ปกติแล้วในเทียนไห่นี้ จินเซียวข่ายแทบไม่หวาดกลัวใคร
คนที่อายุเท่ากันและมีพื้นเพเหมือนกัน ปกติแล้วเป็นเพื่อนของเขาทั้งสิ้น ต่อให้ไม่ใช่เพื่อนก็ต้องรู้จักกันบ้าง
ส่วนเย่เฉินเป็นคนมาจากต่างท้องที่ ไม่อยู่ในสายตาเขาด้วยซ้ำ ดังนั้นเขาถึงได้กล้าด่าอีกฝ่ายโดยไม่หวาดกลัวอะไร!
ทว่าการกระทำนี้ของเขา กลับจุดเพลิงโทสะให้เย่เฉินและหลิวเจิ้งคุน!
เย่เฉินชะงักค้างไป เขาเป็นคนที่เคยต่อสู้กับคนในสงคราม ต่อสู้มานับครั้งไม่ถ้วน ไม่เคยเจอสถานการณ์แบบนี้มาก่อน
ยกตัวอย่างจินเซียวข่ายเอามีดพกออกมา หรือจะเอาอาวุธอื่นๆ มาโจมตีเย่เฉิน งั้นเย่เฉินจะสามารถปลดอาวุธอีกฝ่ายได้ในทันที
แต่ไม่ว่าอย่างไรเขาก็คิดไม่ถึงว่าจินเซียวข่ายจะถ่มน้ำลายใส่เขา
เรื่องขยะแขยงแบบนี้ เรื่องที่น่าละอายแบบนี้ เป็นครั้งแรกในชีวิตที่เขาได้ประสบพบเจอ
“คิดไม่ถึง…ว่านายจะกล้าถ่มน้ำลายใส่ฉัน?” เย่เฉินยกมือขวาเช็ดหน้าลวกๆ
แต่ในเวลานั้นหลิวเจิ้งคุนโกรธจนกัดฟันกรอดมานานแล้ว ทั่วร่างสั่นเทิ้ม!
เขารีบพุ่งพรวดใส่จินเซียวข่าย แล้วตะโกนอย่างหัวเสีย “เด็กเปรตแกเบื่อชีวิตแล้วล่ะสิ! กล้าถ่มน้ำลายใส่คุณชายเย่! ฉันจะเอาแกให้ตายเลย!”
หลิวเจิ้งคุนพูดไปพลาง ต้องการจะพุ่งไปต่อยจินเซียวข่าย ทว่าเย่เฉินยื่นมือออกมาแล้วขวางอีกฝ่ายเอาไว้
“คุณชายเย่…”
หลิวเจิ้งคุนงุนงง ในฐานะที่เป็นลูกน้องของเย่เฉิน เขาทนมองเจ้านายของตัวเองต้องโดนดูถูกแบบนี้ไม่ได้!!
หลิวเจิ้งคุนทรุดตัวลงคุกเข่าต่อหน้าเย่เฉินทันที “ขอให้คุณชายเย่อนุญาตให้ผมฆ่าไอ้หนุ่มที่ไม่ได้รู้เรื่องรู้ราวอะไรคนนี้ที! ต่อให้ผมจะเหยียบเท้าเข้าเทียนไห่ไม่ได้ตลอดชีวิต โดนไล่ตามฆ่าตลอดชีวิต ผมเองก็ไม่เสียดายแล้วครับ!”
คำพูดนี้ของหลิงเจิ้งคุนทำให้จินเซียวข่ายเกิดหวาดกลัวขึ้นมา
ในความเป็นจริงแล้วแค่เขาดูก็รู้ว่าหลิวเจิ้งคุนไม่ใช่คนดีอะไร ถ้าเปรียบเทียบกับเย่เฉินที่อายุพอกันและหน้าตาหล่อเหลาแล้ว เขาหวาดกลัวหลิวเจิ้งคุนมากกว่า
เย่เฉินรู้ว่าหลิวเจิ้งคุนกำลังแสดงความภักดีต่อคนเอง ทว่าเย่เฉินมีแผนแล้ว
“ถ่มน้ำลายใส่ผมเหรอ?” เย่เฉินถามพลางมองไปที่จินเซียวข่ายอีกครั้ง
จินเซียวข่ายมองหลิวเจิ้งคุนอย่างหวาดกลัว จากนั้นถาม “ถ่มน้ำลายไปแล้วไง ทำไมล่ะ?”
“ดีมากนี่”
คิดไม่ถึงว่าเย่เฉินจะไม่โกรธ แต่กลับล้วงเอาทิชชู่หนึ่งแผ่นออกมาจากกระเป๋ากางเกง แล้วเช็ดน้ำลายจนสะอาด
หลังจากนั้นก็กล่าวกับหลิวเจิ้งคุนที่คุกเข่าบนพื้น “เรียกลูกน้องทั้งเทียนไห่ของนายมา ทั้งหมดทุกคน”
“คุณชายเย่…”
หลิวเจิ้งคุนเกิดความสงสัยขึ้นในใจ ไม่รู้ว่าเย่เฉินตั้งใจจะทำอะไร
ถ้าหากว่าเย่เฉินต้องการจะรับมือกับจินเซียวข่าย เย่เฉินแค่คนเดียวหรือหลิวเจิ้งคุนแค่คนเดียวก็พอแล้ว ไม่จำเป็นต้องเรียกคนมาสักหน่อย
ทันใดนั้นเองในหัวหลิวเจิ้งคุนก็มีภาพของละครที่ดูช่วงนี้โผล่ขึ้นมา
“เทพแห่งสงครามกลับมาแล้วเห็นลูกสาวอยู่ในรูหนู ก็สั่งให้ทหารแสนคน สร้างรูหนูแสนอัน”
ถึงแม้ว่าบทละครนี้จะออกจะเวอร์ไปหน่อย แต่ก็มากพอจะทำให้เห็นความเอาแต่ใจของคนที่เป็นคนใหญ่คนโต!
หลิวเจิ้งคุนเข้าใจแล้วว่าเย่เฉินทำอะไร!
“ครับ!” หลิวเจิ้งคุนผุดลุกขึ้นทันที แล้วกดโทรศัพท์โทรหาลูกน้อง
“ชิ”
เย่เฉินมองอย่างดูแคลน ในเมื่อเข้าตัดสินใจจะเรียกลูกน้องมาจัดการจินเซียวข่ายแล้ว เช่นนั้นแล้วเขาจะต้องทำให้ลูกน้องของเขาจะเข้ามาในฟิตเนสแห่งนี้ให้ได้
ไม่มีใครจะขวางเขาได้!
เย่เฉินรีบกดโทรหาพ่อบ้านฟางทันที
“ฮัลโหล ผมอยู่ที่ฟิตเนส CGYM ซื้อฟิตเนสแห่งนี้ให้ผมที”
เย่เฉินแค่นเสียง
เพราะว่าเย่เฉินโทรศัพท์ต่อหน้าจินเซียวข่ายและหม่าหนาน ดังนั้นพวกเขาสองคนจึงได้ยินบทสนทนาระหว่างเยาเฉินและคนปลายสาย
หลังจากได้ยินแล้วทั้งสองคนก็ระเบิดเสียงหัวเราะออกมา
“ฮ่าๆ จะซื้อฟิตเนส CGYM เหรอ? ไอ้หนุ่มนายโม้อะไรของนายเนี่ย? นายรู้ไหมว่าจะซื้อฟิตเนสแห่งนี้ได้ต้องใช้เงินเท่าไหร่? ที่นี่คือฟิตเนสที่ดีที่สุดของเทียนไห่เชียวนา!”
จินเซียวข่ายดูถูกเย่เฉิน
หม่าหนานเองก็หัวเราะคิกคัก “น่าขำจริงๆ ไอ้คนจนๆ ในเมืองชั้นสาม คิดไม่ถึงว่าจะกล้าอวดรวยต่อหน้าพวกเราสองคน กล้าจริงๆ! อย่าว่าแต่นายไม่มีเงินเลย ต่อให้นายมีเงินมากขนาดนี้เถ้าแก่หลี่ก็ไม่ขายฟิตเนสให้นายหรอก!”
จินเซียวข่ายพูดต่อ “ถูกต้อง เถ้าแก่หลี่เขาเป็นใคร? เดิมทีที่เขาเปิดฟิตเนสก็เพราะเป็นงานอดิเรก เงินกะอีแค่ไม่กี่ล้าน เขาไม่อยากได้หรอก ทำไมต้องขายให้นายด้วย! วันนี้ถ้านายซื้อฟิตเนสแห่งนี้ได้ ฉันจะหกสูงปลดทุกข์เลย!”
จากนั้นก็ได้เย่เฉินกล่าวกับปลายสายว่า “อะไรนะ? ไม่ต้องซื้อเหรอ? ก็ได้”
“ฮ่าๆ…”
เมื่อได้ยินคำพูดนี้เย่เฉินแล้ว จินเซียวหม่าก็ระเบิดเสียงหัวเราะออกมาทันที
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?)