ตอนที่ 320 ฉินหงเหยียนที่หมดอาลัยตายอยาก!!
ในตอนที่ก่อนเขาจะออกมาจากเมืองหลวง เย่เฉินสั่งให้ซีกวายัดซูมู่หลินใส่เข้าไปใน UFO แล้วขับไปที่สถานีตำรวจ
คิดไม่ถึงว่าซูมู่หลินจะรอดปลอดภัยกลับมา
เห็นได้ชัดว่าศักยภาพของตระกูลซูนั้นไม่ธรรมดาเลยจริงๆ
ในห้อง VIP ของร้านอาหาร ซูมู่หลินอธิบายพลางระบายยิ้ม “อ้อ เย่เฉินเป็นพ่อของซือซือ เขาก็คือประธานบริษัทของเฉินเย่กรุ๊ป ไอ้คนสารเลวนั่น หลอกลวงพี่สาวผม แถมยังทำให้พี่สาวผมท้องมีลูกสาวอีก ได้ยินมาว่าคุณฉินเองก็เคยคบหากับเย่เฉินมาก่อนใช่ไหม?”
ฉินหงเหยียนเก้อเขิน คิดไม่ถึงว่าซูมู่หลินคนนี้จะพูดจาไม่อ้อมค้อมตรงไปตรงมา และถามหญิงสาวแบบนี้ต่อหน้าสวี่ฉู่หมิง !
หากเปลี่ยนเป็นหลิ่วอวี่เจ๋อล่ะก็เขาคงไม่กล้าเสียมารยาทแบบนี้!
ดูไปแล้วตระกูลซูคงจะเก่งกล้าสามารถกว่าตระกูลหลิ่วมาก ไม่เห็นหัวสวี่ฉู่หมิงอยู่ในสายตาด้วยซ้ำ
และในเวลานี้เองซูมู่ชิงก็เปิดปากกล่าว “มู่หลิน อย่าพูดจาเหลวไหล!”
จากนั้นหญิงสาวยังเป็นฝ่ายขอโทษฉินหงเหยียนด้วย “ขอโทษด้วยนะคะคุณฉิน เขาก็เป็นแบบนี้แหละปากไวไปหน่อย แต่ไม่ได้คิดอะไรไม่ดีค่ะ”
ฉินหงเหยียนยิ้มน้อยๆ พวกเขานั่งลงและเริ่มสั่งอาหาร
หลังจากสั่งอาหารเสร็จแล้ว สวี่ฉู่หมิงก็กล่าวด้วยรอยยิ้ม “คุณชายซู คุณหนูซู พวกคุณให้เกียรติผมขนาดนี้ ถึงกับมาร่วมงานแต่งงานของผมกับฉินหงเหยียนล่วงหน้าถึงสองวัน สองวันนี้พวกคุณอยากไปที่ไหนเดี๋ยวผมจัดการให้เอง!”
ซูมู่หลินมองออกไปนอกหน้าต่าง เอกลักษณ์ของร้านอาหารบนดาดฟ้าก็คือชมทิวทัศน์ที่สวยงามของเมือง
เมื่อมองออกไป ทิวทัศน์ที่สวยงามของเมืองเสินเฉิงและเขาอูถง หยดน้ำฝนเล็กๆ ที่โปรยปรายยิ่งทำให้ดูงดงามมากขึ้น
ซูมู่หลินกล่าวต่อ “เกรงว่าฝนตกรอบนี้จะไม่น่าหยุดในวันสองวัน เราอยู่ที่โรงแรมดีกว่า”
สวี่ฉู่หมิงก็ถามต่อ “แล้วเถ้าแก่ซูช่วงนี้เป็นอย่างไรบ้าง?”
ซูมู่หลินพยักหน้ารับ “คุณปู่ของผมแข็งแรงดีครับ เขายังวานให้ผมมาบอกว่า ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดวันที่ 15 เดือนมีนาคม ท่านจะมาร่วมงานเองครับ”
“จริงเหรอ?”
สวี่ฉู่หมิงดีใจอย่างยิ่งที่ตระกูลซูไม่เพียงแต่ส่งทายาทในรุ่นที่สามของตระกูลมาที่เมืองหลวงยังล่วงหน้าก่อนด้วย แถมไม่พอกระทั่งประมุขของตระกูลยังจะมาร่วมงานด้วยตนเองอีก นี่ทำให้สวี่ฉู่หมิงตกใจเมื่อได้รับเกียรติใหญ่หลวงขนาดนี้จากพวกเขา
เพราะสถานะของตระกูลซูนั้น ไม่จำเป็นต้องเอาอกเอาใจเขา
“มา คุณชาย คุณหนู ผมขอดื่มให้พวกคุณหนึ่งแก้ว ขอบคุณนะครับที่พวกคุณยอมมาเมืองเสินเฉิง!”
สวี่ฉู่หมิงยกแก้วเหล้าขึ้นมา ทำให้ฉินหงเหยียนต้องยกแก้วตามแล้วทั้งสี่คนก็เริ่มดื่มด้วยกัน
ถึงแม้ว่าจะเป็นตอนกลางวันแต่ว่าพวกเขาก็ยังคงดื่มกันเต็มที่ และอาจเพราะคนตระกูลซูเป็นเศรษฐีที่ร่ำรวยทำให้สวี่ฉู่หมิงและฉินหงเหยียนจำเป็นต้องเอาอกเอาใจพวกเขาอย่างเต็มที่ แสดงน้ำใจไมตรีในการเป็นเจ้าภาพอย่างสุดความสามารถ
ส่วนตัวซูมู่หลินเหมือนตั้งใจว่าหากกินอาหารมื้อนี้แล้วจะตรงไปนอนหลับที่โรงแรมทันที เขาถึงได้ยกดื่มเอาไม่หยุด
ในสี่คนนี้มีแค่ซูมู่ชิงเท่านั้นที่จิบทีละน้อย อย่างไรเสียเจ้าหล่อนก็พาลูกสาวมาด้วย
ไม่นานนักพวกเขาก็ดื่มกันไปไม่น้อย ซูมู่หลินพาซือซือออกไปดูวิวด้านนอก ส่วนสวี่ฉู่หมิงไปเข้าห้องน้ำ
ในห้องจึงเหลือแต่ฉินหงเหยียนกับซูมู่ชิง
ผู้หญิงสองคนที่หน้าตาสะสวยเผชิญหน้ากัน บวกกับความสัมพันธ์ที่เป็นเหมือนคู่แข่งในความรักกันกลายๆ ดังนั้นในห้องจึงตกอยู่ในความเงียบอยู่ครู่หนึ่ง
จากนั้นจู่ๆ ซูมู่ชิงก็เปิดปากกล่าว “คุณฉินคะ ทำไมคุณถึงเลิกกับเย่เฉิน? เมื่อหลายวันก่อนนี้เย่เฉินอยู่กับฉันตลอด เขาพูดถึงคุณทุกวัน บอกว่าคุณหน้าตาสะสวยและรักกันมากด้วย แถมยังบอกว่าพวกคุณกำลังจะแต่งงานกัน”
เย่เฉินเองก็ตั้งใจฟังอย่างละเอียด คิดไม่ถึงว่าซูมู่ชิงจะช่วยตนเองแก้ปัญหาเรื่องนี้
ฉินหงเหยียนกล่าว“เราไม่เหมาะสมกัน เขา…ดีมากแต่อายุน้อยเกินไปสำหรับฉัน ฉันชอบผู้ชายที่ค่อนข้างโตหน่อย”
พูดจบฉินหงเหยียนก็ย้อนถามซูมู่ชิง “พอจะเล่าเรื่องคุณกับเย่เฉินหน่อยได้ไหมคะ? ทำไม…คุณถึงได้มีลูกกับเขาได้?”
ถึงแม้ว่าฉินหงเหยียนจะไม่ใช่แฟนเย่เฉินแล้ว แต่หล่อนก็ยังคงรักชายหนุ่มอยู่ อยากจะรู้เรื่องราวความเป็นไปในอดีตของเขาอย่างมาก
ซูมู่ชิงกล่าว“เมื่อสี่ปีก่อนเขาข่มขืนฉัน”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?)