ฝรั่งคนนี้ไม่เพียงแต่จับมือฉินหงเหยียนอยู่นานไม่ยอมปล่อย แต่ดวงตาฉายแววหลุกหลิก
เพราะว่าฉินหงเหยียนอยู่บ้าน หล่อนจึงสวมกางเกงขาสั้น เผยเรียวขายาวนวลเนียน ดังนั้นสายตาของเขาถึงลอบมองเรือนร่างของหญิงสาวอย่างอดไม่ได้จนไม่อาจบดบังแววตาหื่นกระหายที่มีเพียงผู้ชายเข้าใจ!
“อยากตายสินะ! กล้าคิดอะไรกับผู้หญิงของฉัน!”
เย่เฉินกำหมัดแน่น ตอนที่เขาเห็นหมอนั่น มองๆ ไปเขาก็อารมณ์เสีย
แต่ว่าตอนนี้สวี่โม่โม่ยังไม่เปิดเผยจุดประสงค์ของพวกเขา ตอนนี้เขาจึงยังไม่ไปปรากฏตัวที่นั่น
ในวิลล่าของฉินหงเหยียน สวี่โม่โม่ก็เดินไปยังบริเวณที่เป็นห้องรับประทานอาหาร “เธอยังไม่ได้กินข้าวใช่ไหม? พวกเราก็ไม่ได้กินเหมือนกัน Bale เอาไวน์ Chateau Lafite Rothschild ปี 96 มา หงเหยียนเธอดื่มเป็นเพื่อนเราหน่อยสิ”
ฉินหงเหยียนลังเลน้อยๆ
“ทำไมเหรอ เราบินมาตั้งไกลจากต่างประเทศ แค่ไวน์สักแก้วเธอก็ไม่ยอมดื่มเป็นเพื่อนเราเหรอ?”
สวี่โม่โม่มีท่าทีไม่พอใจ
ฉินหงเหยียนจึงไม่กล้าผลัดผ่อนอีกต่อไป “ก็ได้ งั้นฉันดื่มเป็นเพื่อนพวกเธอก็ได้”
สวี่โม่โม่กุลีกุจอเปิดขวดไวน์ จากนั้นก็รินไวน์จนเต็มแก้วฉินหงเหยียน พลางแนะนำไปด้วย
“หงเหยียน Bale เพื่อนฉันน่ะเป็นคนฝรั่งเศส เขาไม่ใช่คนธรรมดาเลยนะ ที่บ้านเขาเป็นตระกูลที่รวยที่สุด 1 ใน 4 ของฝรั่งเศส มีทั้งเงินและอำนาจ ธุรกิจที่บ้านของเขามีทั้งไร่ไวน์ น้ำมัน แบรนด์เนม มีทรัพย์สินแสนล้านู่นล่ะมั้ง!”
เย่เฉินได้ยินแบบนี้ก็เลิกคิ้ว แล้วคิดตามอย่างละเอียด
เพราะด้วยความเข้าใจที่เขามีต่อประเทศฝรั่งเศส เท่าที่รู้ห้าตระกูลที่รวยที่สุดในฝรั่งเศสไม่มีตระกูลนี้
เกรงว่าที่สวี่โม่โม่จงใจพูดแบบนี้เพื่อให้ฉินหงเหยียนชอบเพื่อนตัวเอง
อย่างไรเสียผู้หญิงต่างก็นับถือผู้ชายที่มีเงินพวกนั้น ถ้ามีผู้ชายมาแสร้งทำเป็นคนร่ำรวย เพื่อลวงผู้หญิง ก็จะสำเร็จลุล่วงได้อย่างง่ายดาย
แต่ว่าเย่เฉินเชื่อมั่นว่าฉินหงเหยียนไม่ใช่ผู้หญิงที่หลงใหลไปกับเงินทอง
ยิ่งไปกว่านั้นฉินหงเหยียนก็เคยมีแฟนเป็นรวยๆ แบบเย่เฉิน เมื่อมองคนอื่นก็รู้สึกเหมือนเป็นคนธรรมดาทั่วไป!
“อ้อ งั้นเหรอ? ยินดีที่ได้รู้จักนะ ช่วงนี้ฉันกำลังเรียนภาษาฝรั่งเศสอยู่”
ฉินหงเหยียนส่งยิ้มให้เบลอย่างมีมารยาท แล้วทักทายอีกฝ่ายเป็นภาษาฝรั่งเศส
“แปลกจัง หงเหยียนเรียนภาษาฝรั่งเศสทำไมนะ?”
ก่อนนี้ตอนที่ยังคบหากับเย่เฉิน หญิงสาวพูดฝรั่งเศสไม่ได้ด้วยซ้ำ ตอนนี้เลิกกับเขา ตามหลักแล้วน่าจะยังอยู่ในช่วงระยะทำใจ ทำไมถึงได้มีแก่ใจไปเรียนภาษาฝรั่งเศสได้นะ?
สวี่โม่โม่แอบกล่าวกับตัวเองในใจ “ฉินหงเหยียน แกมันเป็นคนหน้าเงินจริงๆ พอฉันบอกว่า Bale เป็นคนฝรั่งเศส ก็รีบบอกเลยนะว่าเรียนฝรั่งเศสอยู่ เห็นชัดๆ ว่าหล่อนจงใจอ่อยเขา! ฮ่าๆ แบบนี้ก็ดีเหมือนกัน ฉันเองก็อยากให้แกนอนกับ Bale พอดี!”
สวี่โม่โม่แอบด่าฉินหงเหยียนในใจแล้วกล่าวออกมาทันที “Bale ในเมื่อหงเหยียนอยากเรียนภาษาฝรั่งเศส งั้นนายก็เป็นติวเตอร์ส่วนตัวให้เลยสิ”
Bale ชูแก้วไวน์ขึ้นมาแล้วส่งยิ้มกับฉินหงเหยียน “ได้เป็นติวเตอร์ของคนสวยแบบนี้ถือเป็นเกียรติของผมเอง Santé(ชนครับ)!”
ฉินหงเหยียนเองก็ชูแก้วไวน์ขึ้นมาชนกับอีกฝ่าย “Santé(ชนค่ะ)!”
สิ่งที่ทำให้เย่เฉินแปลกใจก็คือคิดไม่ถึงว่าฉินหงเหยียนจะพูดคุยกับชายชาวต่างชาติอย่างมีความสุข ส่วนฉินหงเหยียนเหมือนว่าจะกำลังเรียนภาษาฝรั่งเศสอยู่จริงๆ มักจะใช้ภาษาฝรั่งเศสคุยกับอีกฝ่าย อีกทั้งยังถามเรื่องราวความเป็นไปของฝรั่งเศสจากชายหนุ่มอีกด้วย
หลิวเจิ้งคุนและซีกวาต่างก็กำลังมุงดูจอภาพหน้าดำคร่ำเครียด
ถึงแม้ว่าพวกเขาจะได้ยินเสียงแต่ก็ไม่เข้าใจ เพราะพวกฉินหงเหยียนถ้าไม่ใช่ภาษาอังกฤษคุยกัน ก็ใช้ภาษาฝรั่งเศส จะใช้ภาษาจีนคุยกันสั้นๆ ก็มีแค่ตอนที่ฉินหงเหยียนกับสวี่โม่โม่คุยกันเท่านั้น
ซีกวากล่าว“ทำไมคุณหงเหยียนถึงคุยกับฝรั่งคนนั้นมีความสุขจังเลยล่ะครับ หรือจะชอบเขาแล้ว?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?)