เพิ่งจะขึ้นรถไป เย่เฉินก็เลยถาม “ไม่ได้ลงมือรุนแรงเกินไปใช่ไหม?”
หลิวเจิ้งคุนกล่าว “ไม่เลยครับ บอดี้การ์ดของเจ้าของร้านกาแฟคนนี้เก่งมากทีเดียว ถ้าไม่ใช่เพราะคนที่ผมพามาด้วยวันนี้เป็นพวกต่อยตีเก่งมากๆ ล่ะก็เกรงว่าไม่น่าจะจัดการพวกเขาได้ในระยะเวลาสั้นๆ”
“อ้อ?” เย่เฉินคิดไม่ถึงว่าความสามารถของบอดี้การ์ดของหญิงสาวจะใช้ได้
ตอนนี้คนรวยๆ ต่างก็จะมีบอดี้การ์ดส่วนตัวกันทั้งนั้น แต่ว่าความสามารถของพวกเขาก็ย่ำแย่อย่างมาก
พวกนักเลงที่มีฝืไม้ลายมืออย่างลูกน้องของหลิวเจิ้งคุนนั้นใช้เงินซื้อไม่ได้
หลิวเจิ้งคุนจึงถามต่อ “คุณชายเย่ชอบเจ้าของร้านกาแฟเหรอครับ?”
เย่เฉินส่ายหน้า “แค่ประหลาดใจเท่านั้นแหละ อยากจะลองทดสอบหล่อนดูหน่อย ฉันรู้สึกว่าหล่อนไม่ได้ใสซื่อเหมือนที่เราเห็น”
เมื่อครู่เย่เฉินแสร้งจะหอมแก้มหล่อน ถึงแม้ว่าหล่อนจะหอบหายใจถี่กระชั้น แต่แววตากลับไร้ความหวาดกลัว หญิงสาวจ้องเขาเขม็งไม่ได้มีทีท่าจะหลบตาเขาแม้แต่น้อยด้วยซ้ำ
เย่เฉินเคยอ่านหนังสือ ‘อี้จิง’จนชำนาญแถมยังเคยเรียนโหงวเฮ้งด้วย เขาย่อมสังเกตเห็นว่าผู้หญิงคนนี้ไม่ธรรมดา!
“อาคุน ตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไปให้ส่งคนมาคอยสอดส่องดูร้านกาแฟแห่งนี้นะ ดูว่าผู้หญิงคนนี้ทำอะไร เจอใครบ้าง”
เย่เฉินสั่ง
“ครับ!”
ทว่าวันที่สองหลิวเจิ้งคุนกลับโทรหาเย่เฉิน “คุณชายเย่ วันนี้ผู้หญิงคนนั้นไม่มา ร้านกาแฟก็ปิดไปแล้ว ที่ประตูแขวนป้ายเซ้งเอาไว้”
เย่เฉินสบถด่าในใจ หรือเพราะเรื่องที่เย่เฉินทำเมื่อวานหล่อนถึงได้ปิดร้านไป?
ทว่าผู้หญิงคนนี้ก็ไม่ได้เป็นอะไรกับเย่เฉิน ตอนนี้เย่เฉินก็มีฉินหงเหยียนแล้วไม่อยากจะตามจีบหญิงสาวอีก เลยไม่ได้คิดเรื่องหล่อนอีก
บางทีเย่เฉินและหล่อนก็เป็นเหมือนคนจำนวนมากมายคนอื่นๆ ที่เพียงแค่เดินผ่านกันไป ไม่ได้มีโอกาสจะจะพบหน้ากันอีก
……
หนึ่งเดือนต่อมา
ณ ร้านคาราโอเกะฮัวตู ในเมืองเทียนไห่
“คุณเหอ ฮ่าๆ รีบเข้ามานั่ง รีบมาๆ!”
ในห้อง VIP ของร้าน หลิ่วอวี่เจ๋อและหม่าหนานลุกขึ้นมาต้อนรับการมาถึงของเหอเหวินเจี้ยน
เหอเหวินเจี้ยนยังคงใส่สูทผูกเนคไทเหมือนเดิม แต่ดูกระปรี้กระเปร่ามากกว่าเดือนก่อนไม่น้อย
เหอหเวินเจี้ยนเรียกให้เหอเหวินเจี้ยนกล่าวพลางระบายยิ้ม “คุณเหอ บริษัทไป๋ลี่ของคุณได้ยาดีอะไรมาใช่ไหม? ทำไมราคาถึงพุ่งพรวดๆ? บริษัทเอ็กซ์เพรสชุนเฟิงของพวกเราใกล้จะตามไม่ทันแล้ว!”
เหอเหวินเจี้ยนนั่งลงพลางระบายยิ้ม แล้วผู้หญิงหน้าตาใช้ได้คนหนึ่งก็จุดบุหรี่ให้เหอเหวินเจี้ยนทันที
เหอเหวิ้นเจี้ยนกล่าวพลางระบายยิ้ม “คุณอัยเกาะคุณฉิน จากการบริหารจัดการของผู้หญิงทำงานทั้งสองคนนี้ ทำให้ไป๋ลี่ของพวกเราประสบความสำเร็จได้แบบในวันนี้!”
“ฮ่าๆ อวี่เจ๋อ พวกเราก็นับเป็นเพื่อนสนิทกันแล้ว ผมขอพูดตรงๆ แล้วกัน หลายปีมานี้ของผมเอาแต่ตั้งตารอว่าวันไหนที่ไป๋ลี่ของผมจะนำหน้าชุนเฟิงของคุณ คิดไม่ถึงว่าเวลาที่ผมเฝ้ารอจะมาถึงเร็วขนาดนี้!”
หลิ่วอวี่เจ๋อโกรธจนกัดฟันกรอด แล้วลอบด่าว่าหมอนี่ในใจว่าสารเลวจริงๆ
หม่าหนานที่อยู่ข้างๆ ตัวก็เอาแต่ดื่มเหล้า
ตั้งแต่โดนซ้อมที่ฟิตเนสเมื่อครั้งก่อน เขาและจินเซียวข่ายก็ไปฟ้องหลิ่วอวี่เจ๋อ
หม่าหนานและจินเซียวข่ายคุกข่าขอโทษเย่เฉินไปแล้วตอนที่อยู่ในฟิตเนส
แต่ว่าหลังจากที่ออกจากฟิตเนสแล้ว เขาก็เริ่มคิดว่าจะล้างอายครั้งนี้ดีหรือไม่!
ดังนั้นพวกเขาจึงไปถามหลิ่วอวี่เจ๋อถึงพื้นเพครอบครัวของเย่เฉิน
เมื่อหลิ่วอวี่เจ๋อบอกพวกเขาว่าฉินเสี่ยวตั่วเป็นว่าที่น้องสะใภ้ของสวี่ฉู่หมิง ผู้เป็นพี่น้องร่วมสาบานกับคุณปู่ของเขา
เรื่องนี้ถ้าสวี่ฉู่หมิงรู้เข้า พวกเขาต้องซวยแน่ๆ
หลิ่วอวี่เจ๋อเดาว่าที่เย่เฉินกล้าทำร้ายเพื่อนของเขาแบบนี้ ต้องเป็นเพราะฉินหงเหยียนสั่งแน่นอน
และเพราะเรื่องนี้มีส่วนเกี่ยวข้องกับสวี่ฉู่หมิง พวกเขาจึงไม่อยากให้เป็นเรื่องราวใหญ่โต
หลิ่วอวี่เจ๋อกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ถึงแม้ว่าคุณเหอจะ Lucky in game แต่ไม่ได้ Lucky in love นี่ครับ ผมได้ยินมาว่าคุณฉินหงเหยียนน่ะ ปฏิบัติตัวกับคุณเหมือนคุณเป็นแค่ผู้ใต้บังคับบัญชาจริงๆ เลยนี่นา จิ๊ๆ ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปล่ะก็ คุณไม่มีทางได้หล่อนมาครอบครองแน่นอน ผู้หญิงคนไหนจะมาชอบลูกน้องของตัวเองกันจริงไหม?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?)