เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?) นิยาย บท 242

สรุปบท ตอนที่ 242 ให้เป็นลูกเขยตระกูลหวังอีกครั้งเนี่ยนะ?: เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?)

ตอน ตอนที่ 242 ให้เป็นลูกเขยตระกูลหวังอีกครั้งเนี่ยนะ? จาก เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?) – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

ตอนที่ 242 ให้เป็นลูกเขยตระกูลหวังอีกครั้งเนี่ยนะ? คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายAction เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?) ที่เขียนโดย Internet เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

ตอนที่ 242 ให้เป็นลูกเขยตระกูลหวังอีกครั้งเนี่ยนะ?
บริษัทเอ็กซ์เพรสชุนเฟิงได้จัดงานแถลงข่าวในตอนบ่าย

หลิ่วหย่วนหางมาที่งานแถลงข่าวด้วยตัวเอง เพื่อขอโทษสาธารณะชนและฉินหงเหยียน อีกทั้งยังประกาศกับทุกคนว่าถึงแม้หลิ่วอวี่เจ๋อจะเป็นหลานชายเขาแต่ไม่ได้มีตำแหน่งในบริษัทเอ็กซ์เพรสชุนเฟิงแต่อย่างใด

เรื่องนี้เองไม่ได้เกี่ยวข้องกับการแข่งขันทางธุรกิจระหว่างไป๋ลี่และชุนเฟิงแม้แต่น้อย หวังว่าทางสื่อและคนอื่นๆ จะไม่คาดเดากันไปเรื่อยเปื่อย

ทว่าการชี้แจงของหลิ่วหย่วนหางก็ไม่ได้มีประโยชน์อะไร

ในระยะเวลาหนึ่งเดือนต่อมา ราคาหุ้นของบริษัทเอ็กซ์เพรสชุนเฟิงร่วงระเนระนาด จนท้ายที่สุดแล้วมูลค่าตลาดเหลือแค่ห้าหมื่นล้าน

จากลูกพี่ในสายงานขนส่งในประเทศกลายเป็นแค่ธุรกิจที่มีมูลค่าเหลือเพียงแค่ครึ่งเดียวของไป๋ลี่ที่เป็นบริษัทขนาดรองลงมา

วันที่ 25 เดือนธันวาคม เป็นวันคริสมาสต์อันเป็นเทศกาลที่มีชื่อเสียงโด่งดังของทางยุโรป และเริ่มเป็นที่นิยมของในประเทศเช่นกัน

หลิ่วอวี่เจ๋อซื้อของขวัญให้หวังเจียเหยา ทว่าภรรยากลับไม่สนใจเรื่องของขวัญแต่อย่างใด

หวังเจียเหยาถาม “อวี่เจ๋อ ทำไมราคาหุ้นของบริษัทร่วงจนไม่ยอมขึ้นเลยล่ะ? ปู่ของนายเก่งมากไม่ใช่หรือไง? ทำไมถึงไม่มีวิธีแก้ไขอะไรเลยล่ะ? ตอนนี้ชุนเฟิงก็กลายเป็นบริษัทขนส่งขนาดรองแล้ว เพื่อนฉันน่ะไม่ใช้ชุนเฟิงส่งของกันแล้ว”

หวังเจียเหยาสนใจสถานการณ์ของบริษัทตระกูลหลิ่วมากกว่าของขวัญชิ้นน้อยๆ นี่อย่างเห็นได้ชัด

หลิ่วอวี่เจ๋อโทรมกว่าเมื่อหลายเดือนก่อนมาก ใบหน้าเขาเต็มไปด้วยไรหนวดเครา เห็นได้ชัดว่าไม่ได้จัดการมาหลายวัน

“สบายใจเถอะ เจียเหยาปีหน้าชุนเฟิงเราต้องกลับมาผงาดแน่ ตอนนี้ปู่ของผมกำลังจัดการพวกผู้บริหารใหม่อยู่ อีกทั้งยังได้ตกลงร่วมมือกับบริษัทต่างๆ เป็นจำนวนมาก ราคาหุ้นในปีหน้าจะต้องเด้งกลับมามีราคาเท่าเดิมแน่”

หลิ่วอวี่เจ๋อรับรองกับภรรยา

“หวังว่าจะเป็นอย่างนั้นนะ”

หวังเจียเหยากล่าวอย่างไม่สบอารมณ์

ท่าทีของหญิงสาวที่มีต่อหลิ่วอวี่เจ๋อนั้นนับวันแย่ลงไปทุกทีตามการตกอับของตระกูลหลิ่ว

ตอนนี้ตระกูลหลิ่วมีมูลค่าทรัพย์สินเหลือเพียงห้าหมื่นล้าน ตระกูลหลิ่วมีลูกชายสองคน ถ้าหารๆ กันแล้ว หลิ่วอวี่เจ๋อจะได้เงินมาแค่สองหมื่นล้านเท่านั้น

แต่จากการขยายตัวของธุรกิจในครึ่งปีนี้ของตระกูลหวัง ทำให้ทรัพย์สินของตระกูลหวังของเจ้าหล่อนเกือบจะไปแตะสองหมื่นล้านแล้ว!

พอเปรียบเทียบกันแบบนี้ ตระกูลหวังของหล่อนก็สูสีกับตระกูลหลิ่วอยู่เหมือนกัน แล้วหวังเจียเหยาจะต้องอาลัยอาวรณ์หลิ่วอวี่เจ๋อไปทำไม?

“เอ่อ เจียเหยา เทศกาลคริสมาสต์ปีนี้ พวกเสี่ยวหม่าเขาจะจัดงานเลี้ยง ผมมีเรื่องจะคุยกับพวกเขาพอดี วันนี้ผมไม่กลับบ้านนะครับ”

หลิ่วอวี่เจ๋อสวมเสื้อโค้ทเตรียมตัวจะออกบ้าน

หวังเจียเหยาขมวดคิ้วแล้วกล่าวอย่างไม่พอใจ “วันคริสมาสต์นายยังไม่อยู่บ้านเป็นเพื่อนฉัน! ฉันตั้งท้องมาตั้งนาน นายดูแลฉันกี่ครั้งเชียว? ผัวแบบนายนี่ใช้ได้ที่ไหนกัน?”

หลิ่วอวี่เจ๋อคิดในใจว่าเด็กในท้องไม่ใช่ของฉันสักหน่อน ทำไมฉันต้องมาคอยดูแลคุณที่นี่ด้วย ไปหาเย่เฉินให้มาดูแลสิ!

ทว่าทั้งหมดนี้เป็นเพียงความคิดเท่านั้น หลิ่วอวี่เจ๋อกล่าวอย่างอ่อนโยน “แม่คุณก็อยู่ด้วยไม่ใช่เหรอครับ มีแม่คอยดูแลคุณ ผมเองก็สบายใจ”

ซูหลานมารดาของหวังเจียเหยา ย้ายมาพำนักที่นี่เป็นระยะเวลานานแล้วเพื่อดูแลลูกสาวที่กำลังตั้งครรภ์

หวังเจียเหยาพึมพำ “แม่ของฉัน แม่ของฉัน ไม่เห็นว่าแม่นายจะมาดูแลฉันบ้าง”

หลิ่วอวี่เจ๋อหัวเราะ “เอ่อ ผมไปก่อนนะครับ สุขสันต์วันคริสมาสต์ครับผม”

เพิ่งจะพ้นประตูไป หลิ่วอวี่เจ๋อก็พึมพำเช่นกัน “ให้แม่ฉันมาดูแลมารหัวขนในท้องเธอกับเย่เฉินเนี่ยนะ! หวังเจียเหยาเธอไม่คู่ควร”

หวังเจียเหยาเพิ่งเดินออกจากบ้าน ซูหลานมารดาของหญิงสาวก็เดินลงมาด้านล่าง เมื่อเห็นลูกสาวสีหน้าไม่สดใสก็เอ่ยถาม

“เป็นอะไรไปจ้ะลูกรัก ทะเลาะกับหลิ่วอวี่เจ๋ออีกแล้วเหรอ? อย่าเอาแต่ทะเลาะกับเขาสิ ยอมๆ เขาหน่อย”

ถ้าหากว่าไม่มีเรื่องเมื่อครึ่งปีก่อนเกิดขึ้น ถ้าหากว่าเย่เฉินโผล่หน้ามาดูแลลูกโดยพลการ เกรงว่าเขาคงจะโดนหวังเจียเหยาไล่ตะเพิดออกมาล่ะมั้ง?

พูดว่าเย่เฉินไม่รับผิดชอบงั้นเหรอ?

ที่นี่คือบ้านของหลิ่วอวี่เจ๋อ ถ้าเย่เฉินมาโดยไม่ถามเจ้าบ้านก่อน จะไม่เท่ากับว่าเขาสวมเขาให้หลิ่วอวี่เจ๋อเหรอ?

เย่เฉินไม่อยากเถียงกับหวังเจียเหยา “ได้ ผมขอไปบอกฉินหงเหยียนเดี๋ยวเดียว คุณรอผมสักเดี๋ยวแล้วกัน”

ในเวลานี้จู่ๆ ซูหลานก็เปิดปากเอ่ยขึ้นมา “ขยะจริงๆ ก่อนนี้ก็เป็นเขยที่แต่งเข้าไม่มีเกียรติอะไรตลอดสามปีของพวกเรา ตอนนี้ก็เกาะผู้หญิงที่รวยๆ ทำอะไรก็ต้องขออนุญาตแม่นั่นก่อน”

“เย่เฉิน นายจะเป็นผู้เป็นคนกับเขาหน่อยบ้างจะได้ไหม? กะจะเกาะผู้หญิงกินไปตลอดชีวิตหรือไง?”

เย่เฉินหัวเสีย “ซูหลาน! คุณฟังให้ดีๆ นะ! ผมจะกลับไปบอกฉินหงเหยียน นั่นคือการให้เกียรติต่อคนรัก ไม่ใช่ขออนุญาต ตระกูลหวังของพวกคุณเลี้ยงผมมาสามปีก็จริงแต่ผมก็ชดใช้ไปหมดแล้ว! ถ้าผมไม่ได้ช่วยพวกคุณเอาไว้ ตระกูลหวังของคุณจะเจริญรุ่งเรืองได้แบบวันนี้เหรอ?”

ซูหลานได้ยินคำว่าความรุ่งเรืองของตระกูลหวังก็รู้สึกภูมิใจอย่างมาก ก็จริงตอนนี้ตระกูลหวังรุ่งเรืองจนถึงขีดสุดแล้วจริงๆ!

ตอนแรกนั้นพวกเขาได้ความช่วยเหลือจากเย่เฉินจึงได้เซ็นสัญญาไปไม่น้อย

ต่อมาหลังจากตระกูลหวังและตระกูลหลิ่วเป็นทองแผ่นเดียวกัน ก็ได้รับความช่วยเหลือจากตระกูลหลิ่ว ช่วยเอื้อให้ธุรกิจของพวกเขาขยายใหญ่ขึ้น

จำเป็นต้องพูดว่าคุณนายหวังเป็นผู้หญิงที่ฉลาดหลักแหลม และเก่งกาจ!

หวังเจียเหยากล่าวด้วยรอยยิ้ม “เอาเถอะ แม่คะจะพูดเรื่องที่ผ่านมาทำไม? ตอนนี้พวกเรามีเงิน มีเขยแต่งเข้าสักคนจะเป็นอะไรไปคะ?”

“เย่เฉินได้ยินมาว่าน้องสาวของฉันหวังหยวนหยวน ยังชอบนายไม่ใช่เหรอ ในอนาคตถ้ามีวันไหนฉินหงเหยียนไม่อยากอยู่กับนายแล้ว นายอยากจะแต่งเข้าตระกูลหวังเราอีกรอบไหม เป็นเขยแต่งเข้าของบ้านเราอีกครั้งดีไหม?”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?)