หลิวเจิ้งคุนและซีกวาเดือดจนควันออกหู
ส่วนเย่เฉินเมื่อฟังจบ ก็ทนไม่ไหวเขาประเคนหมัดเข้าหน้าสวี่ฉู่หมิงทันที!
ผลัวะ!
เย่เฉินต่อยเข้าโครมจนแว่นตาของคนที่สูงวัยกว่าร่วงลงบนพื้น!
จากนั้นเย่เฉินก็คว้าเสื้อเชิ้ตอีกฝ่ายแล้วตะคอกใส่อีกฝ่ายอย่างดุดัน
“สวี่ฉู่หมิงไม่ไปลองส่องกระจกดูหน้าแย่ๆ ของตัวเองดูหน่อย หน้าตาห่วยๆ แบบนี้เนี่ยนะจะสวมเขาให้ผมได้? ไม่สำเหนียกตัวเองเลย ถุย!”
เย่เฉินไม่เชื่อที่เขาพูดว่าเคยนอนกับฉินหงเหยียนด้วยซ้ำไป
ถ้ามองจากในแง่ของเสน่ห์ที่มีกับเพศตรงข้าม ระหว่างพวกเขาสองคนแล้ว สวี่ฉู่หมิงสู้เย่เฉินไม่ได้แม้แต่ปลายนิ้ว
เหมือนกับผู้ชายที่ไม่ว่ายังไงก็ชอบผู้หญิงอายุ 18 ปี ผู้หญิงเองก็ไม่มีทางชอบผู้ชายแก่ๆ เหมือนกัน
บางทีพวกหล่อนก็คงจะชอบผู้ชายแก่ๆ ตอนยังเป็นสาววัยแรกแย้ม แต่พออายุ 30 หล่อนก็ชอบผู้ชายอายุน้อยร่างกายแข็งแรง
คิดไม่ถึงว่าสวี่ฉู่หมิงคนนี้จะโอ้อวดว่าตนเองสวมเขาให้เย่เฉิน ช่างไม่รู้จักประมาณตัวจริงๆ!
ไม่ใช่เย่เฉินดูถูกเขา แต่สวี่ฉู่หมิงไม่มีความสามารถนี้จริงๆ!
จะต้องมีสาเหตุอื่นที่สวี่ฉู่หมิงพูดไม่ได้แน่นอน!
และในตอนที่เย่เฉินอยากจะเค้นถามสวี่ฉู่หมิงนั้นเอง ทันใดนั้นเองก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น จากนั้นก็มีตำรวจในเครื่องแบบสองคนเดินเข้ามา
“พวกคุณทำอะไรกัน ทะเลาะวิวาทกันเหรอ รีบหยุดเลย!”
ตำรวจเห็นเย่เฉินคว้าคอเสื้อสวี่ฉู่หมิงก็รีบตะโกนห้าม
ซีกวารีบร้อนเดินมาแล้วหัวเราะ “มิได้ครับ มิได้ พวกเขาสองคนหยอกล้อกัน ไม่ได้วิวาทกันครับ”
เย่เฉินรู้ว่าในเมืองเสินเฉิง ไม่ว่าจะเส้นสายหรือว่าคอนเนคชั่น เย่เฉินไม่อาจสู้กับสวี่ฉู่หมิงได้เลย
วันนี้หากว่าจะดึงดันเอาชนะอีกฝ่ายเกรงว่าไม่ใช่เรื่องง่าย
ดังนั้นเย่เฉินถึงยอมคลายมือปล่อยอีกฝ่าย จากนั้นก็ก้มตัวลงไปเก็บแว่นตาของอีกฝ่ายที่หล่นลงบนพื้นขึ้นมา
“ชิ” สวี่ฉู่หมิงแค่นเสียง เมื่อเห็นเย่เฉินยอมก้มลงไปเก็บบุหรี่ให้เขาแต่โดยดีก็รู้เลยว่าอีกฝ่ายยอมอ่อนข้อให้เขาแล้ว!
แต่ไม่มีใครสังเกตเห็นเลยว่าตอนที่เย่เฉินก้มลงไปเก็บแว่นตานั้น มือขวาของเขาแอบล้วงเครื่องดักฟังที่มีขนาดประมาณเมล็ดถั่วเขียวในกระเป๋าเสื้อซ้ายซ่อนไว้ในง่ามนิ้ว
เย่เฉินเป็นฝ่ายสวมแว่นตาให้สวี่ฉู่หมิง จากนั้นยังแสร้งช่วยจัดสูทให้เขา แต่ความจริงแล้วเขากำลังแอบใส่เครื่องดักฟังที่มีขนาดเล็กที่สุดในโลกเข้าไปในกระเป๋าเสื้อสูทของอีกฝ่าย
จากนั้นเย่เฉินก็กล่าวพลางระบายยิ้ม “คุณตำรวจครับ ผมแค่หยอกคุณสวี่เท่านั้นเอง”
และตอนนี้เย่เฉินก็เป็นฝ่ายกุมความผิดของลูกสาวสวี่ฉู่หมิงเอาไว้ ดังนั้นเขาย่อมไม่กล้าพูดว่าเย่เฉินทำร้ายร่างกายเขา
สวี่ฉู่หมิงตอบ “เย่เฉิน ฉินหงเหยียนเลือกแล้ว อย่างไรเสียนายก็เป็นถึงประธานบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ เป็นคนใหญ่โตโด่งดังในวงการธุรกิจ หวังว่านายจะรู้ตัว อย่าทำพฤติกรรมเหมือนเด็กแบบนี้เลย!”
พูดจบสวี่ฉู่หมิงก็หันมองตำรวจทั้งสองคนแล้วกล่าว “คุณตำรวจครับ ต้องขอบคุณทุกท่านมากนะครับ เราไม่เป็นอะไรแล้วครับ ผมกลับไปพร้อมพวกคุณแล้วกัน”
หลังจากที่สวี่ฉู่หมิงเดินกลับไปกับตำรวจแล้ว ซีกวาก็สาวเท้าเดินไปหาเย่เฉิน “คุณชายเย่ ตอนนี้จะทำยังไงดี? สวี่ฉู่หมิงนี่ฉลาดเป็นกรด มีคนจำนวนตั้งมากคอยปกป้องเขา คราวหน้าเราสองคนน่าจะจับเขาไม่ได้แล้ว”
เย่เฉินกล่าวเสียงเรียบ “จับเขามาก็ไม่มีประโยชน์หรอก เขาไม่มีทางบอกความจริงกับฉัน แต่ฉันแอบหย่อนเครื่องดักฟังลงไปในกระเป๋าสูทเขา อีกเดี๋ยวเขาจะบอกฉันเอง!”
เย่เฉินเชื่อว่า จิ้งจอกเฒ่าแบบสวี่ฉู่หมิงต่อให้เค้นถามยังไงเขาก็ไม่มีทางพูดแน่ๆ
ไม่สู้แอบฟังเขาดีกว่า แบบนี้อาจจะได้ความจริงมากกว่า!
หลังจากนั้นเย่เฉินและพวกหลิวเจิ้งคุนต่างก็กลับไปพักผ่อนที่ห้อง เย่เฉินจัดแจงเปิดโปรแกรมของเครื่องแอบฟังในคอมพิวเตอร์ แล้วใส่หูฟังเพื่อเริ่มดักฟังสวี่ฉู่หมิง!
“เกล็ดหิมะโปรยปราย ลมวสันต์พัดผ่าน ผืนฟ้าที่เวิ้งว้าง”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?)