“ฮัลโหล พี่อวี่เจ๋อทำยังไงดี? เรื่องเมื่อคืนของเราโดนแฉแล้ว ท่านประธานด่าฉันเกือบตาย!”
ฟากเหม่ยฉีร้อนรนตั้งแต่เช้าแล้ว
หญิงสาวเป็นดาราดัง ชีวิตส่วนตัวของหล่อนมีผลกระทบต่อตัวเองอย่างมาก สามารถพูดได้ว่าไม่แน่ว่าหล่อนอาจจะอยู่ในวงการบันเทิงต่อไม่ได้แล้ว!
ดาราอย่างหล่อน แค่โดนแฉว่าสูบบุหรี่ก็จะจบเห่ทันที นับประสาอะไรกับเรื่องผู้ชาย!
หลิ่วอวี่เจ๋อกล่าว “เหม่ยฉีอย่ากังวล รูปมันก็ไม่ได้ชัดนักหนาหรอก ขอแค่เธอยืนกระต่ายขาเดียวว่าไม่ใช่ก็พอแล้ว เอาแบบนี้แล้วกันเธอรีบไปบอกให้บริษัทแถลงปฏิเสธไป ฟากฉันผมอธิบายเรียบร้อยแล้ว ก่อนจะแชร์ช่วยส่งมาให้ดู พวกเราเช็คกันสักหน่อย”
เหม่ยฉีกล่าวอย่างร้อนใจ “ได้เหรอ? ถึงแม้ว่าในรูปไม่ชัดเจนแต่ฉันเป็นคนของประชาชน แฟนคลับของฉันดูแค่ปราดเดียวก็มองออกแล้วว่าใช่ฉันไหม พวกเขาแน่ใจแล้วว่าเป็นฉัน ฮือๆ… อนาคตในวงการบันเทิงของฉันจะจบเห่แล้วใช่ไหมคะ?”
เหม่ยฉียังเป็นเพียงสาววัยรุ่น คาดว่าเมื่อครู่คงโดนบริษัทดุด่าจนขวัญกระเจิง
หลิ่วอวี่เจ๋อปลอบ “อย่าไปฟังเถ้าแก่เธอพูดเหลวไหล สบายใจเถอะน่าไม่เป็นไรหรอก เดี๋ยวข่าวติดเทรนด์พวกนี้ก็หายไปแล้ว! ฉันจะแสดงให้เธอเห็นถึงศักยภาพของตระกูลหลิ่วเราเร็วๆ นี้แหละ!”
เมื่อกดตัดสายหลิ่วอวี่เจ๋อก็แค่นเสียง
เขาไม่รู้ว่าเรื่องนี้ปาปารัซซี่เป็นคนปูดออกมาหรือว่ามีคนจงใจจะแกล้งเขา
แต่ไม่ว่าจะอย่างไร หลิ่วอวี่เจ๋อก็สามารถคลี่คลายภัยพิบัติครั้งนี้ได้อย่างง่ายดาย!
มีเงินสามารถดลบันดาลทุกอย่าง มีเงินสามารถทำให้ฮอตเสิร์ชหายไปอย่างรวดเร็วได้เหมือนกัน!
หลิ่วอวี่เจ๋อกดโทรศัพท์อีกครั้ง “รีบจัดการฮอตเสิร์ชให้เร็วๆ เลย เงินไม่ใช่ปัญหาเลย!”
……
ณ วิลล่าเฝยชุ่ย
ฉินหงเหยียนไถเวยป๋อแล้วไปเจอข่าวนี้เข้า
“เย่เฉิน คุณรีบดูสิ ดาราดังเหม่ยฉีคนนั้นลอบนัดพบกับหลิ่วอวี่เจ๋อเมื่อคืน โดนปาปารัซซี่แฉแล้ว!”
ฉินหงเหยียนตกตะลึงอย่างมาก
ฮอตเสิร์ชนี้เป็นฝีมือเย่เฉิน
ทว่าเย่เฉินก็ยังแสร้งทำท่าทีตกใจแล้วเดินไปหาแฟนสาว “จริงเหรอ? ผมขอดูหน่อย”
เมื่อดูภาพถ่ายที่เคยเห็นมาก่อนหน้านี้นานแล้ว เย่เฉินก็หัวเราะหึหึ “หึ หวังเจียเหยายังมีหน้าจะคิดว่าตัวเองได้แต่งงานกับผู้ชายที่ดีเลิศเลอ คราวนี้รู้แล้วสิว่าหลิ่วอวี่เจ๋อเป็นคนยังไง!”
เห็นหลิ่วอวี่เจ๋อโดนชาวเน็ตด่าอย่างมืดฟ้ามัวดิน ฉินหงเหยียนเองก็ดีใจอย่างมาก โทสะเมื่อวานของตนเองก็สลายหายไปไม่น้อย
ฉินหงเหยียนกล่าว “เป็นไปอย่างที่คาดจริงๆ คนเลวต้องโดนเทวดาลงโทษ พวกเราไม่ต้องล้างแค้นเขาเลยด้วยซ้ำไป ตัวเขาเองก็รนหาที่ตายเอง!”
เย่เฉินกล่าวพลางยิ้มน้อยๆ แล้วพยักศีรษะ
แต่ว่าในใจตนเองกลับไม่คิดเช่นนี้
คนเลวโดนสวรรค์ลงโทษเหรอ? สวรรค์ยุติธรรมขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่?
ไม่ถ้าหากไม่ได้หลิวเจิ้งคุน ถ้าหากไม่มีการชักใยของเย่เฉิน หลิ่วอวี่เจ๋อก็คงไม่โดนลงโทษแบบนี้
ถ้าหากว่าเรื่องเมื่อคืนโดนปาปารัซซี่คนอื่นถ่ายเอาไว้ หากที่ปาปารัซซี่ทำไปไม่ได้คิดจะแฉแต่เอารูปภาพพวกนี้ไปแบล็คเมลล์หลิ่วอวี่เจ๋อแทน
เมื่อให้เงินแล้ว หลิ่วอวี่เจ๋อก็จะไม่โดนด่าแบบวันนี้
ทันใดนั้นเองฉินหงเหยียนก็นึกถึงหวังเจียเหยาจึงถามเย่เฉิน “ตอนนี้หวังเจียเหยาคงจะเสียใจกกระมัง? คุณว่าหวังเจียเหยาจะเหมือนที่แต่งงานกับฟางเชาคราวก่อนหรือเปล่าที่จู่ๆ ก็ยกเลิกงานแต่งแล้วจะโร่กลับมาขอคืนดีกับคุณน่ะ? คุณน่ะ ใจอ่อนขนาดนั้นแถมยังรักหล่อนมาก ตอนคอนเสิร์ตก็ร้องไห้ให้หล่อน ถ้าหล่อนมาอ้อนวอนขอคืนดีด้วยคุณต้องทิ้งฉันแล้วไปดีกับหล่อนแน่เลย”
คำพูดของฉินหงเหยียนทำให้เย่เฉินรู้สึกผิด
เย่เฉินรีบยกมือขึ้นมาสาบาน “หงเหยียนผมขอรับรองว่าจะไม่ทำแบบนั้น ตอนนี้คุณต่างหากถึงจะเป็นผู้หญิงที่ผมรักที่สุด หวังเจียเหยากลายเป็นแค่อดีตไปแล้ว คุณอย่าล้อผมเล่นสิครับ พูดอีกอย่างผมไม่คิดว่าหวังเจียเหยาจะเลิกกับหลิ่วอวี่เจ๋อเพราะเรื่องนี้ แล้วยิ่งไปกว่านั้นหล่อนไม่มีทางซมซานกลับมาขอผมคืนดีแน่นอน”
คำพูดเมื่อครู่ของฉินหงเหยียน ย่อมเป็นเพียงการกระเซ้าเย้าแหย่แน่นอน หล่อนรู้ว่าตอนนี้ชายหนุ่มรักตนเอง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?)