อย่างไรเสียตระกูลหวังที่เคยเป็นตระกูลชั้นรองที่มีทรัพย์สินเพียงไม่กี่พันล้าน ได้กระโดดขึ้นเป็นเตระกูลที่มีทรัพย์สินเกือบสองหมื่นล้านทั้งหมดเป็นความดีความชอบของหวังเจียเหยา
ในชีวิตแต่งงานทั้งสองครั้งของหญิงสาว เจ้าหล่อนแต่งงานกับเศรษฐีอย่างเย่เฉินและหลิ่วอวี่เจ๋อ ทำให้ตระกูลหวังได้ดีมาจนถึงทุกวันนี้
คุณนานยหวังถึงได้ให้ความสำคัญกับหวังเจียเหยามากกว่าหวังหยวนหยวน
หวังเจียเหยาเองยังคงโกรธเรื่องที่เย่เฉินนอกใจไปหาหวังหยวนหยวนอย่างเห็นได้ชัด ดังนั้นถึงได้จงใจพูดถึงหวังหยวนหยวน เพื่อดูถูกเย่เฉิน บอกให้เย่เฉินแต่งเข้าตระกูลของหล่อน
แม่ลูกคู่นี้ทำให้เย่เฉินหงุดหงิดรำคาญใจ ทว่าเย่เฉินแต่งงานกับหญิงสาวมาสามปี เขารู้ดีว่าควรจะต้องตอบอีกฝ่ายอย่างไร ถึงจะจี้ใจดำอีกฝ่ายได้
เย่เฉินกล่าวด้วยรอยยิ้ม “จริงเหรอ? น้องหยวนหยวนยังชอบผมอยู่เหรอ? หยวนหยวนหุ่นดีขนาดนี้ ถ้าวันไหนหงเหยียนไม่อยากได้ผมเป็นแฟนแล้ว ผมต้องยินดีจะแต่งกับหวังหยวนหยวนอยู่แล้ว!”
ทันทีที่ได้ยินว่าเย่เฉินชมหวังหยวนหยวนหุ่นดี ทันใดนั้นเองหวังเจียเหยาก็หน้าแดงก่ำด้วยโทสะทันที!
สองศรีพี่น้องมักจะชิงดีชิงเด่นกัน จุดที่หล่อนพ่ายแพ้น้องสาวมาตลอดก็คือเรือนร่าง!
ก่อนหน้านี้หล่อนสู้หวังหยวนหยวนไม่ได้ ตอนนี้หล่อนท้องโตโย้เย้ เรื่องหุ่นดีไม่น่าจะต้องพูดถึงอีก และพ่ายแพ้หวังหยวนหยวนมากกว่าเดิม
ดังนั้นหล่อนถึงได้รู้สึกริษยาและอับอาย!
หล่อนรู้สึกว่าเย่เฉินสวมเขาให้ตนเองเพียงเพราะหวังหยวนหยวนหุ่นดี!
หวังเจียเหยากล่าวอย่างหัวเสีย “นายกล้าคบกับหวังหยวนหยวนนายก็ลองดู ฉันจะบอกให้คุณย่าไล่หล่อนออกจากตระกูลเราไปเลย!”
เมื่อวินาทีก่อนหน้านี้ หวังเจียเหยายังเป็นฝ่ายเสนอให้หวังหยวนหยวนและเย่เฉินคบหากัน แต่พอเขารับปากจริงๆ หญิงสาวกลับหงุดหงิดเสียอย่างนั้น
ส่วนซูหลานงุนงงไปหมด “คืออะไรกันเนี่ย? เย่เฉินทำไมถึงคบกับหวังหยวนหยวนได้? เย่เฉิน คิดอะไรกับหวังหยวนหยวนนนานแล้วเหรอ? แกนี่มันไอ้สารเลว เป็นพญาเทครัวหรือไง เจียเหยาของเราออกจะสมบูรณ์แบบขนาดนี้ แกยังจะแอบมีใจให้น้องสะใภ้ตัวเองอีกเหรอนเนี่ย?”
เรื่องที่สองคนนั้นนอนด้วยกันก่อนหน้านี้ หวังเจียเหยาไม่ได้ฟ้องกับที่บ้าน ดังนั้นซูหลานจึงไม่รู้เรื่องนี้
เย่เฉินแค่นเสียง “น้องสะใภ้ผมชื่อฉินเสี่ยวตั่ว สวยกว่าลูกสาวคุณกับหวังหยวนหยวนรวมกันเสียอีก! ผมกลับบ้านก่อน พวกคุณก็เตรียมตัวแล้วกัน!”
พูดจบเย่เฉินก็ผลักประตูออกจากบ้านไป
“ฉินเสี่ยวตั่วเป็นใครอีกเนี่ย!”
หวังเจียเหยาก็เริ่มริษยา หล่อนเพิ่งจะรู้เดี๋ยวนี้เองว่าฉินหงเหยียนมีน้องสาว หนำซ้ำเท่าที่ฟังจากคำพูดของเย่เฉิน ก็จะพบว่าแม่สาวน้อยคนนี้หน้าตาสะสวยอย่างยิ่งด้วย!
“มิน่าเย่เฉินถึงได้เกาะฉินหงเหยียนไม่ยอมเลิกรา เพราะนอกจากแฟนที่สวยแล้ว น้องแฟนก็สวยด้วย นายคงหลงระเริงเชียวล่ะสิ!”
พอกลับไปถึงวิลล่าของตัวเอง เย่เฉินก็บอกเรื่องนี้กับแฟนสาว
“หงเหยียน ถ้าคุณไม่อยากให้ผมไป ผมจะปฏิเสธหล่อน” เย่เฉินกล่าว
เพราะคนตรงหน้าต่างหากถึงจะเป็นแฟนสาวของเขา เขาจำเป็นต้องคิดถึงความรู้สึกของฉินหงเหยียน
ถ้าหากว่าฉินหงเหยียนไม่ชอบให้เย่เฉินอยู่กับหวังเจียเหยา งั้นแล้วเขาก็จะไม่ไปส่งหวังเจียเหยาไปโรงพยาบาล
แต่ฉินหงเหยียนเป็นคนใจกว้าง “หลิ่วอวี่เจ๋อไม่ใช่ผู้ชายที่ดีอะไร บวกกับที่เด็กในท้องก็ไม่ใช่ลูกเขา เขาไม่มีทางเป็นห่วงเป็นใยหวังเจียเหยาแน่นอน ผู้หญิงต้องอุ้มท้องตั้ง 10 เดือน ในฐานะที่คุณเป็นพ่อก็ควรจะต้องช่วยหล่อนอย่างสุดความสามารถ คุณไปส่งหล่อนไปโรงพยาบาลเถอะ ฉันเองก็มีงานต้องทำพอดี”
เย่เฉินพยักหน้า
จากนั้นเย่เฉินก็ขับรถออดี้ของหวังเจียเหยาส่งหญิงสาวไปโรงพยาบาล โดยมีซูหลานตามไปด้วย
หวังเจียเหยานั่งตรงที่นั่งข้างคนขับรถ ส่วนซูหลานนั่งด้านหลัง
หวังเจียเหยาเพิ่งขึ้นรถ เพลงเพิ่งจะเริ่มขึ้น หวังเจียเหยาก็ระบายยิ้ม “ไม่ได้สัมผัสความรู้สึกแบบนี้มานานมากแล้ว ที่นายขับรถพาฉันกับแม่ไปนั่นไปนี่ คิกๆ”
เย่เฉินเคยขับรถออดี้คันนี้มาแล้วสามปี สามปีที่ผ่านมาเขาเป็นคนขันรถรับส่งหวังเจียเหยาและบิดามารดาของหล่อนไปไหนมาไหนอยู่เสมอ
เขาจึงคุ้นเคยกับรถคันนี้อย่างมาก
เย่เฉินเองก็กระอ่วนกระอ่วนใจไม่น้อย เพราะเขาไม่คาดคิดเลยว่าตนเองที่เลิกรากับหวังเจียเหยาไปแล้วจะยังมีโอกาสได้ขับรถคันนี้อีก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?)