เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?) นิยาย บท 296

ตอนที่ 296 ลงโทษซูมู่หลิน!
“อะไรนะ! ทำไมเป็นแบบนี้! ทำไมหงเหยียนถึงต้องลาออกจากตำแหน่งประธานบริษัท!”

ตำแหน่งประธานบริษัทไป๋ลี่เป็นของขวัญที่เขามอบให้หญิงสาว นี่เป็นตัวแทนของความรักและการชดเชยที่เขามีต่อหล่อน ทำไมหล่อนถึงได้….

พอถึงตอนนี้ จู่ๆ เย่เฉินก็ตระหนักได้ถึงคำพูดเมื่อครู่ของซูมู่หลิน คำพูดของอีกฝ่ายอาจไม่ใช่แค่เรื่องไร้สาระ ไม่ใช่แค่ความปากพล่อย กัดเขาเพื่อให้ตัวเองมีความสุขเท่านั้นแล้ว

อาจจะเป็นความจริงก็ได้!

เย่เฉินกดโทรศัพท์ทันที ปลายสายคือฉินเสี่ยวตั่ว

เขาโทรหาหล่อนติด แปลว่าอีกฝ่ายไม่ได้บิน และไม่ได้บล็อคเบอร์เขา

แต่ว่าเสียงรอสายดังขึ้นต่อเนื่องและยาวนาน สุดท้ายฉินเสี่ยวตั่วก็ไม่ได้รับสายเขา

เย่เฉินเป็นคนหัวแข็ง เมื่อโทรไปครั้งแรกแล้วอีกฝ่ายไม่ยอมรับสาย เขาก็จะโทรจนกว่าอีกฝ่ายจะยอมรับสาย

แต่ว่าโทรไปหลายสายติดต่อกันก็แล้ว หญิงสาวก็ไม่ยอมรับสายเขา

แต่ฉินเสี่ยวตั่วกลับส่งข้อความมาหาเขาแทน ในระหว่างที่เขาเอาแต่กดโทรหาหญิงสาวติดต่อกัน ความว่า:

“นายเลิกโทรมาเถอะ พี่สาวฉันไม่ให้ฉันติดต่อกับนายอีก”

เย่เฉินรีบร้อนตอบข้อความของอีกฝ่าย “เสี่ยวตั่ว ผมขอถามคุณแค่คำถามเดียว พี่สาวของคุณจะแต่งงานกับสวี่ฉู่หมิงจริงไหม?”

แล้วฉินเสี่ยวตั่วก็ตอบกลับมาอย่างรวดเร็ว “จริง!”

ในวินาทีนั้นเองเย่เฉินราวโดนฉุดลงเหว

กว่าเขาจะหลุดพ้นจากเงาแห่งการโดนทรยศจากหวังเจียเหยา แล้วมีความสุขไปกับการมีลูกสาว แต่แล้วเพียงแค่ไม่กี่วันความสุขก็ระเบิดหายไปราวควัน

แต่ในตอนที่กำลังจะออกจากเมืองหลวง คิดไม่ถึงเลยว่าจะต้องมาเจอเรื่องราวแบบนี้!

ฉินหงเหยียนเป็นผู้หญิงที่เย่เฉินรักสุดหัวใจ การทรยศของหญิงสาวนั่นทำให้เย่เฉินเจ็บปวดหัวใจเสียยิ่งกว่าตอนโดนหวังเจียเหยาทรยศร้อยเท่า พันเท่า!

หวังเจียเหยาเป็นผู้หญิงที่รักในแก้วแหวนเงินทอง แต่งงานกับเขาสามปี ไม่ยอมให้เขาแตะต้องตัวด้วยซ้ำ แถมไม่พอในระหว่างน้้นยังเอาแต่ด่าว่าเยาะเย้ยเขาด้วยซ้ำไป

ทันทีที่เย่เฉินไม่มีเงิน หล่อนเปลี่ยนไปก่อนใครๆ เสียด้วยซ้ำ!

แต่ฉินหงเหยียนไม่ใช่คนแบบนั้น ในตอนที่เย่เฉินตกต่ำจนถึงขีดสุด ฉินหงเหยียนยังยินดีจะอยู่เคียงข้างเขา แถมยังพูดว่า “ต่อให้ต้องไปเป็นขอทานกับเย่เฉินในเทียนไห่ก็ยินดี”

ต่อให้อยู่ที่เทียนไห่ก่อนหน้านี้ ตอนที่จะตรวจ DNA ลูกของหวังเจียเหยา ฉินหงเหยียนยังเอาแต่ปลอบเย่เฉิน!

ผู้หญิงที่รักตนเองแบบนี้ ทำไมถึงไปแต่งงานกับคนอื่นได้ยังไง?

“หึๆ เป็นยังไงบ้าง ฉันไม่ได้โกหกใช่ไหมล่ะ?” ซูมู่หลินหัวเราะเยาะ

ทว่าเขาไม่ได้สังเกตเห็นเลยว่าในเวลานี้เย่เฉินกำลังอยู่ในสภาวะโกรธจัด!

ผลัวะ!

เย่เฉินต่อยหน้าซูมู่หลิน คว้าเขาขึ้นมาแล้วตะคอก “ซูมู่หลิน! ฝีมือนายใช่ไหม? นายล่อหวังเจียเหยาแล้ว ตอนนี้ก็เลยเปลี่ยนเป้าหมายเป็นหวังเจียเหยาใช่ไหม! ฉันจะฆ่านาย”

“อย่านะ!” ซูมู่ชิงรีบร้อนอ้อนวอนเย่เฉิน

ซูมู่หลินกล่าาวอย่างละเหี่ยใจ “เกี่ยวอะไรกับฉัน! ฉันยังไม่เคยเจอฉินหงเหยียนด้วยซ้ำไป!”

ก่อนจะมาที่นี่ ซูมู่หลินตั้งใจจะบอกว่าเรื่องนี้เป็นฝีมือตนเอง หากว่าเย่เฉินเกิดถามว่าเรื่องนี้ใช้ฝีมือเขาหรือไม่ ซูมู่หลินกะจะออกตัวรับเอง

แต่ท่าทางเย่เฉินตอนนี้น่ากลัวเกินไป เขาเกิดปอดแหกขึ้นมา

ซูมู่ชิงรีบร้อนกล่าว “เย่เฉิน เรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับซูมู่หลิน คุณเองก็น่าจะรู้ดี ว่าคุณฉินหงเหยียนไม่มีทางโดนข่มขู่หรือรับผลประโยชน์จากใครหรอก ต่อให้ซูมู่หลินขู่หล่อน หรือเอาเงินให้ หล่อนก็ไม่เห็นด้วยหรอกจริงไหม?”

เย่เฉินพยักหน้ารับ ฉินหงเหยียนมีนิสัยที่ค่อนข้างเย่อหยิ่ง ซูมู่หลินทำอะไรหล่อนไม่ได้หรอก

ซูมู่หลินกล่าว “ฉินหงเหยียนยอมแต่งงานกับสวี่ฉู่หมิงเองไม่มีบังคับเสียหน่อย! เย่เฉิน ฉันว่านะนายยอมแพ้เถอะ พี่สาวฉันชอบนายถือว่าเป็นบุญที่นายเคยสั่งสมมาตั้งแต่ชาติปางไหนๆ! ไม่ว่าจะหน้าตา นิสัย การอบรม ผู้หญิงสองคนนั้นไม่ได้หนึ่งในสิบของพี่สาวฉันด้วยซ้ำไป”

เย่เฉินชี้ไปที่ซูมู่หลินแล้วกล่าว “ฉินหงเหยียนจะสมัครใจหรือเปล่า เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับนาย ฉันจะไปสืบให้รู้เรื่องของฉันเอง ต่อให้พี่สาวนายดีเลิศขนาดไหนก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับนายสักนิดเดียว ซูมู่หลินนายยั่วโมโหฉันครั้งแล้วครั้งเล่า ก่อนจะไปจากเมืองหลวงฉันจะต้องจัดการแน่ๆ”

ซูมู่หลินหัวเราะเสียงดัง “ฮ่าๆ เป็นคนที่สำเหนียกกำลังตัวเองจริงๆ คิดจะลงโทษฉันงั้นเหรอ? ที่นี่คือเมืองหลวง! ที่นี่เป็นเหมือนบ้านของฉัน! เมื่อครู่ฉันไว้หน้านายหรอก! นายรู้หรือเปล่าว่าแค่เสียงผิวปากของฉันแค่นิดเดียวจะมีคนกี่คนที่บุกเข้ามา?”

แถวๆ เรือนสี่ประสานของซูมู่ชิงเงียบและเปลี่ยว จุดนี้เย่เฉินสังเกตเห็นตั้งแต่วันแรกแล้ว

อีกทั้งทุกๆ ที่ซูมู่หลินจัดแจงไว้ให้พี่สาว ก็ถูกคนของหลิวเจิ้งคุนที่อยู่ไกลๆ กว่าจับตามองเช่นกัน พวกเขาก็สามารถจัดการคนของซูมู่หลินได้ทุกเวลาเหมือนกัน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?)