ผู้หญิงในประเทศนี้ชอบผู้ชายตัวสูง อย่างหลิ่วอวี่เจ๋อที่สูงถึง 185 ซม. ต่อให้หน้าตาน่าเกลียดแต่ถ้าเขาแต่งตัวเป็น เดินไปบนถนนก็จะต้องมีผู้หญิงชมว่าเขาหล่ออยู่ดี
นับประสาอะไรกับหลิ่วอวี่เจ๋อที่หน้าตาอยู่ในระดับดารา ผู้หญิงทั่วๆ ไปเห็นเข้าย่อมต้านทานเสน่ห์เขาไม่ไหว
ดังนั้นก่อนหน้าหวังเจียเหยาแล้ว หลิ่วอวี่เจ๋อไม่ต้องลดตัวลงไปไล่ตามจีบใครอยู่แล้ว นับประสาอะไรกับสาวๆ อาชีพแอร์โฮสเตสอย่างฉินเสี่ยวตั่ว เขายิ่งไม่จำเป็นต้องไปทุ่มเทพยายามตามจีบด้วยซ้ำไป
เพราะแค่พวกแอร์โฮสเตสเห็นเขาก็ขอวีแชทเขา สรรหาของขวัญสารพัดมาให้เขาเพื่อนัดเจอเขา อาจจะหนักถึงขนาดที่ว่าเงินเปิดโรงแรมก็เป็นเงินผู้หญิงด้วยซ้ำไป
ผู้ชายในประเทศไม่มีทางล่วงรู้ได้เลยว่าผู้หญิงในประเทศนี้จะนอบน้อมและพยายามเข้าหาผู้ชายที่ร่ำรวยมากขนาดไหน
พวกเขายอมจะเลียแข้งเลียขาคนร่ำรวย แต่ไม่ยอมที่จะไปมีความรักกับผู้ชายธรรมดา
ต่อให้มีแฟนก็เถอะ แต่ยามอยู่กับแฟนแล้วก็คาดหวังว่าอีกฝ่ายจะปฏิบัติต่อตนเองเหมือนเป็นเจ้าหญิง หากว่าอีกฝ่ายทำอะไรให้หล่อนไม่พอใจแม้แต่เพียงนิดเดียว หล่อนพร้อมจะตีตราฝ่ายชายว่าเป็นคนเจ้าชู้
นี่คือเหตุว่าทำไมเย่เฉินถึงต้องทุ่มทุนจำนวนมหาศาล เพื่อดึงผู้หญิงต่างชาติให้เข้ามาทำงานในประเทศ ซึ่งตอนนี้ดูไปแล้วน่าจะเห็นผล
หลังจากหลิ่วอวี่เจ๋อนั่งลงบนเก้าอี้ ฉินเสี่ยวตั่วรีบเดินมาถามเขาอย่างรวดเร็ว “คุณจะดื่มอะไรดีคะ?”
หลิ่วอวี่เจ๋อมองดูฉินเสี่ยวตั่วลอบกล่าวในใจ “หน้าตาดีมากจริงๆ ด้วย บุคลิกดีจริงๆ ไม่เหมือนผู้หญิงธรรมดาทั่วไป มิน่าล่ะพวกข่ายจื่อถึงได้ล้มเหลวกันหมด”
หลิ่วอวี่เจ๋อกล่าวพลางหัวเราะ “กาแฟครับ”
“ค้ะ คุณผู้ชาย กาแฟค่ะ”
ฉินเสี่ยวตั่วส่งกาแฟให้หลิ่วอวี่เจ๋อ แล้วหลิ่วอวี่เจ๋อก็กล่าวขอบคุณหญิงสาว
นี่เป็นครั้งแรกที่ทั้งสองคนเจอหน้ากัน เดิมหลิ่วอวี่เจ๋อสามารถจงใจทำกาแฟหกใส่หล่อนได้ เพื่อจะอาศัยโอกาสนี้ทำความรู้จักกับหล่อน
ทว่าหลิ่วอวี่เจ๋อไม่ได้อยากแสดงละครกากๆ แบบนี้ เขาคิดเอาไว้นานแล้วว่าจะเรียกร้องความสนใจของฉินเสี่ยวตั่วยังไง
บินไปนิวยอร์คต้องใช้เวลาถึง 15 ชั่วโมง เป็นระยะเวลาที่นานมาก ดังนั้นพอถึงตอนกลางคืน หลิ่วอวี่เจ๋อจึงแสร้งทำเป็นนอนหลับ
นอนไปได้ประมาณ 2 ชั่วโมง จู่ๆ หลิ่วอวี่เจ๋อก็ร้องออกมาเสียงดัง!
“พ่อครับ! แม่ครับ!”
พวกแอร์โฮสเตสได้ยินเข้าก็รีบร้อนเดินเข้ามา ทันทีที่เห็นว่าคนที่ละเมอขึ้นมาเป็นหนุ่มหล่อที่สุดในเครื่องบินเฟิร์สคลาส ก็ยิ่งสนใจกว่าเดิม
“คุณผู้ชายๆ เป็นอะไรไปคะ?”
หลิ่วอวี่เจ๋อยังคงปิดตาอยู่เหมือนว่ากำลังฝันร้าย
หลิ่วอวี่เจ๋อแสร้งทำเป็นสะดุ้งตื่นเมื่อได้ยินเสียงเรียกของพวกแอร์โฮสเตส ด้วยท่าทีตื่นกลัว
“คุณผู้ชายฝันร้ายเหรอคะ?” ฉินเสี่ยวตั่วถาม
หลิ่วอวี่เจ๋อหอบหายใจกล่าว “ผมฝันเห็นพ่อกับแม่”
ฉินเสี่ยวตั่วยิ้มอย่างมีมารยาท ทรุดตัวนั่งยองๆ ลงตรงหน้าหลิ่วอวี่เจ๋อแล้วกล่าว
“เดี๋ยวอีกไม่กี่ชั่วโมงพวกเราก็จะถึงนิวยอร์คแล้ว พ่อแม่ของคุณอยู่ที่นิวยอร์คหรือในประเทศล่ะคะ? ถ้าอยู่ที่นิวยอร์คล่ะก็อีกเดี๋ยวคุณก็จะได้ไปเจอพวกท่านแล้วค่ะ แต่ถ้าอยู่ในประเทศล่ะก็คุณลงเครื่องแล้วก็โทรหาพวกท่านก็ได้นะคะ ได้ยินมาว่าตอนนี้นิวยอร์คปลอดภัยมากแล้วล่ะค่ะ พวกท่านจะได้สบายใจ”
หลิ่วอวี่เจ๋อมองฉินเสี่ยวตั่วที่กึ่งนั่งๆ ยองๆ อยู่ตรงหน้าตนเอง เขาชอบมุมนี้เพราะเดี๋ยวอีกไม่กี่ชั่วโมง เขาก็จะสามารถหลอกฉินเสี่ยวตั่วไปที่โรงแรมและจะได้มองหญิงสาวจากมุมนี้ได้!
ในใจเขามีความคิดสกปรกเกิดขึ้นมา ทว่าเขายังคทำท่าทางทุกข์ทนเสียใจ
“พวกเขา…ไม่ได้อยู่นิวยอร์ค และไม่ได้อยู่ในประเทศ พวกเขาไม่ได้อยู่…ที่ไหนสักแห่งบนโลกใบนี้ทั้งนั้นครับ”
หลิ่วอวี่เจ๋อกล่าวอย่างเศร้าสร้อย เพราะเขาบีบน้ำตาจริงๆ ให้ไหลออกมาไม่ได้ พวกเขาจึงทำได้เพียงใช้ฝ่ามือกุมใบหน้าตัวเอง เพื่อให้ดูทุกข์ทรมาน
นี่คือแผนของหลิ่วอวี่เจ๋อ เพราะเขารู้ว่าฉินหงเหยียนเสียพ่อแม่ไปนานแล้ว ดังนั้นเขาถึงได้จงใจทำท่าทีเหมือนว่าตนเองเป็นเหมือนหญิงสาวเพื่อให้อีกฝ่ายเห็นอกเห็นใจ และจะได้เข้าหาหญิงสาวได้ง่ายขึ้น
เมื่อได้ยินคำพูดของชายหนุ่มตรงหน้าแล้ว เหล่าแอร์โฮสเตสก็เม้มริมฝีปาก พวกหล่อนพอจะฟังออกว่าบิดามารดาของชายหนุ่มคนนี้คงจะไม่มีชีวิตอยู่แล้ว
ส่วนฉินเสี่ยวตั่วนั้นอินกับเรื่องนี้อย่างมาก!
เพราะว่าแอร์โฮสเตสคนอื่นๆ นั้นยังมีพ่อแม่อยู่กันครบ มีแค่หล่อนที่ไม่มีทั้งพ่อและแม่แล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?)