“คุณไม่ได้ยินเหรอครับว่าซือซือบอกว่าไม่น่ะ?”
หลี่เฉิงเจี๋ยคนนี้รนหาที่ตายชัดๆ!
เย่เฉินเพิ่งจะได้ทำความรู้จักลูกสาวของเขา เล่นกับหล่อน สารเลวคนนี้คิดไม่ถึงว่าจะอยู่ดีๆ ก็โผล่มา แถมยังทำให้ซือซือตกอกตกใจแบบนี้
อีกทั้งคิดไม่ถึงว่าจะกล้ามาดึงดันจะอุ้มลูกสาวเขา!
สามปีกว่าที่ผ่านมา เย่เฉินไม่รู้ว่ามีลูกสาวคนนี้อยู่ เมื่อเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นเขาก็ทำอะไรไม่ได้
แต่ว่าวันนี้เขารู้แล้ว จะให้เขายืนมองคนอื่นรังแกลูกสาวเขาได้อย่างไร!
ส่วนหลี่เฉิงเจี๋ยหัวเสียกว่าเดิมมาก!
เขาไม่รู้เรื่องสถานะของเย่เฉิน รู้แค่ว่าเย่เฉินเป็นแค่คนขับรถเท่านั้น
หลี่เฉิงเจี๋ยลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว กล่าวกับเย่เฉินอย่างไม่พอใจ “แกมันไอ้หมารับใช้ เป็นแค่ขับรถแต่กล้าสั่งสอนฉันเรอะ?! อยากตายหรือไง!”
หลี่เฉิงเจี๋ยเอาแต่เรียกเขาเป็นสุนัขรับใช้ เหมือนว่าตนเองมีเชื้อสายเป็นฮ่องเต้มาจากไหน
ถ้าเป็นเมื่อหลายร้อยหลายพันปีก่อน พวกลูกคนรวยมีเชื้อมีสายในเมืองหลวงอย่างพวกเขาสามารถโอหังแบบนี้ได้จริงๆ
แต่ตอนนี้ยังทำตัวเหมือนเดิม เกรงว่าคงจะอยู่ในความฝัน!
ซูมู่ชิงและลูกสาวของพวกเขาอยู่ที่นี่ เย่เฉินไม่อยากให้ลูกสาวของตนเองเห็นตนเองในมุมมองที่โหดร้าย ดังนั้นถึงไม่ลงมือทำร้ายเขา
แต่ถามอย่างไม่รีบไม่ร้อน “ด่าใครเป็นหมารับใช้?”
หลี่เฉิงเจี๋ยตอบกลับอย่างร้อนใจ “ไอ้หมารับใช้ด่าแกไง! แกมันไอ้คนขี้ครอก”
ทว่าทันทีที่พูดออกมาก็พบว่าตนเองโดนอีกฝ่ายปั่นหัว
พูดแบบนี้ไม่เท่ากับว่าเขาด่าตนเองว่าเป็นหมารับใช้เหรอ?
“ฮ่าๆ”
เหมือนว่าซือซือเองเข้าใจ เด็กหญิงระเบิดเสียงหัวเราะออกมา
หลี่เฉิงเจี๋ยร่างกายสูงใหญ่แต่สมองไม่พัฒนาไปกับขนาดร่างกาย เขาย่อมเถียงเย่เฉินไม่ได้ อยากจะลงมือสั่งสอนเขาก็จริงแต่ว่าที่นี่คือห้องของซูมู่ชิง แต่เขาเองก็ไม่อยากจะลงไม้ลงมือที่นี่
ดังนั้นหลี่เฉิงเจี๋ยจึงชี้ไปที่เย่เฉินพลางกล่าว “ไอ้หมารับใช้ ที่นี่คือห้องของซูมู่ชิง ฉันไม่อยากทำให้ที่นี่แปดเปื้อน แก รีบไสหัวลงไปเดี๋ยวนี้!”
ดูไปแล้วหลี่เฉิงเจี๋ยก็อยากจะลงมือสั่งสอนเย่เฉินใจจะขาด!
เย่เฉินยังคงมีท่าทีไม่รีบไม่ร้อน เขากล่าวพลางระบายยิ้ม “คุณชายหลี่จะลงบันไดต้องกลิ้งลงเหรอครับ? ผมทำไม่เป็นหรอกนะ ไม่งั้นคุณชายหลี่พอจะช่วยแสดงให้ผมดูหน่อยได้ไหมครับ?”
เมื่อเหน็บแนมหลี่เฉิงเจี๋ยแล้วก็กล่าวกับซือซือ “ซือซือ อยากเห็นคุณอาคนนี้กลิ้งลงบันไดไหมคะ?”
“อยากดูค่ะ! อยากดูค่ะ!”
ซือซือปรบมือไม่หยุด
เย่เฉินดึงมือน้อยๆ ของซือซือพลางกล่าว “ไปเถอะ พวกเราไปดูคุณอากลิ้งลงบันไดกัน”
“ได้ค่ะๆ”
เย่เฉินพาซือซือออกมาจากห้อง แล้วหยุดที่บันได
ซือซือมองหลี่ซาวเจี๋ยด้วยแววตาใสซื่อ “คุณอาคะ หนูอยากเห็นคุณอากลิ้งลงบันได”
สีหน้าหลี่เฉิงเจี๋ยเก้อเขิน ด่าเย่เฉินในใจไม่หยุดแล้วกล่าวกับซือซือด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม
“ซือซือ อากลิ้งลงบันไดไม่ได้หรอกนะ ไม่อย่างนั้นหนูให้คนข้างๆ หนูกลิ้งลงบันได้ดีไหม?”
หลี่เฉิงเจี๋ยมองเย่เฉิน แล้วสั่งเขา “ไอ้หนุ่ม แกกลิ้งลงบันไดในซือซือดูหน่อย แล้วฉันจะไม่ถือสาแกเรื่องวันนี้”
เย่เฉินแค่นเสียง จะให้เขากลิ้งลงบันได้เพื่อให้นายได้หน้ากับซือซือเหรอ?
เย่เฉินกล่าว “ผมทำไม่เป็นหรอก ไม่เคยลอง”
หลี่เฉิงเจี๋ยกล่าวด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ “นายไม่จำเป็นต้องทำเป็น แค่ไปยืนที่บันไดก็เป็นอันใช้ได้”
เย่เฉินทำเป็นไม่เข้าใจเขาเดินตรงไปที่บันได้แล้วถาม “หมายถึงยืนแถวนี้น่ะเหรอ?”
ซูมู่ชิงตึงเครียด เพราะหญิงสาวรู้ว่าหลี่เฉิงเจี๋ยจะทำอะไร!
หลี่เฉิงเจี๋ยต้องการจะถีบเย่เฉินลงไปข้างล่าง!
ในตอนที่ซูมู่ชิงกำลังจะเตือนเย่เฉิน ใครจะรู้ว่าเท้าของอีกฝ่ายก็ดีดออกไปแล้ว
หลี่เฉิงเจี๋ยกล่าวพร้อมระบายยิ้ม “ใช่แล้ว ตรงนั้นแหละ! กลิ้งลงไปเลยแก!”
รองเท้าบู้ตหนังที่หลี่เฉิงเจี๋ยสวมใส่นั้นถีบลงไปที่สะโพกของเย่เฉิน!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?)