”
“คงเพราะอยากเจอเฮียมั้งคะก็เลยเลือกมาที่นี่”
“คำพูดของหนูกำลังฉุดรั้งเฮียเอาไว้” คนตัวสูงถอนหายใจเบา ๆ เขาคงเหนื่อยกับเรื่องของเรามาก
“มิลาขอโทษ”
“กลับไปก่อนที่มาลิคมันจะรู้”
“ได้ข่าวว่าคุณพ่อหาคู่ให้เหรอคะ” ฉันเม้มปากแน่นรู้สึกว่าตัวเองเอ่ยคำที่ไม่ควรถามออกไป
ถามอะไรออกไป เฮ้อ!! มิลา ถามคำนี้ทำไมกัน
“รู้ได้ยังไง”
“มาลิคบอกค่ะ”
“อืม แต่เฮียไม่ได้สนใจ…” พอได้ยินแบบนั้นฉันก็รีบพูดแนะนำโดยไม่ทันคิดให้ถี่ถ้วนอีกครั้ง “ลองเปิดใจดูสิคะ ผู้หญิงคนนั้นอาจจะทำให้เฮียมีความสุขก็ได้”
“หนูคิดแบบนั้นเหรอ?”
“…”
“มิลา… หนูอยากให้เฮียเริ่มต้นใหม่มากใช่ไหม”
ฉันกัดริมฝีปากตัวเองแน่นคำถามคล้ายกำลังใส่อารมณ์ของคนตรงหน้าทำให้ไม่กล้าตอบกลับ
“ตอบมาสิคนดีว่าหนูต้องการแบบนั้น”
“ใช่ค่ะ… มิลาต้องการแบบนั้น”
“…”
“เริ่มต้นใหม่อย่างที่เราพูดเอาไว้ เก็บความรู้สึกของเราสองคนเอาไว้ในส่วนลึกของหัวใจ แล้วอยู่กับสิ่งที่เป็นไปได้ในปัจจุบันดีกว่านะคะ”
คาแลนถอนหายใจออกมาหนัก ๆ ก่อนจะเบือนหน้าหนี ฉันรู้ว่าคำพูดนั้นมันฟังดูใจร้าย ในเมื่อเรารักกันไม่ได้ก็ไม่อยากให้มาจมปักอีกแล้ว
“เฮีย…”
“ได้สิ เฮียจะลองดูขอบคุณที่หนูแนะนำ”
มือที่กำแน่นจนเปียกชุ่มเหงื่อค่อย ๆ คลายออกมาก่อนจะเอื้อมมาจับท่อนแขนแกร่ง
“มิลาจะมองดูเฮียมีความสุขอยู่ไกล ๆ นะคะ”
“มันคงจะดีกว่านี้ถ้าหนูกลับมาเป็นความสุขของเฮีย”
“อย่าพูดให้เราต่างเจ็บปวดกันอีกครั้งเลยค่ะ” ฉันปล่อยมือออกแล้วก้าวถอยหลังเพื่อเว้นระยะห่าง “ขอบคุณที่ช่วยนะคะ ตอนนี้ดึกแล้วมิลาคงต้องขอตัวกลับก่อน”
“กลับยังไง”
“เรียกรถค่ะ”
“เดี๋ยวไปส่ง”
“ไม่…”
“ตามมา”
ไม่มีจังหวะให้ปฏิเสธ พูดจบคาแลนก็ไม่รอฟังคำตอบเขาเดินนำไปแล้ว จำใจต้องเดินตามออกมาทางด้านหลังคลับ มีรถของเขาจอดอยู่
ระหว่างทางไร้เสียงบทสนทนาของเราทั้งคู่ ฉันทอดสายตามองตรงหน้าอย่างเหม่อลอย จะว่ายังไงดี เพราะตอนนี้มันอึดอัดมาก ๆ คนที่นั่งเบาะคนขับก็คงคิดไม่ต่างกัน
ในที่สุดรถหรูของคาแลนก็มาจอดในลานจดรถใต้ดินของคอนโด จนถึงตอนนี้ผ่านไปห้านาทีแล้วฉันก็ยังคงนั่งอยู่แบบนั้นไม่ยอมลง
“มะ... มิลามีแมวด้วยนะคะชื่อความหวัง เฮียอยากเล่นกับน้องไหม”
อ่า!! ให้ตาย มิลาเธอพูดอะไรออกไป ก่อนหน้านี้ยังพูดจาอวดดีให้อีกฝ่ายตัดใจแต่กลับชวนขึ้นห้อง คงบ้าไปแล้วแน่ ๆ
“มันคงไม่เหมาะเท่าไรถ้าเฮียจะขึ้นห้องหนู มาลิคมันจะไม่พอใจเอานะ”
“อื้อ ค่ะ ขอบคุณที่มาส่งมิลานะคะ”
“ครับ”
เมื่อลงจากรถแล้วคาแลนก็ขับออกไปเลย เขาแค่มาส่งจริง ๆ
ฉันยืนมองจนไฟท้ายรถลับสายตาจากนั้นก็ขึ้นมาบนห้อง ทิ้งตัวนอนลงบนเตียงพลางถอนหายใจเฮือกใหญ่ เหม่อมองเพดานห้องอยู่อย่างนั้นไม่รู้นานเท่าไร คิดว่าออกไปดื่มให้หายฟุ้งซ่านแต่กลับมาดันฟุ้งซ่านกว่าเดิม
Talk - คาแลน
หนึ่งอาทิตย์ผ่านไป
“มึงกับคุณหนูลี่ตระกูลเว่ยหลินนี่ยังไง ทำไมมีข่าวออกมาว่ากำลังซุ่มเดตกัน” มาถึงที่บ้านคัลเลนก็ยิงคำถามใส่ทันที
“คีย์นอนหรือยัง กูอยากมาเล่นกับหลาน”
“ตอบคำถามของกูก่อนคาแลน”
“ก็ตามข่าว”
“เพราะพ่อ? มึงไม่ใช่คนที่จะมาฟังคำสั่งของเขาว่าต้องทำอะไร แล้วนี่มันเกิดอะไรขึ้น”
อย่างที่คัลเลนมันบอก เราสองคนพี่น้องไม่ค่อยจะลงรอยกับพ่อเท่าไรนัก ส่วนหนึ่งเพราะไม่ค่อยได้เจอและเขาชอบบังคับให้ทำตามที่ตัวเองต้องการ
… แล้วจะให้เริ่มต้นใหม่ได้ยังไง
“ถ้าอย่างนั้นลี่เอาตามที่พี่คาแลนแนะนำเลยนะคะ”
“อืม”
พยักหน้าตอบจากนั้นผมก็เบือนหน้ามองไปข้างนอกร้านอาหาร ไม่รู้มันบังเอิญเกินไปหรือเปล่าที่เห็นผู้หญิงที่ไม่ได้เจอกันนานเกือบอาทิตย์ แถมเธอยังมากับว่าที่คู่หมั้น
ใบหน้าสวยดูหงุดหงิดที่ถูกไอ้เวรนั่นโอบเอวไม่ยอมปล่อยทั้งที่พยายามผลักอก ไม่รู้ว่าเผลอหงุดหงิดเมื่อไรรู้ตัวอีกทีก็เผลอกำหมัดแน่น
เหมือนมาลิคมันจะเห็นว่าผมนั่งอยู่ในร้านอาหาร และคนสันดานอย่างมันมีเหรอที่จะไม่เข้ามาทักทาย
“สวัสดีคุณคาแลน บังเอิญจังเลยนะครับ” ผมพ่นลมหายใจออกมาหนัก ๆ ก่อนจะลดสายตามองมือของไอ้มาลิคที่เอาแต่โอบเอวมิลาไม่ยอมปล่อย
“ใครเหรอคะ” ลี่ถาม
“มาลิคคู่ค้าทางธุรกิจ”
“อ๋อ สวัสดีค่ะฉันชื่อลี่ เว่ยหลิน”
“หืม คุณหนูตระกูลเว่ยหลินนี่เอง ได้ยินชื่อเสียงของพ่อคุณมานาน ท่านสบายดีนะครับ”
“ค่ะคุณพ่อสบายดี”
“ที่ข่าวเรื่องเดตออกไปคงจะเป็นเรื่องจริง”
“ว่างมากหรือไง จะไปไหนก็ไป” ผมพ่นคำถามอย่างหงุดหงิดที่มันเอาแต่พูดมาก
“อ่า ว่าจะขอกินข้าวด้วยสักหน่อย”
“พี่คาแลนสะดวกไหมคะ ลี่ยังไงก็ได้”
ผมเงยหน้ามองมิลา เธอคงไม่ต้องการให้เรามาร่วมกินข้าวด้วยกันนักหรอก และผมเองก็ไม่อยากเห็นมาลิคมันจับนู่นจับนี่บนร่างกายของคนที่ตัวเองรัก กลัวจะอดไม่ได้แล้วจะมีเรื่อง
“เอาไว้คราวหน้าผมจะนัดกินข้าวแบบส่วนตัวนะครับคุณมาลิค วันนี้คงไม่สะดวก”
“อ่าผมเข้าใจ คุณคงอยากอยู่กับคู่เดตมากกว่า”
“แล้วผู้หญิงคนนี้เป็นภรรยาของคุณมาลิคเหรอคะ” ลี่เอ่ยถาม ไม่แปลกที่เธอจะสงสัยแต่คำถามนั้นเล่นเอาผมหงุดหงิดไม่น้อย
“ว่าที่คู่หมั้นครับ”
“สวยมากเลยค่ะ เหมาะสมกันมาก ๆ พี่คาแลนคิดเหมือนลี่ไหมคะ”
แค่ครู่หนึ่งที่เผลอสบตากับมิลา แววตาที่สั่นไหวคู่นั้นทำเอาหัวใจของผมวูบไหว อยากจะตอบไปว่า ไม่เลย หนูไม่เหมาะกับคนเลว ๆ อย่างมันสักนิด แต่พูดไม่ได้
“ครับ เหมาะสมมากจริง ๆ”
“อย่ากัดฟันตอบสิครับคุณคาแลน”
ไอ้เวรนี่มันยั่วอารมณ์จริง ๆ สักวันมันจะไม่มีที่ยืน ผมนี่แหละจะเป็นคนโค่นมันลงเอง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เด็กดื้อคนโปรด (ของมาเฟีย) BAD