ผ่านไปแล้วสามเดือน นับจากฝูซิ่นฮวาคลอดองค์ชายน้อย การมีบุตรมิได้ทำให้นางเปลี่ยนไปสักเท่าใด เพียงแค่นางมิได้งอแงเอาแต่ใจเหมือนยามใกล้คลอด แต่กลับมาเป็นฝูซิ่นฮวาคนเดิมที่มีเหตุมีผล เช่นเดียวกับจินเกาหยางที่กลับมาเป็นคนเดิม คนที่ปรารถนาในตัวภรรยาของเขา หลังจากไม่ได้แตะต้องนางมาเนิ่นนาน ตั้งแต่ที่นางมีภาวะเสี่ยงต่อการแท้งบุตรจนกระทั่งคลอดลูก
วันนี้จินเกาหยางตรวจฎีกาเร็วเป็นพิเศษ เขาเพิ่งคุยกับหมอหลวง หมอบอกว่าเขาสามารถร่วมหอกับฝูซิ่นฮวาได้ตั้งแต่เมื่อสองเดือนก่อนแล้ว แต่เป็นฝูซิ่นฮวาที่แกล้งหลอกเขาว่าหมอให้รอสามเดือนจึงจะสามารถร่วมหอกันได้
ฮองเฮาจอมร้ายกาจ วันนี้เขาเห็นทีจะต้องสั่งสอนนางเสียหน่อยแล้ว!
“ท่านพี่” ฝูซิ่นฮวาเรียกเมื่อเห็นจินเกาหยางกลับมาเร็วกว่าปกติ “เหตุใดวันนี้จึงกลับมาเร็วนักเจ้าคะ”
แม้สถานะของทั้งสองจะเปลี่ยนไป เป็นถึงฮ่องเต้และฮองเฮา ทว่ายามอยู่กันตามลำพัง พวกเขาก็ยังชื่นชอบที่จะใช้คำสามัญในการพูดคุยกัน เพราะคำสามัญเหล่านั้นทำให้สองสามีภรรยารู้สึกผูกพันใกล้ชิดกันยิ่งขึ้น
“ข้ามีเหตุให้อารมณ์ไม่ดี” จินเกาหยางแสร้งทำเป็นหงุดหงิด “เจ้ารู้หรือไม่ มีคนกล่าวเท็จแก่ข้า!”
“ใครหรือเจ้าคะ”
“เป็นอดีตขุนนางราชสำนักผู้หนึ่ง”
ฝูซิ่นฮวายิ้มเจื่อน เขาคงมิได้หมายถึงนางหรอกกระมัง
“โทษหลอกลวงเบื้องสูง ข้าควรลงอาญาสถานใดดี” จินเกาหยางถาม นัยน์ตาคมกริบจับจ้องไปที่ภรรยาของตนอย่างคาดโทษ
คราวนี้ฝูซิ่นฮวาแจ้งแก่ใจแล้วว่า ผู้ที่จินเกาหยางเอ่ยถึงหาใช่ใครที่ไหน แต่เป็นนางเอง
หญิงสาวแสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่องอะไร ก่อนเผยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมา
“ท่านกล้าลงโทษคนผู้นั้นหรือ?” นางถาม “กล้าลงโทษเขาจริง ๆ หรือ?”
“เหตุใดข้าจะไม่กล้า” จินเกาหยางขยับเข้ามาใกล้ฝูซิ่นฮวามากขึ้นเรื่อย ๆ พร้อมด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ไม่ต่างกัน
“ท่านเคยพูดว่ากลัวคนผู้นั้นมิใช่หรือ อ๊ะ!” ฝูซิ่นฮวาหวีดร้องอย่างตกใจ เมื่อจินเกาหยางอุ้มนางขึ้นมาไว้ในอ้อมแขนโดยไม่บอกกล่าว เหล่านางกำนัลต่างพากันก้มหน้าแล้วค่อย ๆ ถอยออกจากห้องไปอย่างรู้งาน
“ภรรยาหลอกลวงสามีสมควรมีโทษสถานใด” ชายหนุ่มถามพลางก้าวเท้ายาว ๆ ไปยังเตียงนอนหลังใหญ่
“ภรรยาไปหลอกลวงเรื่องอันใดสามีเข้าหรือเจ้าคะ” นางถามกลับ
“ถามเช่นนี้แสดงว่าเจ้าคงมีเรื่องหลอกลวงข้าอยู่หลายเรื่อง” จินเกาหยางค่อย ๆ วางฝูซิ่นฮวาลงบนเตียงอย่างนุ่มนวล ก่อนที่ตัวเขาจะตามขึ้นมาอีกคน
“เอ... ข้าก็ไม่เคยนับเสียด้วยสิว่ามีกี่เรื่อง”
“สตรีมากเล่ห์!” เขาทำโทษโดยการก้มลงจุมพิตริมฝีปากช่างเจรจาของนางราวเสือร้ายกระโจนเข้าขย้ำกระต่ายตัวน้อย “เจ้าหลอกไม่ให้ข้าร่วมหอกับเจ้าสามเดือน เหตุใดจึงใจร้ายเช่นนี้!”
“ท่านพี่ ข้าเพียงแค่เห็นว่าระยะนี้ท่านมีงานมาก จึงอยากให้ท่านได้พักผ่อน ไม่ใช่เอาแต่...”
“เอาแต่อะไร”
“เอาแต่สนใจเรื่องพวกนั้น”
“ข้าสามีทำงานหนัก กลับถึงห้องนอนควรได้กอดภรรยามิใช่หรือ”
“นี่ยังหัวค่ำอยู่เลย ไม่เป็นไรหรอก”
“แต่...”
“ที่ข้าทำอยู่นี่ก็เพื่อเจ้าทั้งนั้น”
“ท่านทำเพื่อตัวท่านเองต่างหาก” หญิงสาวเถียง
“เพื่อเจ้านั่นแหละ” จินเกาหยางว่า “เพราะเจ้าอยากมีลูกหลายคน ข้าจึงต้องขยัน”
“แต่ว่า...”
“ข้าสัญญาว่าจะขยันขันแข็งกับเจ้าทุกคืน จนกว่าเจ้าจะมีน้องให้หย่งไท่สมใจเจ้า”
แล้วความร้ายกาจเจ้าเล่ห์ของจินเกาหยางก็ดำเนินต่อไปเรื่อย ๆ ซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนกระทั่งฝูซิ่นฮวาหลับใหลไปในอ้อมกอดอุ่น เขาจึงยอมหยุดยั้งความต้องการของตัวเอง แล้วโอบอุ้มร่างเล็กขึ้นมาเช็ดเนื้อเช็ดตัว เพื่อพานางกลับไปนอนบนเตียงกว้าง
“โลกนี้มีเพียงเจ้าเท่านั้นที่ข้าปรารถนา อย่าได้คิดกลั่นแกล้งข้าซ้ำเป็นหนที่สองเชียว เหมยเหมยของข้า”
เมื่อจินเกาหยางกระซิบถ้อยคำดังกล่าวจบ ก็มีเสียงพึมพำคล้ายเสียงละเมอดังมาจากกลีบปากนุ่มของฝูซิ่นฮวา
“ข้าจะไม่ทำอีก”
เพียงเท่านี้ก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้จินเกาหยางหัวเราะออกมาด้วยความพอใจ ก่อนก้มลงจุมพิตริมฝีปากอิ่มแล้วทิ้งตัวลงนอนข้างฝูซิ่นฮวา แล้วหลับไปทั้งที่ยังโอบกอดนางไว้ไม่คลาย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เหมยฮวาบัญชาการ