คุณนายหวังครอบครองทรัพย์สินพันกว่าล้านของตระกูลหวัง ถือว่ามีอิทธิพลมากพอตัวในตระกูลหวังหรืออาจจะถึงขั้นทั้งอวิ๋นโจว
เย่เฉินท้าทายคุณนายหวังหลายครั้ง ทำให้เจ้าตัวหงุดหงิดอย่างยิ่งยวด หล่อนจะต้องทำให้เย่เฉินยอมศิโรราบให้หล่อนให้ได้
ทว่าพุดเดิ้ลในอ้อมกอดคุณนายหวัง หลังจากเห็นเย่เฉินก็ดิ้นออกจากอ้อมกอดของคุณนายหวังแล้วกระโดดลงพื้น
“ฮัวฮัว!”
คุณนายหวังตกตะลึง รีบร้อนเรียกชื่อเจ้าหมาพุดเดิ้ลแต่ฮัวฮัวไม่ฟังแม้แต่น้อย มันวิ่งไปหาเย่เฉินอย่างรวดเร็ว!
เย่เฉินยิ้มน้อยๆ แล้วอุ้มฮัวฮัวขึ้นมา ส่วนเจ้าฮัวฮัวเห็นเขาก็ร่าเริงอย่างยิ่ง เลียมือเย่เฉินไม่หยุด
ตลอดเวลาสามปีเย่เฉินเป็นคนดูแลสุนัขตัวนี้มาโดยตลอด ให้อาหาร เก็บอึ หรือถ้ามันป่วยก็พามันไปหาหมอ
พูดได้ว่าเย่เฉินเป็นมนุษย์ที่ใกล้ชิดกับ‘ฮัวฮัว’ที่สุดในบ้านหลังนี้
ภาพตรงหน้าทำให้คุณนายหวังอับอายอย่างยิ่ง
สุนัขแสนรักไม่อยากอยู่กับตนเอง แต่กลับวิ่งเข้าไปหาเขยที่โดนขับออกจากบ้านอย่างเย่เฉิน
หวังซ่าวเจี๋ยเห็นเหตุการณ์เข้าก็กล่าวว่า “ฮ่าๆ หมานี่ชอบอยู่กับพวกเดียวกันจริงด้วย คุยภาษาเดียวกันนี่เอง จุดนี้พวกเราคงสู้ไม่ได้”
“ฮ่า ฮ่า” หวังหยวนหยวนและซีกวาต่างก็หัวเราะออกมาพร้อมกัน
เย่เฉินลูบฮัวฮัวไปพร้อมกับกล่าว “ผมอยู่บ้านนี้มาสามปี วันนี้กลับมาอีกครั้ง ทุกคนก็ยังเหน็บแนมผม มีแต่ฮัวฮัวที่ยังเหมือนเดิม ดูแล้วผมว่าคนบางคนแย่ยิ่งกว่าหมาเสียอีก!”
“สารเลว กล้าตีวัวกระทบคราดเหรอ!” หวังจื้อหย่วนกล่าวอย่างหงุดหงิด
ซูหลานเองก็โวยวาย “เขยขยะ! ยิ่งนานวันยิ่งไม่รู้จักเด็กรู้จักผู้ใหญ่!”
คุณนายหวังเองก็โกรธอย่างมากจึงย้อนถามเย่เฉิน
“แกยังมีหน้ามาพูดคำนี้อีก! หมาที่ฉันเลี้ยงมาสามปียังรู้ความไม่แว้งกัดฉัน แถมยังรู้จักกระดิกหางเอาใจฉัน แกล่ะ? ซ้อมหลานฉันแถมยังขโมยนาฬิกาของเรา! แกไม่รู้จักบุญคุณของข้าวแดงแกงร้อนที่แกกินมาตลอดเวลาสามปีนี้หรือไง!”
เย่เฉินยืดตัวตรง “ผมไม่เคยเอานาฬิกาของคุณไป!”
คุณนายหวังล้วงเอานาฬิการิชาร์ด มิลล์เรือนหนึ่งออกมาแล้วกล่าว “แล้วนาฬิกาเรือนนี้ไปอยู่ในมือของพี่กวาได้ยังไง? นาฬิการุ่นนี้เป็นรุ่นลิมิเต็ด ทุกเรือนจะมีสัญลักษณ์โดยเฉพาะ ไม่มีทางผิดแน่!”
‘ซีกวา’ เดินมาทางเย่เฉินพร้อมรอยยิ้มแล้วกล่าว “ไอ้หนู นายเป็นคนขายนาฬิกานี้ให้ฉันเอง นายยังบอกด้วยว่าจะเอาเงินที่ได้จากขายนาฬิกาไปเช่าโรงแรมซีจื่อหูสัปดาห์หนึ่ง ถ้าหากนายไม่ได้เงินห้าล้านหยวนจากฉัน งั้นนายลองบอกมาหน่อยว่านายเอาเงินมาจากไหน?”
ซีกวาและหวังซ่าวเจี๋ยสบตากันด้วยรอยยิ้ม บทในวันนี้พวกเขาเตรียมกันไว้นานแล้ว
พวกเขารู้ว่าเย่เฉินไม่ได้เอานาฬิกาไป แต่เงินที่เย่เฉินเอามาเช่าโรงแรม ไม่มีที่มาที่ไปแน่ชัด ถ้าไม่ได้ขโมยมาก็คงไปจี้ปล้นมา
เย่เฉินนิ่งไปแล้วถอนหายใจยาว
บางทีนี่เป็นเวลาที่จะให้พวกเขาได้รู้ความจริงสักที!
เย่เฉินพูดช้าๆ “เดิมทีอยากจะใช้สถานะคนธรรมดาคบหากับพวกคุณ คิดไม่ถึงว่าสิ่งที่ได้รับกลับมาเป็นคำเยาะเย้ย”
“ก็ได้ งั้นผมพูดตรงๆ เลยแล้วกัน ผมเป็นผู้บริหารของบริษัทหัวเซิ่งกรุ๊ป! ผมเป็นมหาเศรษฐี! เหตุผลนี้คงจะพอแล้วใช่ไหม!”
เย่เฉินพูดจบร่างกายก็สั่นเทิ้มอย่างตื่นเต้น!
เขารู้ว่าความจริงข้อนี้จะต้องมีผลกระทบอย่างใหญ่หลวงกับทุกคน โดยเฉพาะกับหวังเจียเหยา!
เขาตั้งหน้าตั้งตาคอยอย่างมากว่าหลังจากที่หวังเจียเหยาล่วงรู้สถานะของตนเองแล้วจะเสียใจหรือไม่ที่ทรยศเขา!
ทว่า…
“ฮ่าๆ…”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?)