เย่เฉินกดโทรหาฉินหงเหยียนเพื่อบอกแฟนสาว
“หงเหยียน”
“เย่เฉิน”
เสียงปลายสายของหญิงสาวแผ่วเบา เหมือนเพิ่งตื่นนอน
“ขอโทษด้วยนะครับหงเหยียน สองวันมานี้ไม่ไดโทรหาคุณเลย ไม่มีเวลาส่งข้อความหาด้วย ผมบินมาอเมริกา ตอนนี้กำลังจะบินกลับเมืองหลวง เรื่องวุ่นวายมาติดๆ กันเลย”
“งั้นรอคุณจัดการธุระเสร็จเราค่อยคุยกันก็ได้” ฉินหงเหยียนตอบเสียงเบา
“อืม ได้ผมวางล่ะ”
ตอนนี้ ที่จริงแล้วเย่เฉินควรจะอยู่ในห้วงความสุขและหวานฉ่ำหลังจากที่ขอแฟนสาวแต่งงานสำเร็จ
แต่ว่ากลับมีเรื่องพวกนี้เกิดขึ้นไม่หยุด
ตอนแรกก็เป็นเรื่องตรวจ DNA ลูกสองคนของหวังเจียเหยา พบว่าหนึ่งในนั้นไม่ใช่ลูกเขา
ตอนนี้กว่าจะเจอพ่อแท้ๆ ของเด็กผู้หญิง เย่เฉินถึงได้พบว่าเรื่องนี้มีเรื่องไม่ชอบมาพากกล คิดไม่ถึงว่าจะเกี่ยวข้องกับความผิดพลาดที่เขาเคยทำเอาไว้เมื่อสี่ปีก่อน
ตอนนี้เย่เฉินอยากจะรู้ใจจะขาดว่าผู้หญิงที่ชื่อซูมู่ชิงหน้าตาเป็นยังไง เขาอยากจะถามเรื่องราวความเป็นมาและขอโทษหญิงสาว
หลังจากเดินทางกันหลายสิบชั่วโมง พวกเย่เฉินก็มาถึงเมืองหลวง!
หลังจากเดินทางติดต่อกัน พวกเย่เฉินก็ออกจะมีอาการ Jet lag กันหมดอีกท้ังยังเริ่มจะไม่ค่อยมีสติแล้วด้วย
ถึงแม้ว่าอยากจะหาโรงแรมนอนพักสักหน่อย แต่เย่เฉินก็ยังตัดสินใจไปพบซูมู่ชิงพี่สาวของซูมู่หลินก่อน!
“พี่สาวนายอยู่ที่ไหน?” เย่เฉินถาม
“นายมากับฉันสองคน ห้ามพาลูกน้องมา” ซูมู่หลินกล่าว
ซูมู่หลินไม่เรียกคนมารับเขา แต่เรียกรถส่งๆ แล้วเย่เฉินก็เดินตามเขาเข้าไป
ไม่นานนักทั้งสองคนก็มาแถวๆ ประตูหน้าของบางพื้นที่ ที่นี่เป็นเขตสี่เรือนประสานล้วนแต่สร้างขึ้นจากก้อนหินและท่อนไม้ที่ค่อนข้างเก่าแก่
เย่เฉินประหลาดอย่างมาก คิดไม่ถึงว่าซูมู่ชิงจะอาศัยอยู่ที่นี่
เมื่อผลักประตูสีแดงที่สร้างจากไม้เก่า เย่เฉินก็ถามอย่างประหลาดใจ “ตระกูลซูของพวกนายไม่ใช่ตระกูลร่ำรวยเหรอ? ทำไมพี่สาวนายมาอยู่ที่นี่?”
เย่เฉินเองย่อมรู้ว่าพื้นที่ในเมืองหลวงนั้นมีมูลค่าราวทองคำ เรือนสี่ประสานที่นี่ราคาสูงแน่นอน
ราคาประเมินน่าจะมากกว่าแสนหก เรือนสี่ประสานแห่งนี้คาดว่าน่าจะหลายร้อยล้าน
แต่ว่าพวกเขาคือคนตระกูลซู คนตระกูลซูน่าจะอาศัยอยู่ที่บ้านราคาเกินพันล้าน แต่การที่หญิงสาวอาศัยอยู่ในเรือสี่ประสานดูไม่ค่อยเหมาะสมกับหญิงสาวที่เป็นลูกคุณหนูเท่าไหร่นัก
ซูมู่หลินได้ยินแบบนี้ก็ถลึงตามองเย่เฉิน “ก็เพราะเรื่องงามหน้าที่นายทำยังไงล่ะ! ตอนนี้พี่สาวฉันทะเลาะกับคนทั้งบ้าน เลยย้ายตัวเองมาอยู่ที่เรือนสี่ประสานนี่”
เย่เฉินไม่เข้าใจตัวเขาเองกับซูมู่ชิงก็เป็นอะไรเทือกๆ แบบ ‘one night stand’ ก็เท่านั้นเอง เรื่องแบบนี้ในสายตาสาวๆ ยุคนี้ไม่น่าจะเป็นเรื่องราวอะไร
หรือว่าหลังจากเกิดเรื่องซูมู่ชิงเป็นโรคซึมเศร้า? ทำไมถึงได้ทะเลาะกับที่บ้านได้?
เย่เฉินพอจะรู้นิสัยของซูมู่หลิน จึงไม่อยากจะพูดถึงเรื่องนี้ เขาว่าเขาไปถามหญิงสาวเองน่าจะดีกว่า
“ไม่รู้ว่าซูมู่ชิงหน้าตาเป็นยังไง สวยไหม…”
ทันใดนั้นเองก็มาถึงเรือนสี่ประสานของซูมู่ชิงอย่ารวดเร็ว เย่เฉินก็เริ่มอยากเห็นหน้าตาของหญิงสาวคนนี้ขึ้นมา!
ลำดับแรกเขาพอจะเดาได้ว่าอายุของซูมู่ชิงน่าจะไม่มาก ซูมู่หลินเพิ่งจะ 20 ต้นๆ พี่สาวก็ไม่น่าจะเกิน 30
สองเขาเดาว่าหญิงสาวน่าจะหน้าตาดี!
เพราะซูมู่หลินหน้าตาสะสวย!
ตอนแรกที่เย่เฉินเห็นหมอนี่ ยังคิดเลยว่าเสียดายจริงๆ ที่ไม่เป็นผู้หญิง!
คิดไม่ถึงว่าเขาจะยังมีพี่สาว กรรมพันธุ์ดีๆ ของพวกเขาไม่สิ้นเปลืองไปอย่างน่าเสียดาย!
“เอ่อ ซูมู่ชิงเป็นพี่สาวแท้ๆ ของนายเหรอ? พ่อแม่เดียวกันเลยไหม?”
เย่เฉินเอ่ยถามขณะเดินตามหลังซูมู่หลิน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?)