หลี่เฉิงเจี๋ยมองเย่เฉินอย่างไม่ยอมแพ้พลางกล่าว
“หนุ่มน้อย คนที่กล้าใช้คำพูดแบบนี้ในเมืองหลวงมีแค่สองประเภทเท่านั้น ประเภทแรกคือคนที่เก่งกว่าหลี่เฉิงเจี๋ย ประเภทที่สองคือคนไม่กลัวตาย! เห็นได้ชัดว่านายไม่ใช่ประเภทแรก แต่ถ้าหากเดาไม่ผิดล่ะก็ คนอย่างนายจะต้องทำผิดมามากมายแน่นอน! ฆ่าคน ปล้นหรืออาจจะถึงขั้นเคยข่มขืนผู้หญิงคนมาก่อน!”
หลี่เฉิงเจี๋ยพอจะรู้ว่าเย่ฉินไม่ใช่คนดีอะไรนัก
“ทางที่ดีที่สุดนายรีบไสหัวออกไปจากเมืองหลวง กลับไปสถานที่ที่เป็นของนาย ไม่อย่างนั้นแค้นจะทำให้นายกลับมาเหยียบที่นี่ได้เลยตลอดชีวิต!”
หลี่เฉิงเจี๋ยข่มขู่เขา
เย่เฉินหัวเราะเสียงเย็น เมื่อวานหมอนี่โดนซ้อมเสียน่วม คิดไม่ถึงว่าจะไม่ยอมรับว่าตนเองเก่งกว่าเขา
คิดไม่ถึงว่าจะเรียกเย่เฉินเป็น‘คนกลัวตาย’?
แถมไม่พอยังคิดว่าเย่เฉินจะมีคดีมากมาย หนำซ้ำยังคิดเสียว่าเป็นคดีที่รุนแรงจนต้องโดนจับเข้าคุกด้วย?
เย่เฉินกล่าวพลางระบายยิ้ม “หลี่เฉิงเจี๋ยคุณทายถูกแล้ว ผมเป็นคนเดนตายที่ไม่กลัวตายหรอกนะ ในเมื่อคุณให้ผมไปจากเมืองหลวงไม่ได้ งั้นผมขอทำคุณหายไปจากโลกนี้ก่อนแล้วกัน!”
เย่เฉินกล่าวอย่างโหดเหี้ยม แล้วจู่ๆ ก็ใช้มือขวาทำท่าทีเหมือนจะล้วงของบางอย่างออกมาจากกระเป๋าเสื้อโค้ตด้านซ้าย!
หลี่เฉิงเจี๋ยชะงักไปทันที คนอย่างเขาค่อนข้างจะระแวดระวังกับท่าทางแบบนี้อย่างมาก เพราะปืนมักจะถูกซุกเก็บเอาไว้ในนั้น!
“แกอย่าทำอะไรบ้าๆ นะ! มีอะไรค่อยๆ คุยกัน!”
หลี่เฉิงเจี๋ยตกใจจนถอยกรูดไป ถึงขนาดที่ตะโกนร้องขอชีวิตด้วยซ้ำ
ใครจะรู้ในวินาทีที่เย่เฉินหยิบออกมาจากในกระเป๋าก็คือบุหรี่ห่อหนึ่ง
เย่เฉินหยิบบุหรี่ออกมามวนหนึ่งแล้วมองหลี่เฉิงเจี๋ยที่ตกใจจนหน้าสีเผือด “ผมแค่หยิบบุหรี่มวนเดียว ดูท่าคุณตกใจเข้าสิ อย่าบอกนะว่าคุ้ณกลัวว่าผมจะใช้ไฟแช็คเผาคุณน่ะ?”
“แก…”
หลี่เฉิงเจี๋ยโกรธจัด เมื่อครู่เขาใช้คำพูดข่มขู่เย่เฉินยังมีท่าทีโอหังเย่อหยิ่ง แต่ท่าทางอ้อนวอนกลัวตายนี่น่าอนาถเหลือเกิน
ท่าทางแสนน่าอายนี้โดนหญิงสาวในดวงใจเห็นเข้าอีกแล้ว!
จู่ๆ ซูมู่ชิงก็เดินมาแล้วกล่าว “หลี่เฉิงเจี๋ยคุณโวยวายก่อเรื่องพอหรือยัง? รีบขับรถของคุณไปเลยนะ หรือคุณจะให้ฉันโทรหาคุณปู่ฟ้องเขาให้เขาโทรหาคุณเพื่อย้ายรถใช่ไหมล่ะ?”
ทันทีที่ได้ยินซูมู่ชิงพูดถึงปู่ของหล่อน หลี่เฉิงเจี๋ยก็ใจฝ่อ
ที่พูดถึงกันเรื่องแต่งงานเพื่อผลประโยชน์ ทั้งสองฝ่ายต่างก็ได้ประโยชน์กันทั้งนั้นไม่ใช่แค่ตระกูลซูที่เป็นฝ่ายได้ประโยชน์
ตระกูลหลี่ทำไมจะไม่อยากเกาะต้นบุญต้นนี้ล่ะ?
ปู่ของซูมู่ชิงเป็นคนที่หลี่เฉิงเจี๋ยเคารพนับถือ
ที่เขาตามจีบหญิงสาวไม่ใช่เพียงแค่เพราะใบหน้าที่สะสวย แต่เป้าหมายจริงๆ คือหวังว่าจะได้ความช่วยเหลือจากปู่ของซูมู่ชิง
“ก็ได้ พวกเราไปกัน!”
หลี่เฉิงเจี๋ยพูดกับเฉียนช่วนจื่อแล้วขับรถ SUV ของพวกเขาไปอย่างรวดเร็ว
ซูมู่ชิงกล่าวกับเย่เฉินว่า “ให้ฉันขับเถอะนะคะ”
“อืม”
ที่เย่เฉินอาสาขับรถแทนหญิงสาว เดิมเพราะไม่อยากให้เจ้าหล่อนต้องเหน็ดเหนื่อย แต่พออยู่ที่เมืองหลวงเหมือนว่าจะเจอเรื่องยุ่งยากได้ตลอดเวลา
แต่ให้คุณหนูซูขับรถน่าจะดีกว่า จะได้ไม่ยุ่งยากเกินไป
เพิ่งถึงเรือนสี่ประสาน ซือซือก็ถูกสาวใช้ของซูมู่ชิงอุ้มไป
ซูมู่ชิงกลับยืนที่หน้าประตู แล้วกล่าวกับเย่เฉิน “เย่เฉินเมืองหลวงไม่ใช่สถานที่ที่นายควรจะอยู่นาน ฉันรู้จักหลี่เฉิงเจี๋ยดี เขาจะต้องหาทางเล่นงานคุณแน่ เมื่อวานคุณต่อยเขา ทำให้เขาขายหน้าขนาดนี้ วันนี้เขาเห็นเราสองคนไปศูนย์ตรวจ DNA ด้วยกัน เขาจะต้องไม่ปล่อยคุณไปแน่ ไม่สู้คุณออกไปจากเมืองหลวง ไปอยู่กับแฟนคุณดีกว่า รอผลตรวจ DNA ออกแล้วคุณค่อยกลับมา”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?)