ค้างคืน?
หลายปีมานี้ซูมู่ชิงอยู่กับลูกสาวแค่เพียงสองคนแม่ลูก
เมื่อเห็นท่าทางลุกลี้ลุกลนของซูมู่ชิง เย่เฉินก็อธิบายพร้อมระบายยิ้ม “คุณอย่าเข้าใจผิด ผมแค่อยากจะอยู่เป็นเพื่อนซือซือ”
ลูกสาวในสายเลือดแท้ๆ แต่สามปีมานี้ก็ไม่เคยเจอกันมาก่อน วันนี้ได้เจอกันจะให้ใช้เวลาด้วยกันแค่เดี๋ยวๆ แล้วแยกย้ายได้ยังไง?
เย่เฉินอยากจะอยู่กับหล่อน 24 ชั่วโมงใจจะขาด
มือนุ่มนิ่มของซือซือคว้าแขนหนาของเขาแล้วกล่าว “คืนนี้หนูอยากให้พ่อกอดหนูนอนหลับ”
ซูมู่ชิงพูดไม่ออก แล้วจึงสั่งสอนซือซือต่อ “ซือซืออย่าเหลวไหล พูดแบบนี้ไม่อายเหรอ”
ซือซือกลับทำท่าทีไม่พอใจ เด็กหญิงแก้ตัว “ก็พูดกันแล้วไม่ใช่เหรอคะ ว่าลูกสาวคือคนรักเมื่อชาติก่อนของคนเป็นพ่อ? แล้วที่แม่ไม่เห็นด้วยที่หนูจะนอนกับพ่อเพราะแม่จะแย่งพ่อกับหนูเหรอคะ? งั้นหนูยอมให้ทั้งสองคนมานอนเป็นเพื่อนหนูก็ได้นะคะ”
คำพูดนี้ของซือซือทำให้เย่เฉินขบขัน ระเบิดเสียงหัวเราะออกมาทันที
เด็กหญิงอายุไม่ถึงสี่ขวบ มีอะไรในหัวบ้างเนี่ย คิดอะไรตลกๆ เกินไปแล้วล่ะมั้ง?
ซูมู่ชิงเองก็เก้อเขินไปเพราะคำพูดของลูกสาว จนไม่กล้าสบตามองเย่เฉินตรงๆ
อะไรที่เรียกว่าแย่งเย่เฉินกับลูกสาว?
ทำเอาเหมือนซูมู่ชิงไม่ยอมให้ซือซือนอนกับเย่เฉิน เพื่อหล่อนจะได้นอนกับเย่เฉินแทนอย่างนั้น…
เพราะซือซือกล่าวถึง ‘คนรักในชาติก่อน’ เองก่อน คำพูดนี้ทำให้เย่เฉินนึกถึงบทเพลงบทหนึ่ง
‘คนรักในชาติก่อน’ ของท่านประธานโจว[1]
บทเพลงนี้ถูกเขียนขึ้นเพื่อลูกสาวของเขา ทั้งบทเพลงเต็มไปด้วยความรักใคร่และสับสนของคนเป็นพ่อที่มีต่อคนเป็นลูกสาว
เย่เฉินชอบเพลงนี้มาก หลังจากที่หวังเจียเหยาตั้งท้อง แค่นึกถึงว่าตนเองอาจจะมีโอกาสได้มีลูกสาวก็ฝึกซ้อมบทเพลงนี้อยู่หลายครั้ง
เดิมอยากจะรอให้ลูกสาวลืมตาดูโลกแล้วจะได้เล่นให้แม่หนูตัวน้อยฟัง เสียดายที่ลูกสาวไม่ใช่สายเลือดเขา
เย่เฉินยังคิดไปว่าตนเองคงฝึกบทเพลงนี้เสียเปล่าแล้ว
แต่ตอนนี้ซือซือก็ปรากฏตัวขึ้น!
“ซือซือ พ่อเล่นเพลง ‘คนรักในชาติก่อน’ ให้หนูฟังดีไหม?” เย่เฉินกล่าวพลางมองซือซือแล้วส่งยิ้ม
ซือซือเบิกตากว้าง “เอ๋? คนรักเมื่อชาติก่อน ไม่ใช่พวกเราหรอคะ? ซือซืออยากฟังค่ะ!”
เย่เฉินลูบหัวซือซือจากนั้นก็บรรเลงบทเพลงนี้อย่างรวดเร็ว
แต่การแสดงในครั้งนี้คิดไม่ถึงว่าจะดึงดูดสาวใช้ของเรือนสี่ประสานมา ดูแล้วสาวใช้เองก็คงจะเป็นแฟนเพลงของท่านประธานโจวชื่อดัง ทันทีที่ได้ยินเสียงอินโทรที่คุ้นเคยก็วิ่งมา
เมื่อบรรเลงอินโทรเสร็จแล้วเย่เฉินก็ร้องไปพร้อมๆ กับบรรเลงไปด้วย
“กระรอกกับวอลนัทเล่นซ่อนแอบในบ้าน”
“องุ่นหลบอยู่ในถังไม้เพื่อรอช่วงเวลาที่งดงาม”
เย่เฉินร้องส่วน RAP ซือซือเองเพิ่งเคยฟังเพลงแนวนี้เป็นครั้งแรก มีท่าทีตื่นเต้นแล้วหัวเราะคิกคัก เด็กหญิงที่ไม่รู้ประสาคิดไปว่าบิดาของตนเองพูดจจารวดเร็ว จนฟังไม่ออกว่าเขาพูดอะไร
แล้วเย่เฉินก็ร้องถึงท่อนฮุคอย่ารวดเร็ว
“รักอะไร ไม่พูดถึง ก็มีอยู่”
“รักอะไร แค่มอง ก็เข้าใจ”
สองประโยคนี้ของท่อนฮุคเป็นท่อนที่เย่เฉินชอบที่สุด ท่วงทำนองงดงาม อีกทั้งยังแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของเสียงหลบที่ไพเราะที่สุดของท่านประธานโจว
ทว่าในตอนที่กำลังจะร้องสองประโยคนี้เย่เฉินก็ตื่นเต้น
เพราะช่วงนี้เขามีเรื่องกวนใจมากมายจนทำให้เขาสูบบุหรี่มากมาย พอสูบบุหรี่เยอะๆ เข้าแล้วไม่ได้วอร์มเสียงก่อน ก็อาจจะร้องเสียงหลบไม่ได้!
แต่ดีที่เย่เฉินเรียนการร้องเพลงกับอาจารย์มาก่อน เขาเลยค่อยๆ ขับร้องท่อนที่ไพเราะแบบนี้ออกมาได้
“เธอยิ้ม เพียงนิดๆ หน่อยๆ ก็หายไป”
“ใช้คำพูดคำเดียวอธิบายไม่ได้”
“เป็นทะเลดาว”
“ว้าว เจ๋งจังค่ะๆ!” ซือซือปรบมืออย่างดีใจ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?)