ตอนที่กินหม้อไฟเมื่อครู่ เย่เฉินไม่ได้บอกเรื่องซ่งหงเย่มีชู้กับเจิ้งปินตรงๆ แต่ก็บอกใบ้เขาเป็นนัยๆ
หัวข้อที่พูดคุยกันในโต๊ะอาหาร เย่เฉินก็พูดถึงเรื่องนี้อยู่บ่อยๆ
ความเห็นของพวกเขาสามคนมองไปในทิศทางเดียวกันก็คือไม่ว่าจะชายหรือหญิงก็ตาม ทันทีที่เคยนอกใจแล้วครั้งหนึ่งก็จะต้องมีครั้งที่สอง
ทันทีที่จับได้ว่าอีกฝ่ายนอกใจ ถ้าไม่ตัดสินใจหย่าก็ต้องปิดตาข้างลืมตาข้าง ต่างคนต่างมีชีวิตของตัวเองไป
แต่เห็นได้ชัดว่าเจิ้งปินไม่ใช่คนที่จะไปหาเศษหาเลย แล้วปล่อยให้ภรรยาไปมีคนอื่นได้ เขาทำงานตลอดทั้งวัน มีโอกาสเจอคนมากมายแต่เขาไม่เคยจะมองผู้หญิงคนอื่นมาก่อน
เขาเป็นคนที่ซื่อสัตย์กับความรักและชีวิตแต่งงานเป็นอย่างมากดังนั้นสำหรับเขาแล้ว ย่อมเลือกทางเลือกแรกนั่นคือหย่ากันไปให้จบๆ !
เจิ้งปินกล่าว “บ้านกับรถผมยกให้คุณ แต่เงินกับหุ้นของบริษัทคุณอย่าหวังจะได้เลย”
สำหรับผู้ชายแล้วรถกับบ้านเป็นแค่ของนอกกาย มีแต่งานเท่านั้นที่เป็นสิ่งที่พวกเขายึดเหนี่ยวเอาไว้
ขอแค่ยังหาเงินได้ของพวกนี้ยังสามารถหามาได้อีก
เจิ้งปินถือว่าเป็นคนที่คิดถึงสายสัมพันธ์ครั้งเก่าก่อน ถึงได้ยอมยกรถและบ้านให้ซ่งหงเย่
ถ้าหากกลับกัน เจิ้งปินกลายเป็นฝ่ายทำผิดล่ะก็ ซ่งหงเย่จะต้องเรียกร้องจนเขาหมดตัวแน่
เจิ้งปินพูดจบก็ชันตัวลุกขึ้นเตรียมจะเดินออกจากบ้าน
ซ่งหงเย่คุกเข่าลงบนพื้นแล้วคว้าเข้าที่ขาของสามี ไม่ให้เขาไปไหน
หล่อนรู้ดีแก่ใจ ทันทีที่ตัวเองหย่ากับเจิ้งปินแล้วก็จะไม่อาจมีชีวิตร่ำรวยแบบที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ได้อีก
เดิมทีฐานะทางบ้านของซ่งหงเย่ไม่ได้ร่ำรวยอะไร ยากจนกว่าหวังเจียเหยาด้วยซ้ำ อีกทั้งพี่ชายและพี่สาวก็ไม่ได้รักหล่อนเท่าไรนัก
ตัวหล่อนเองก็ไม่ได้สวยอะไรมากมาย ยิ่งพอผ่านการแต่งงานมาแล้วก็จะทำให้หล่อนดูด้อยค่าลงไป
ถ้าคิดจะแต่งงานใหม่อีกครั้งก็คงจะไม่สามารถหาสามีแบบเจิ้งปินได้อีก
เจิ้งปินเป็นคนเก่งอายุแค่ 30 ก็มีทรัพย์สินมูลค่าหลายร้อยล้าน อนาคตไม่แน่ว่าเขาอาจจะกลายเป็นเศรษฐีหมื่นล้านก็ได้
ส่วนซ่งหงเย่เองหลังจากหย่าแล้วจะหาเศรษฐีที่ร่ำรวยสักสิบล้านก็คงจะยากแล้ว นอกจากจะไปเลี้ยงเด็กเอ๊าะๆ แทน
ซ่งหงเย่ร้องไห้คร่ำครวญ หล่อนเห็นกล่องเครื่องแก้วบนโต๊ะรับแขกก็คิดได้ว่าน่าจะเป็นของที่เจิ้งปินเอามาด้วยก็ละลั่กละล่ำกล่าว
“ที่รัก เครื่องแก้วชุดนี้คุณเอามาให้ฉันใช่ไหมคะ? นี่แปลว่าคุณยังรักฉันใช่ไหมคะ? ฉันก็แค่ทำผิดในสิ่งที่ผู้หญิงธรรมดาทั่วไปอาจจะทำพลาดได้ ทำไมคุณต้องตัดรอนไร้เยื่อใยขนาดนี้ ไม่ให้โอกาสฉันสักครั้งล่ะคะ? ขนาดเย่เฉินยังให้โอกาสหวังเจียเหยาอีกครั้งเลย เขาให้อภัยหล่อน ทำไมคุณถึงไม่ยอมให้อภัยฉันบ้าง?”
เจิ้งปินมองซ่งหงเย่ด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยโทสะ “คุณไม่มีสิทธิ์ไปพูดถึงเขา! เย่เฉินให้อภัยหวังเจียเหยา ให้โอกาสหล่อนอีกครั้งแล้วผลล่ะเป็นยังไง? หวังเจียเหยาก็มีคนแซ่หลิ่วนั่นไม่ใช่หรือไง?!”
ซ่งหงเย่ประหลาดใจมากทีเดียวที่เจิ้งปินรู้เรื่องของหลิ่วอวี่เจ๋อ แต่ทันทีที่ฉุกคิดได้ว่าตนเองก็เคยนอนกับหมอนั่น หล่อนก็หวาดกลัวจนไม่กล้าจะตั้งคำถาม
ซ่งหงเย่กล่าว “ไม่ใช่ค่ะ ที่รัก เย่เฉินไปเล่นชู้กับน้องสาวของเจียเหยาดังนั้นพวกเขาถึงได้หย่ากัน”
เจิ้งปินแค่นเสียง “คุณฉินประธานบริษัทหัวเซิ่งกรุ๊ปพูดกับผมเอง จะเป็นเรื่องโกหกได้ยัง?”
“ฉินหงเหยียนบอกคุณเหรอ?”
ซ่งหงเย่นิ่งไป ไม่รู้ว่าสามีตนเองไปรู้จักกัยฉินหงเหยียนเอาตอนไหน
ซ่งหงเย่จึงไม่กล้าแก้ตัวแทนหวังเจียเหยาอีก ตอนนี้หล่อนเองก็เอาตัวรอดยากแล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?)