“ร้านกาแฟซือเฉิน? ทำไมถึงชื่อนี้ล่ะ?” เย่อัยฉีประหลาดใจ
พี่รองของพวกเขาชื่อเย่เซวียน ในชื่อของเขาไม่ได้มีคำว่า ‘เฉิน’ เสียหน่อย
ถ้าหากว่าผู้หญิงคนนั้นต้องการจะตั้งชื่อร้านกาแฟล่ะก็ ควรจะตั้งชื่อว่า ‘ร้านกาแฟซือเซวียน’ น่าจะดีกว่า
หรือว่าที่ร้านกาแฟนี้ชื่อซือเฉิน บางทีอาจเป็นเพราะว่าตัวหล่อนหรือแม่ลูกสาวตัวน้อยของหล่อนชื่อซือเฉินเหรอ?
เย่เฉินส่ายหน้า “พี่เองก็ไม่รู้ พอถึงที่นั่นเธอไปถามหล่อนสิ”
ทั้งสองคนเดินออกจาก Shanghai Swatch Art Center ตอนที่เพิ่งจะถึงปากประตู พวกเขาก็ไปเจอฉินหงเหยียนที่กำลังจะขึ้นรถก็ชะงักไป สองคนพี่น้องกะว่าจะออกเดินทางหลังจากที่รถของฉินหงเหยียนขับออกไป
เย่เฉินเห็นวัยรุ่นชายอายุ 20 กว่าปีเดินลงมาจากที่นั่งคนขับรถ หลังจากที่วิ่งไปด้านหลังของรถแล้วก็เปิดประตูให้ฉินหงเหยียน
บนใบหน้าแต่งแต้มด้วยรอยยิ้มด้วยท่าทางนอบน้อม
ฉินหงเหยียนเป็นรองประธานบริษัท ย่อมต้องได้รับสวัสดิการอย่างการเปิดประตูรถ แล้วก้าวเข้าไปนั่งด้านหลังอย่างคุ้นเคย
ชายอายุน้อยคนนั้นยิ้มพลางใช้มือบังส่วนหลังคาให้หญิงสาว เพื่อระวังไม่ให้ศีรษะหญิงสวกระแทกใส่ด้านบน อากัปกริยาทั้งหมดนี้ดูแล้วเป็นปกติอย่างมาก
แต่เย่เฉินสังเกตเห็นว่าในตอนที่ขาข้างหนึ่งของหญิงสาวอยู่ในรถ แล้วกำลังจะก้าวขาอีกข้างตามไป เห็นได้ชัดเจนว่าครรลองสายตาของคนขับรถอายุน้อยคนนั้นจ้องขาของฉินหงเหยียนอยู่หลายครั้ง
เย่เฉินรู้สึกไม่ค่อยพอใจกล่าวออกมา “อัยฉี คนขับรถของหงเหยียนคนนี้หาจ้างมาจากไหน? ดูแล้วหมอนี่มันดูนิสัยแย่พิกล”
ประธานบริษัทสาวสวยแบบฉินหงเหยียนทั้งประเทศมีน้อยนิด ถ้าหากว่าผู้ชายไม่อยากมองหล่อนให้มากสักหน่อย เขาคงจะต้องมีปัญหาเรื่องเพศสภาพแน่ๆ
มีแฟนสวย เย่เฉินก็เตรียมใจจะรับเรื่องพวกนี้ได้นานแล้ว
แต่ว่าแววตาของคนขับอายุน้อยคนนี้ ดูกลับกลอกอย่างมาก เย่เฉินไม่ชอบอย่างมาก
เย่อัยฉีกล่าว “เหมือนจะเป็นญาติของรองประธานสักคน หรือเด็กเส้นสักคน พี่ก็รู้ว่าในบริษัทในประเทศทั้งหมดต่างก็เป็นเด็กเส้นทั้งนั้น ถ้าพี่ไม่ชอบเขา ก็ไม่ต้องเป็นกังวลไปนะคะ พี่ไม่ได้ยินที่พี่สะใภ้บอกเมื่อกี้เหรอคะว่าอีกเดี๋ยวจะไล่เขาออกเหรอคะ?”
“อืม” เย่เฉินพยักหน้ารับ ดูแล้วฉินหงเหยียนเองก็สังเกตเห็นท่าทางลามกของชายวัยรุ่นคนนี้แล้ว เขาเองก็คงไม่ต้องเป็นกังวลเรื่องนี้อีก
ฉินหงเหยียนขึ้นรถ แล้วคนขับอายุน้อยที่ถูกเรียกว่าเสี่ยวหวังก็เดินย้อกลับไปประจำตรงที่นั่งคนขับรถ เพิ่งจะออกรถก็ถามฉินหงเหยียนอย่างห่วงใย
“คุณฉินครับ ทำไมออกมาเร็วจังเลยล่ะครับ ทานข้าวกับคุณอัยเป็นยังไงบ้างครับ? ได้ยินมาว่าแฟนคุณก็มาทานข้าวด้วย เขาใส่เสื้อแขนยาวสีขาวใช่ไหมครับ? เขาทำงานอะไรเหรอครับ?”
เสี่ยวหวังเปิดปากถามเป็นฉากๆ
ฉินหงเหยียนไม่ทันได้สังเกตเห็นว่าอีกฝ่ายแอบดูตนเอง เพราะหล่อนรำคาญที่เขาพูดมากถึงได้ตั้งใจจะไล่เขาออก
“ขับรถของนายไปเถอะ อย่าถามเยอะแยะ” ฉินหงเหยียนกล่าวเสียงเรียบ
หล่อนรู้ว่าเสี่ยวหวังคนนี้เป็นญาติของเหอเหวินเจี้ยน เดิมทีทั้งสองคนรู้จักกันมานานาน ฉินหงเหยียนถึงไม่อยากจะแตะต้องคนของอีกฝ่าย
แต่เสี่ยวหวังคนนี้พูดมากจริงๆ บ่นไม่หยุดทุกวัน หล่อนตั้งใจจะหาเวลาเหมาะๆ ไล่เขาออก
หลังจากที่รถของหญิงสาวขับออกไปแล้ว สองคนพี่น้องนั้นถึงได้เดินออกมา เย่อัยฉีขับรถมาเอง
ถึงแม้หล่อนจะเป็นผู้บริหารแต่ก็อยู่ต่างประเทศตลอด ไม่ค่อยมีโอกาสขับรถในประเทศ ดังนั้นจึงไม่อยากได้คนขับรถ
เย่อัยฉีพาเย่เฉินขับรถไปที่ถนนหลงอวิ๋นในบริเวณนอกเมืองเทียนไห่ เทียนไห่ในช่วงที่ไกลเดือนพฤศจิกายนนี้ก็เริ่มหนาวขึ้นมาบ้างแล้ว คนจำนวนมากจึงเริ่มสวมเสื้อคลุมกันบ้างแล้ว
เย่เฉินนึกถึงตอนที่เจอกันเมื่อคราวก่อน ผู้หญิงในร้านกาแฟคนนั้นยังสวมแค่ชุดกระโปรงเพียงตัวเดียว
ไม่รู้ว่าตอนนี้เจ้าหล่อนจะสวมใส่อะไรอยู่
เมื่อผลักประตูร้านกาแฟแล้วก็เห็นผู้หญิงที่หน้าตาสะสวยพอๆ กับหวังเจียเหยาอยู่
แล้วจึงเห็นหล่อนสวมฮู้ดดี้ตัวยาว มือสองข้างของเจ้าหล่อนซุกเอาไว้ในกระเป๋า แล้วกำลังส่งยิ้มให้เด็กหญิงตัวน้อยที่ยืนอยู่บนโซฟา
แต่หล่อนไม่ได้สวมกางเกงหรือกระโปรง แต่ย่อมต้องสวมกางเกงขาสั้น แต่แจ็คเก็ตตัวนั้นยาวเกินไปจนบังกางเกงขาสั้นไว้จนมิด
ดังนั้นพอมองจากไกลๆ จึงเหมือนกับว่าหล่อนสวมแค่แจ็กเก็ตเพียงตัวเดียว
เมืองใหญ่ๆ แบบเทียนไห่ ถึงจะเป็นฤดูกาลที่เย็นสบายแบบนี้หรือกระทั่งฤดูกาลที่หนาวเย็น ก็มักจะได้เห็นเรียวขาของผู้หญิงสาวๆ เสมอ
“Hi”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?)