หลิ่วอวี่เจ๋อเองโยนบุหรี่ลงพื้นอย่างหัวเสีย แล้วตะคอกฟางเชา
“แกไสหัวไปเลย! แล้วอย่าเอาเรื่องเน่าๆ ของแกกับหวังเจียเหยามาปั่นฉันอีก! แกคิดว่าฉันไม่อยากล้างแค้นเย่เฉินหรือไง? ต้องมีเงินถึงจะสู้ต่อได้! คุณปู่ไม่ให้เงินแล้ว! ฉันจะเอาอะไรไปสู้กับเขา!”
สองวันมานี้ของหลิ่วอวี่เจ๋อเขาเหมือนเต่าหัวหด
ตั้งแต่กลับมาที่เทียนไห่ เขาก็ไม่กล้าพบหน้าหวังเจียเหยาอีก ถึงขนาดไม่กล้าตอบวีแชทหญิงสาวด้วยซ้ำไป!
สองวันก่อนเขายังพูดอย่างกล้าหาญว่าจะแย่งหวังเจียเหยามาจากเย่เฉิน
แต่ตอนนี้เขาไม่สามารถจะสู้กับเย่เฉินต่อได้อีกแล้ว
ฟางเขาไม่อยากให้การสู้รบระหว่าทั้งสองตระกูลจะจบลง เขาพยายามจะยั่วยุต่อ
“คุณตาไม่ให้เงินนาย นายก็ไปขอพ่อกับแม่นายสิ หรือไม่ก็ขอยืมจากหลิ่วเฟิงก็ได้ เขาน่าจะมีอย่างน้อยๆ สักหลายพันล้านอยู่มั้ง”
“ถ้าหากทุ่มเงินอีกไม่กี่ร้อยล้านแล้วจะทำให้บริษัทหัวเซิ่งกรุ๊ปเจ๊งล่ะก็ฉันยืมไปนานแล้ว! ทันทีที่บริษัทเย่เฉินเกิดเรื่อง พวกนักธุรกิจรวยๆ ต่างก็ยื่นมือเข้ามาให้ความช่วยเหลือเขา นี่แม่งเหมือนหลุมลึกไร้ก้นบึ้งชัดๆ!”
หลิ่วอวี่เจ๋อสู้รบปรบมือกับเย่เฉินมา ทำให้รู้ซึ้งในศักยภาพของตระกูลเย่เขาดูถูกอีกฝ่ายไม่ได้เด็ดขาด
คนจำนวนมากพูดว่าฐานอิทธิพลของตระกูลเย่นั้นย้ายไปที่เมืองนอก ส่วนในประเทศนั้นไม่มีอะไรต้องหวาดกลัวไร้สาระชัดๆ!
แต่ในเวลานี้เองจู่ๆ โทรศัพท์ของหลิ่วอวี่เจ๋อและฟางเชาก็มีข้อความเตือนเข้ามาพร้อมกัน
เป็นข้อความแจ้งเตือนจากแอพพลิเคชันการเงินที่พวกเขากดติดตามเอาไว้
ทั้งสองคนเปิดมือถือดูพร้อมกันแล้วอ้าปากค้างอย่างตกตะลึง
เมื่อเห็นหัวข้อข่าว “ข่าวด่วน! คุณหม่าปฏิเสธด้วยตัวเองแล้วเรื่องที่ร่วมมือกับบริษัทหัวเซิ่งกรุ๊ปในงานวันคนโสด!”
ทันทีที่เข้าไปดูก็เห็นคลิปสัมภาษณ์สั้นๆ ของคุณหม่า
ในคลิปนั้นคุณหม่าแจงว่าบริษัทหัวเซิ่งกรุ๊ปเคยติดต่อขอความร่วมมือกับพวกเขา แต่เพราะเงินไม่เข้าบริษัทเสียที ทำให้คุณหม่าสงสัยว่าการเงินของทางหัวเซิ่งกรุ๊ปจะมีปัญหา ดังนั้นจึงยกเลิกการร่วมมือครั้งนี้
หลิ่วอวี่เจ๋อดูเสร็จก็ตกใจ “นายบอกว่าคุณหม่านับถือปู่ของเย่เฉินมากเลยไม่ใช่หรือไง? เขาพูดแบบนี้มันเท่ากับว่าทำร้ายเย่เฉินชัดๆ!”
ฟางเชากล่าวพลางหัวเราะร่วน “ก็จะต้องเกิดเรื่องอะไรขึ้นน่ะสิ ดังนั้นคุณหม่าถึงได้ลอยแพเย่เฉิน หมอนั่นจะต้องเกิดเรื่องอะไร!”
ดวงตาหลิ่วอวี่เจ๋อสว่างวาบ ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาตลาดหุ้นเปิด เขายังมีโอกาสเลือกอีกครั้ง!
ว่าเขาจะสู้กับเย่เฉินต่อ หรือจะเชื่อฟังคุณปู่แล้วรามือเสีย!
ทันทีที่คิดถึงเรือนร่างแบบบางอ่อนหวาน ใบหน้าที่งดงามหมดจดของหวังเจียเหยาแล้ว ผู้ชายวัยยี่สิบปีต้นๆ อย่างเขาไหนเลยจะต้านทานความต้องการดิบในร่างกายได้
เขาโทรหาหลิ่วเฟิงอย่างรวดเร็ว “พี่ครับ ผมขอยืมเงินหนึ่งพันล้านหน่อย!”
……
หนึ่งชั่วโมงก่อนนี้
เย่เฉินอาศัยจังหวะตอนเข้าห้องน้ำโทรหาคุณหม่า
“คุณหม่าช่วยอะไรผมหน่อยสิ” เย่เฉินถือโทรศัพท์ขณะนั่งบนชักโครก
คุณหม่าหัวเราะ “จะขอให้ช่วยนายตรึงราคาหุ้นใช่ไหม ไม่มีปัญหา พอดีเลยหุ้นบริษัทผมก็กลับไปเข้าตลาดหุ้นฮ่องกงเหมือนกัน สบายใจได้เลยมีผมอยู่ ราคาหุ้นของบริษัทคุณไม่ร่วงลงหรอก!”
บริษัทของคุณหม่าเคยเข้าตลาดหุ้นที่ฮ่องกงเมื่อสิบกว่าปีก่อน แต่เพราะตลาดหุ้นของฮ่องกงไม่สนับสนุน ‘dual class stock’[1]ที่คุณหม่าเสนอ
ดังนั้นคุณหม่าจึงให้บริษัทไปเข้าตลาดหลักทรัพย์ของทางอเมริกาจนกลายเป็นหุ้น IPO ที่มีการลงทุนเยอะที่สุดเป็นประวัติศาสตร์ของทางอเมริกา
หลังจากนั้นตลาดหลักทรัพย์ของทางฮ่องกงก็ผิดหวัง ผู้บริหารของตลาดหลักทรัพย์ก็แก้กฎให้คุณหม่าโดยเฉพาะ แล้วเชิญเขาให้พาบริษัทกลับมาเข้าตลาดหลักทรัพย์ของทางฮ่องกง
สามารถพูดได้ว่าคุณหม่ามีความสำคัญกับตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงอย่างมาก พูดได้ว่าคำพูดของเขามีน้ำหนักอย่างยิ่งยวด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?)