“ซ่าวเจี๋ย…”
กะอีแค่เสียงตะโกนของหวังจื้อหย่วนเพียงเท่านี้ ไม่ได้ทำให้หวังซ่าวเจี๋ยแยแสเขาสักนิด
หวังซ่าวเจี๋ยไม่กล้าล่วงเกินเย่เฉินอีกแล้ว วันนี้โดนเขาซ้อมมาสองครั้ง หากมีครั้งที่สาม หน้าเขาคงยับเยิน
ก่อนหน้านี้หวังจื้อหย่วนเป็นพ่อตาของเย่เฉิน แต่ตอนนี้ไม่ได้มีอะไรเกี่ยวข้องกัน เขาเองก็กลัวว่าเย่เฉินจะทำเป็นไม่รู้จักเขาแล้วอาจจะซ้อมอดีตพ่อตาอย่างเขาได้ลงคอ
หวังจื้อหย่วนไม่เหมือนกับหวังจื้อเฉียง เขาไม่รู้จักคนในวงการใต้ดินอะไร
ดังนั้นเขาจึงโทรหาบุตรสาว “เจียเหยา ลูกยังอยู่ที่โรงแรมซีจื่อหูหรือเปล่า?”
หวังเจียเหยา “อยู่ค่ะพ่อ”
หวังจื้อหย่วน “พ่อตรวจเช็คของที่บ้านย่าเสร็จแล้ว นาฬิการิชาร์ดมิลล์หายไปเรือนหนึ่ง ราคาอยู่ที่ห้า ล้านหยวน เย่เฉินต้องเป็นคนฉกไปแน่”
หวังเจียเหยา “สวะ! มิน่าถึงมีเงินพักโรงแรมห้าดาวแถมยังนอนห้องเพรสซิเด้นท์สูทอีก!”
หวังจื้อหย่วน “เจียเหยา คุณย่าโกรธมากนะ ให้ลูกพาเย่เฉินกลับบ้าน พ่อไม่ไปแล้วนะ ลูกจัดการเลย”
…
โรงแรมซีจื่อหู
พอวางสายเสร็จหวังเจียเหยาเต้นเร่า “แหมดีจริง เย่เฉิน คิดไม่ถึงเลยว่าจะกล้าขโมยของของคุณย่า เดี๋ยวคอยดูว่าฉันจะจัดการนายยังไง!”
หวังเจียเหยาเดินไปที่เคาน์เตอร์แล้วถาม “ห้องพักของเย่เฉินห้องไหน?”
ฟางเชาเห็นเข้าจึงรีบก้าวเท้าไปหา “เจียเหยา นี่คุณจะทำอะไร?”
“ทำอะไรน่ะเหรอ? ก็จะลากตัวเขากลับไปไง เขาขโมยนาฬิกาเรือนละห้าล้านของคุณปู่ไป!” หวังเจียเหยากล่าว
ฟางเชารู้ว่าเย่เฉินจะต้องไม่ยอมกลับแต่โดยดีแน่ พอถึงตอนนั้นต้องทะเลาะกันแน่นอน
แต่ที่นี่เป็นโรงแรมห้าดาว ที่บ้านเขาเองก็ทำธุรกิจโรงแรม สิ่งที่เกลียดที่สุดก็มีคนมาโวยวายก่อเรื่องที่โรงแรม
แล้วบวกกับที่ว่าฟางเชาไม่กล้าล่วงเกินเจ้าของโรงแรมแห่งนี้ด้วยแล้ว
ฟางเชาคว้ามือหวังเจียเหยาแล้วกล่าว “ไม่ต้องหรอกไปแจ้งความกันดีกว่า”
หวังเจียเหยาสะบัดมือเขา “ทำไมนายขี้ขลาดแบบนี้? ถ้านายไม่กล้าฉันไปเอง!”
เมื่อหวังเจียเหยาได้เลขที่ห้องของเย่เฉินแล้ว เจ้าหล่อนก็ขึ้นลิฟต์ตรงไปห้องพักของเย่เฉินทันที
ก๊อก ก๊อก ก๊อก!
หวังเจียเหยาคร้านจะกดกริ่ง จึงใช้กำปั้นขาวนวลทุบประตูอย่างแรง
“เย่เฉิน ไอ่หัวขโมย! รีบมาเปิดประตูให้ฉันเร็ว!”
เย่เฉินกล่าว “คุณหนูหวัง ผมไม่เคยเอาเงินตระกูลหวังของคุณมาแม้แต่สตางค์แดงเดียว นับประสาอะไรจะมาขโมยนาฬิกาของพวกคุณ เชิญคุณไปเถอะ”
พอได้ยินเย่เฉินใช้สรรพนามเรียกเธอว่าคุณหนูหวัง ในใจหวังเจียเหยาก็เจ็บแปลบๆ
สามปีที่ผ่านมาเขาเรียกหล่อนว่าเจียเหยาด้วยน้ำเสียงรักใคร่ บางครั้งเขาเรียกเธอว่าที่รักเอย คุณภรรยาเอย นางฟ้าเอยด้วยซ้ำไป
แต่มาตอนนี้เขากลับเรียกตนเองอย่างห่างเหินว่าคุณหนูหวัง
หวังเจียเหยารู้สึกไม่ดีนัก น้ำเสียงที่กล่าวออกมาจึงเจือเสียงสะอื้น “เย่เฉิน นายนี่มันไร้หัวใจจริงๆ ทำไมถึงได้รีบไล่ฉันไปนัก? หรือว่าในห้องนายซ่อนผู้หญิงคนอื่นเอาไว้?”
ในห้องเขาต้องมีผู้หญิงคนอื่นอยู่แน่ แต่เขาไม่ใช่ผู้ชายที่จะไม่เลือกแบบนั้น
ทว่าเย่เฉินกลับกล่าวต่อว่า “จะมีหรือไม่ ไม่เกี่ยวอะไรกับคุณ พวกเราหย่ากันแล้ว”
หวังเจียเหยาโกรธจนถึงขีดสุด ชี้นิ้วใส่เย่เฉินแล้วกล่าวว่า “พวกเราหย่ากันยังไม่ถึงชั่วโมงดีเลยด้วยซ้ำ นายก็ไปหาผู้หญิงคนอื่นแล้ว! แถมเงินที่ใช้ก็เป็นเงินของตระกูลหวังเรา! นายทำผิดต่อฉันมากเลยนะ!”
เย่เฉินกล่าวด้วยน้ำเสียงที่ปนกับเสียงหัวเราะ “ฮ่าๆ คุณมีชู้ทั้งที่ยังแต่งงานกับผม แล้วผมที่หย่าแล้วจะมีคนอื่นไม่ได้หรือไง? ใครทำผิดต่อใครกันแน่?”
หวังเจียเหยาไม่รู้จะพูดอะไรต่อ หล่อนปิดปากเงียบไม่พูดอะไรอีก แล้วตรงดิ่งเข้าห้อง อยากจะหาผู้หญิงที่อยู่ในห้องแล้วว่าจะฟาดหน้าอีกฝ่ายสักฉาด
แต่ว่าเย่เฉินไม่ได้มีท่าทีจะปล่อยให้หวังเจียเหยาได้ย่างเท้าเข้ามาด้วยซ้ำ
เย่เฉินกล่าวว่า “คุณหนูหวัง ห้องเพรสซิเด้นท์สูทของโรงแรมห้าดาวนี้ คุณไม่คู่ควรจะได้ย่างเท้าเข้ามา ถ้าไม่ไปผมจะเรียกรปภ.แล้วนะ!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?)