ณ วิลลล่าเฝยชุ่ย
หวังเจียเหยานอนพลิกไปมากระสับกระส่ายบนเตียงใหม่ที่เพิ่งซื้อ ไม่ว่าอย่างไรก็นอนไม่หลับ
จึงตัดสินใจผุดลุกขึ้นมาในทันที ด้วยใบหน้าหมดอาลัยตายอยาก
หลิ่วอวี่เจ๋อรีบร้อนลุกขึ้นนั่งเช่นกันแล้วปลอบภรรยาสาว “ภรรยาที่รักของผมคุณเป็นอะไรไปครับ? นอนไม่หลับเหรอ?”
หวังเจียเหยาทำปากยื่น ถึงแม้ว่ากำลังจะแต่งงานเป็นครั้งที่สาม อีกทั้งยังกำลังจะเป็นแม่คนแล้ว แต่ท่าทางของหญิงสาวก็ยังดูใสซื่อบริสุทธิ์อยู่
หวังเจียเหยากล่าว “ก็ข้างบ้านเราน่ะสิเสียงดังหนวกหู! ที่บ้านของฉินหงเหยียนมีคนมาเยอะเลย แค่คิดว่าพวกเขากำลังดื่มเหล้ากันอย่างมีความสุขฉันก็หงุดหงิดแล้ว เขามีสิทธิ์อะไร? เย่เฉินนอนกับน้องสาวฉัน แถมตอนนี้ยังจะไปเกาะแกะอยู่กับฉินหงเหยียน เขาเปลี่ยนผู้หญิงมาสามคนในเวลาไม่ถึงเดือน!”
ช่วงนี้หวังเจียเหยามีแค่เย่เฉินกับหลิ่วอวี่เจ๋อ แต่เย่เฉินได้นอนกับผู้หญิงมากกว่าหล่อน ทำให้หล่อนรู้สึกเสียเปรียบชายหนุ่ม
หลิ่วอวี่เจ๋อชะงักไป ที่นี่เป็นวิลล่าส่วนตัว ไม่เหมือนห้องเป็นตัวตึก ที่มักจะมีปัญหาเสียงดังเล็ดลอดออกมาจากด้านบนหรือด้านล่าง
อย่างน้อยๆ หลิ่วอวี่เจ๋อก็ไม่ได้ยินเสียงอะไร
“ผมไปคุยกับพวกเขาให้!”
ในตอนที่หลิ่วอวี่เจ๋อกำลังชันตัวลุกขึ้นนั้นเอง หวังเจียเหยาก็รั้งแขนเขาเอาไว้ “เอ้อ ที่รักคะ คุณไม่ต้องไปหรอก”
หวังเจียเหยากลัวว่าเดี๋ยวถ้าเขาไปมีเรื่องวิวาทกับเย่เฉินแล้วจะเป็นฝ่ายเสียเปรียบ
หวังเจียเหยากล่าว “ฉินหงเหยียนมีเพื่อนที่เทียนไห่เยอะเลยใช่ไหมคะ? วันนี้หล่อนเพิ่งซื้อบ้านก็มีคนมากินเลี้ยงที่บ้านเยอะเลย แล้วฉันเห็นรถของพวกเขาหรูหรากันทุกคันเลย”
หลิวอวี่เจ๋อหัวเราะเสียงแผ่ว “คงงั้นล่ะมั้ง แต่ว่าเส้นสายน้อยนิดของหล่อนจะเทียบอะไรได้กับเส้นสายของคนตระกูลหลิ่วของผมในเทียนไห่ อีกอย่างผมก็ส่งคนไปสืบทะเบียนของรถพวกนั้นที่เพิ่งขับมาแล้ว เดี๋ยวเราก็รู้แล้วว่าพวกเขาเป็นใคร
ที่รักคุณหลับเถอะ คุณสบายใจได้ ฉินหงเหยียนกับเย่เฉินกล้าทำแบบนี้กับพวกเรา ผมไม่มีทางปล่อยให้พวกเขาได้เสวยสุขในเทียนไห่แน่!”
ผ่านไปครึ่งชั่วโมงหลิ่วอวี่เจ๋อก็ได้รับสาย
“เพิ่งสืบเจอครับ พี่อวี่เจ๋อ รถพอร์ชสีชมพูคนนั้นเป็นรถของเหวินเชี่ยนเชี่ยนเจ้าของบริษัทผลิตภัณฑ์เสริมความงามเหวินเชี่ยน ส่วนรถคันอื่นๆ ก็เป็นรถของพนักงานในบริษัท”
หลิ่วอวี่เจ๋อหัวเราะ “ที่แท้ก็บริษัทผลิตภัณฑ์เสริมความงามที่เหม่ยฉีเป็นพรีเซนเตอร์นี่เอง”
บริษัทนี้เพิ่งมามีเชื่อเสียงเล็กๆ น้อยๆ จากเหตุผลบางอย่าง หลิ่วอวี่เจ๋อเองก็พอรู้มา
ทว่าจากท่าทีของเขาก็พอจะเดาออกว่าเขาไม่เห็นบริษัทของเหวินเชี่ยนเชี่ยนอยู่ในสายตาด้วยซ้ำ
ห้าทุ่มครึ่ง
พวกเหวินเชี่ยนเชี่ยนเดินออกมาจากวิลล่าของฉินหงเหยียนและเย่เฉิน โดยที่เจ้าบ้านสองคนก็ออกมาส่งหล่อนที่ประตู
“บ๊ายบาย หงเหยียน เจอกันที่บริษัทพรุ่งนี้นะ”
“บ๊ายบายครับ คุณฉิน”
พวกเหวินเชี่ยนเชี่ยนโบกมือลาฉินหงเหยียน จากนั้นก็ขับรถออกไปจากวิลล่าเฝยชุ่ย
ทว่าหล่อนเพิ่งขับออกจากวิลล่ามาได้ไม่ไกลเท่าไรห่นัก ก็มีรถเบนซ์ G-class ปาดให้รถพอร์ชนของหญิงสาวต้องหยุดลง
“ใครเนี่ย ขับรถเป็นหรือเปล่า!”
เพราะดื่มเหล้า ทำให้เหวินเชี่ยนเชี่ยนที่นั่งบริเวณข้างคนขับ สบถด่าคนขับรถเบนซ์ไป
กระจกฝั่งคนขับของรถเบนซ์ค่อยๆ ลดลงแล้วใบหน้าเหล่าอ่อนวัยก็ปรากฏขึ้น “เหวินเชี่ยนเชี่ยนใช่ไหม? ช่วยจอดแอบข้างทางแล้วคุยกันหน่อยสิ”
เหวินเชี่ยนเชี่ยนเองก็รู้สึกว่าชายคนนี้หน้าคุ้นๆ บวกกับฝั่งหญิงสาวเองก็มีคนมากกว่า มากันตั้งหลายคันรถจึงไม่กลัวฝ่ายตรงข้าม
ดังนั้นรถของเหวินเชี่ยนเชี่ยนและเพื่อนร่วมงานคนอื่นๆ ก็จอดแอบที่บริเวณข้างทางแล้วเปิดไฟขอทางเอาไว้
เหวินเชี่ยนเชี่ยนจิกรองเท้าส้นสูงแล้วเดินมาอย่างวางมาดก่อจะถาม “คุณคือใคร? รู้จักฉันได้ยังไง?”
หลิ่วอวี่เจ๋อก็จอดรถเช่นกัน เขาจุดบุหรี่แล้วกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ว่าง่ายดีนี่ ผมหลิ่วอวี่เจ๋อ บริษัทชุนเฟิงเอ็กซ์เพรสคือธุรกิจของที่บ้านผมเอง”
“ชุนเฟิงเอ็กซ์เพรส! ตระกูลหลิ่ว!”
เหวินเชี่ยนเชี่ยนมีท่าทีตื่นตระหนกทันที!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?)