หวังจื้อเฉียงรีบโทรหาหวังเจียเหยา แต่ว่าคนรับสายกลับเป็นซูหลาน
“อ้อ ซูหลานเองเหรอเนี่ย แม่อยากคุยกับเจียเหยาน่ะ เอาโทรศัพท์ให้เจียเหยาที”
ตอนนี้ตระกูลหวังกำลังสูญเสียคู่ค้าไปเป็นจำนวนมากเพราะหวังเจียเหยา ธุรกิจน่าจะเสียหายอย่างน้อยๆ หลายร้อยล้าน หวังเจียเหยาจึงได้เริ่มวางก้ามกับครอบครัวน้องชายขึ้นมา
ซูหลานกล่าว “พี่คะฉันกับเจียเหยาอยู่ที่โรงพยาบาล หวังเจียเหยาเป็นลมกำลังให้น้ำเกลืออยู่ ถ้าไม่มีอะไรสำคัญเดี๋ยวค่อยคุยได้ไหมคะ?”
หวังจื้อเฉียงตะคอก “ไม่มีเรื่องสำคัญอะไรงั้นเหรอ? ตระกูลหวังของเราจะล่มจมเพราะลูกสาวเธออยู่แล้ว! ยังมีหน้ามาบอกว่าหล่อนเป็นลมอีก คนที่เป็นลมน่าจะเป็นเย่เฉินมากกว่าล่ะมั้ง? ลูกสาวเธอทำอะไรเอาไว้น่าจะรู้ดีที่สุด เย่เฉินต่างหากที่คงจะเสียใจจากกระทำของลูกสาวเธอ! เลิกพูดเหลวไหล รีบส่งโทรศัพท์ให้หวังเจียเหยาได้แล้ว!”
ตอนนี้ซูหลานและหวังเจียเหยากำลังอยู่ในห้องพักฟื้น ไม่ได้กำลังหยอดน้ำเกลือเสียหน่อย
เมื่อครู่ที่เป็นลมหญิงสาวก็แค่แกล้งทำเท่านั้น นั่นเพราะหล่อนไม่สามารถจะอธิบายเรื่องนี้ให้เย่เฉินฟังได้เมื่อตกอยู่ในเหตุการณ์เช่นนั้น
“ฮัลโหล” แล้วเสียงของหวังเจียเหยาก็ดังขึ้นที่ปลายสาย
หวังจื้อเฉียงรีบร้อนส่งโทรศัพท์ให้คุณนายหวัง
คุณนายหวังรับโทรศัพท์แล้วดุด่า “หวังเจียเหยา! ในหัวแกมีอะไรอยู่บ้างน่ะ! ถ้าแกบอกว่าแกไปนอนกับฟางเชาตอนที่ไม่รู้ว่าเย่เฉินเป็นใครก็ไม่เป็นไรหรอกนะ! แต่ตอนที่อยากมีลูกกันน่ะ รู้ทั้งรู้ว่าเย่เฉินเป็นใคร ทำไมยังเลอะเลือนทำเรื่องโง่ๆ ได้!”
หวังเจียเหยากล่าวอย่างเสียใจ “ขอโทษด้วยนะคะคุณย่า…”
“ขอโทษเหรอ? แกรู้ไหมว่าแกทำเย่เฉินโกรธเข้า ตอนนี้เขาเลยหาเรื่องตระกูลเรา! บริษัทพาร์ทเนอร์ทุกแห่งของเรายกเลิกสัญญากันหมดแล้ว เราใกล้จะถังแตกแล้วแกรู้ไหม?!” คุณนายหวังกล่าวเสียงดัง
หวังเจียเหยาได้ยินแบบนี้ก็ตกใจ “อะไรนะคะ? ทำไมถึงเป็นแบบนี้ได้”
หวังเจียเหยาไม่ได้รู้เลยว่าเย่เฉินสามารถทำให้สถานะเศรษฐีนีสองหมื่นล้านของตนเองลอยละลิ่วหายไป จนกลับไปมีสภาพเดิิมได้อย่ารวดเร็ว!
เพราะทรัพย์สินทั้งหมดที่หล่อนมีไม่ใช่เงินสดและอสังหาริมทรัพย์
คุณนายหวังกล่าว “เรื่องนี้แกจะต้องจัดการให้เรียบร้อย ไปคุกเข่าขอโทษเย่เฉิน แล้วอธิบายให้เขาฟังแกต้องทำให้เขาให้อภัยแกให้ได้ ไม่อย่านั้นแกก็ไสหัวไปเลยไป!”
หวังเจียเหยาวางสายแล้วร้องไห้บนเตียงผู้ป่วย
ซูหลานรีบร้อนเดินมานั่งกับลูกสาว ลูบหลังหล่อนเบาๆ อย่างปลอบโยน
หวังเจียเหยากล่าวพลางร้องไห้ “คุณย่าก็เป็นแบบนี้ทุกครั้งเลย ไม่ว่าอะไรก็โทษหนู ตั้งแต่เล็กจนโตหนูรู้สึกไม่ปลอดภัยเลย ถ้าคุณย่ารักหนูตั้งแต่เด็กๆ แล้วให้ความสำคัญกับครอบครัวเราบ้างหนูก็คงจะไม่มีชู้! เป็นความผิดคุณย่าแท้ๆ!”
ซูหลานคิดไม่ถึงเลยว่าหวังเจียเหยาจะโทษย่าตนเอง
ซูหลานถาม “งั้นผู้ชายคนนั้นเป็นใครกันแน่? ทำไมลูกปิดบังแม้แต่แม่ล่ะ?”
แต่จนตอนนี้หวังเจียเหยาก็ยังคงไม่คิดจะบอกความจริงกับมารดา
หล่อนเช็ดน้ำตาลวกๆ แล้วโทรหาเย่เฉิน
“เป็นลมหายแล้วเหรอ?”
ทันทีที่รับสายเขาก็เหน็บแนมหญิงสาวทันที
ทุกคนอาจจะเห็นผลตรวจแล้วเกิดเป็นลมหมดสติได้ แต่หวังเจียเหยาไม่มีทางเป็นแบบนั้น เพราะเรื่องที่หล่อนเคยทำหล่อนย่อมรู้ดีแก่ใจ!
หวังเจียเหยากล่าว “อืม ดีขึ้นมากแล้ว ตอนนี้กำลังให้น้ำเกลือที่โรงพยาบาล”
ผู้หญิงคนนี้จนป่านนี้แล้วยังแสร้งทำตัวเป็นคนบอบบางอยู่อีก!
ตอนสวมเขาให้กันทำไมใจกล้าอะไรขนาดนั้น!
เย่เฉินกล่าวว่า “ตอนนี้ผมจะไปพบคุณที่โรงพยาบาล ทางที่ดีบอกความจริงผมมา!”
เย่เฉินรู้ทั้งเลขที่ห้องพักและโรงพยาบาลที่หล่อนพักอยู่ พอวางสายแล้วเขาก็ตรงไปที่นั่นทันที
เพิ่งจะถึงหน้าห้องพักฟื้น ซูหลานก็เป็นฝ่ายเดินไปต้อนรับเย่เฉิน คาดว่ากลัวเย่เฉินจะตบหวังเจียเหยาแล้วโน้มน้าวอีกฝ่าย “เสี่ยวเฉินเอ้ย ใจเย็นเถอะนะ คิดในแง่ดีเถอะ เธอดูลูกชายเธอสิ ว่าเขาน่ารักขนาดไหน หน้าเหมือนเธอขนาดไหน!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?)