เพราะเขาเกลียดทั้งสองคนนั้นแหละ คนหนึ่งก็เหมือนแมลงวันที่คอยตอมพี่สาวเขา ส่วนอีกคนก็เคยทำผิดมหันต์เกินจะอภัยกับพี่สาวของเขา!
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเย่เฉินเคยตบเขา ต่อยเขา เตะเขาเมื่อไม่กี่วันก่อนแถมยังแทงเขาอีก หนำซ้ำเกือบจะส่งเขาไปดาวอังคารด้วย !
ถูกเย่เฉินเขย่าประสาทจนหมดสภาพขนาดนี้ ซูมู่หลินอยากจะให้หลี่เฉิงเจี๋ยช่วยสั่งสอนเย่เฉินให้เหมือนกัน
เย่เฉินเกลียดท่าทางยโสโอหังของหลี่เฉิงเจี๋ยใจจะจขาด และเกลียดที่อีกฝ่ายเอาแต่เรียกเขาว่า‘ไอ้หมารับใช้’
เดิมทีเพิ่งจะได้รู้ว่าตนเองมีลูกสาว เย่เฉินดีใจอย่างมาก แต่ว่าในเมื่อหลี่เฉิงเจี๋ยรนหาที่ตายเอง งั้นเย่เฉินเองก็จะไม่เกรงใจเขา!
แล้วอีกอย่าง ตระกูลซูดูอยากจะให้ซูมู่ชิงแต่งงานกับหลี่เฉิงเจี๋ย แต่ซูมู่ชิงดูจะไม่ยินยอม
เขาเองก็อยากจะอาศัยโอกาสนี้เหยียบหน้าหลี่เฉิงเจี๋ย เพื่อที่ในอนาคตหมอนี่จะได้ไม่มารบกวนซูมู่ชิงอีก
ถือเสียว่าช่วยหญิงสาวก็แล้วกัน
ดังนั้นเย่เฉินจึงค่อยๆ เดินสาวเท้าลงมาด้านล่าง แววตาไร้ซึ่งความหวาดกลัวใดๆ เมื่อต้องเผชิญหน้ากับหลี่เฉิงเจี๋ย
หลี่เฉิงเจี๋ยมองเย่เฉินพลางกล่าว “ไอ้หมารับใช้ รีบยืนย่อขาเลย คิดไม่ถึงว่าฉันจะถีบแกไม่ได้ ดูแล้วแกนี่เคยออกกำลังกายมาล่ะสิ ดีมาก ฉันชอบสั่งสอนไอ้พวกคนที่คิดว่าตัวเองเก่งนักหนา ตามฉันมา!”
หลี่เฉิงเจี๋ยเป็นฝ่ายเดินนำไปก่อน ส่วนเย่เฉินก็เดินตามไปติดๆ
“ไปดูอะไรสนุกๆ เถอะ”
ซูมู่หลินและซูมู่เสวี่ยเดินมาถึงหน้าประตู
แต่ใบหน้าของพ่อแม่ของซูมู่หลินกลับเต็มไปด้วยความกังวล แน่นอนว่าพวกเขาไม่ได้สนใจความปลอดภัยของคนขับรถอย่างเย่เฉิน แต่ที่พวกเขากังวลคือวันนี้โทสะของหลี่เฉิงเจี๋ยจะบรรเทาลงไปหรือไม่
ตระกูลซูในตอนนี้ถือว่ายิ่งใหญ่กว่าตระกูลหลี่อยู่เล็กน้อยก็จริง แต่ว่าเมืองหลวงนั้นเกิดการเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ตระกูลซูเองก็อยากจะทำทุกวิถีทางที่พอทำได้เพื่อผูกสัมพันธ์กับคนอื่นๆ ให้ได้มากที่สุด
ตระกูลส่วนมากมีแต่ลูกชาย คิดว่ามีลูกชายแล้วจะสามารถสืบเชื้อสาย เพื่อตระกูลจะได้ดำเนินต่อไป
แต่ตระกูลซูนั้นมีธรรมเนียมว่าจะต้องมีลูกชายและลูกสาว ลูกชายจะสามารถจะสามารถสืบทอดธุรกิจของตระกูล ส่วนลูกสาวมีหน้าที่รับผิดชอบแต่งงานกับตระกูลต่างๆ
ตลอดหลายสิบปีมานี้ตระกูลซู รวมไปถึงน้า และย่าของซูมู่หลิน ต่างก็แต่งงานกับตระกูลใหญ่ๆ ทั้งนั้น
และเป็นเพราะเหตุนี้เอง ทำให้สถานะของตระกูลซูมั่นคงอยู่เสมอ
หลี่เฉิงเจี๋ยเดินไปด้านนอก ตอนนี้ในทางเหนือเป็นฤดูหนาวพอดี เขาถอดเสื้อคลุมด้านนอกออก เหลือแค่เสื้อไหมพรมบางๆ ตัวเดียว
เย่เฉินเดินตามออกไป ถอดเสื้อคลุมออก ภายในเป็นเสื้อเชิ้ตที่เก็บความร้อนที่สั่งตัดเอาไว้
วันนี้เขาอยู่ในสไตล์นักธุรกิจ จึงสวมรองเท้าหนัง ไม่ค่อยจะคล่องตัวนัก
แต่ว่าเย่เฉินเดาว่าคนตรงหน้าไม่ใช่คู่ต่อสู้ในระดับเดียวกับตนเอง จะใส่รองเท้าอะไรก็ไม่ต่างกัน
แล้วหลี่เฉิงเจี๋ยก็ตะโกนเสียงดัง ก่อนจะตั้งท่ามาตรฐานแล้วโจมตีเย่เฉินอย่างรวดเร็ว
“ย่าห์!”
“ย่าห์!”
“ย่าห์!”
หลี่เฉิงเจี๋ยปล่อยหมัดออกมาแล้วตะเบ็งเสียง อีกทั้งท่าของเขายังได้มาตรฐานอย่างมาก ทุกครั้งที่ปล่อยหมัดออกมา ทั้งตำแหน่ง พลัง ท่าล้วนแต่แม่นยำอย่างยิ่ง
อีกทั้งพลังของเขาก็ไม่ได้แย่ ถ้าเป็นคนทั่วๆ ไป เมื่อโดนหมัดหลายๆ ครั้งเข้าคาดว่าคงจะหมอบไปแล้ว
ทว่าเย่เฉินมีความสามารถในการรับหมัดที่ไม่ธรรมดา เขาสามารถรับหมัดทั้งหมดจากนั้นเย่เฉินก็ส่งยิ้มให้หลี่เฉิงเจี๋ย “หมัดชุดนี้ ผมเองก็เคยเรียนมาก่อน!”
แล้วเห็นเย่เฉินตั้งการ์ดท่าเดียวกับหลี่เฉิงเจี๋ย เขายืนนิ่งแล้วย่อตัวน้อยๆ จากนั้นก็ปล่อยหมัดออกไป
หลี่เฉิงเจี๋ยประหลาดใจ เพิ่งจะได้ชักเท้าไปด้านหลัง เย่เฉินก็เตะเข้าที่หน้าของเขา
จากนั้นเย่เฉินจึงปล่อยหมัดออกไปตรงๆ ถึงสามครั้ง
โครม! โครม! โครม!
หลี่เฉิงเจี๋ยโดนต่อยจนถอยกรูด
ท่ามวยที่ได้มาตรฐานของเย่เฉินนี้ทำเอาทุกคนที่อยู่ที่นั่นตกใจกันไปหมด
หลี่เฉิงเจี๋ยเองก็ประหลาดใจอย่างมาก “แกเคยเป็นทหารด้วยเหรอ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?)