เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?) นิยาย บท 422

สรุปบท ตอนที่ 422 สืบหาความจริง!: เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?)

สรุปเนื้อหา ตอนที่ 422 สืบหาความจริง! – เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?) โดย Internet

บท ตอนที่ 422 สืบหาความจริง! ของ เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?) ในหมวดนิยายAction เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย Internet อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

ตอนที่ 422 สืบหาความจริง!

เย่เฉินออกจากบ้านแล้วขึ้นรถไปโรงแรมที่กัวเยว่หมิงพักอยู่

กัวเยว่หมิงโดนจับอยู่สามวัน ที่บอกว่าถ้าเขาไม่คายความลับออกมาจะไม่ให้เขากินข้าวนั้น ที่จริงเย่เฉินแค่หลอกเขาเฉยๆ เขาเตรียมอาหารให้อีกฝ่ายอย่างโอฬารทุกมื้อ

ทว่ากัวเยว่หมิงคนนี้เป็นคนใจแข็ง หมอนี่กินแค่ผลไม้และของหวานเท่านั้น แต่ไม่แตะต้องอาหารอย่างอื่นเลย

เมื่อเห็นเย่เฉินล่วงหน้ามาที่นี่ กัวเยว่หมิงก็ตีหน้าตึง

“เย่เฉินตอนนี้ผมก็ยังขอพูดเหมือนเดิม รูปถ่ายพวกนี้ไม่ใช่ฝีมือผม ผมไม่เคยถ่ายรูปพวกนั้นเลย ผมไม่เคยล่วงเกินคุณหนูซู คลิปการรักษาทุกครั้งของคุณหนูซูก็มี คุณไปค้นดูก็ได้”

เย่เฉินก็เคยเปรียบเทียบคนในภาพ ก็พบว่าขาของคนในรูปนั้นดำและใหญ่กว่ากัวเยว่หมิงอย่างเห็นได้ชัด

กัวเยว่หมิงเป็นคนสะอาดอะอ้าน เจ้าสำอาง ไม่เคยทำงานหนัก ปกติจึงไม่ออกกำลังกาย

ดังนั้นจากการตัดสินแบบคร่าวๆ ต้องยอมรับว่ากัวเยว่หมิงเป็นคนบริสุทธิ์

“ไปเถอะ คุณหมอกัว” เย่เฉินกล่าวกับเขา

กัวเยว่หมิงถามเขา “ไปไหนเหรอ? คุณเชื่อผมแล้วเหรอ?”

เย่เฉินพยักหน้ารับ “ไปบ้านคุณไง คุณไม่อยากรู้เหรอว่าใครเป็นคนใส่ความคุณ ปั่นหัวผม?”

ดังนั้นเย่เฉินและกัวเยว่หมิงจึงเดินทางกลับมาที่บ้านของอีกฝ่าย

เย่เฉินแน่ใจแล้วว่าเขาไม่มีความผิดใดๆ ในเมื่อมีคนเคยไปที่บ้านกัวเยว่หมิง อีกทั้งยังเอารูปถ่ายพวกนั้นซุกเอาไว้ ย่อมต้องไม่ทิ้งร่องรอยอะไรเอาไว้แน่

อย่างแรกหัวเตียงของเขาไม่ใช่ว่าจะเห็นกันได้ง่ายๆ อย่างน้อยๆ ต้องใช้เวลาหลายสิบนาทีกว่าจะหาเจอ

ต่อมาหลังจากพบแล้วก็ต้องซุกภาพถ่ายเข้าไป

แปลว่าหลังจากออกมาแล้ว จะต้องไปหาผู้หญิงที่เรือนร่างไม่ต่างอะไรกับซูมู่ชิงมาถ่ายรูป

จากนั้นก็กลับไปที่นั่นอีกครั้งเป็นครั้งที่สอง

มาติดต่อกันสองครั้งย่อมต้องทิ้งร่องรอยอะไรเอาไว้แน่นอน

กัวเยว่หมิงเดินเข้าบ้านตนเองแล้วถาม “จะให้ผมไปที่นิติไหม ลองไปขอพวกคลิปจากกล้องวงจรปิดมาดู”

เย่เฉินกล่าว “สำหรับมืออาชีพแล้ว พวกเขาจะระวังกล้องวงจรปิดเป็นที่สุด และสิ่งที่พวกเขาชำนาญที่สุดก็คือหลบไม่ให้กล้องจับภาพได้ กล้องวงจรปิด รอยนิ้วมือ สิ่งของพวกนี้จะเป็นสิ่งที่เขาระวังที่สุด”

เย่เฉินเดินไปเรื่อยๆ ทันใดนั้นเองก็ได้กลิ่นแปลกๆ “กลิ่นอะไรทำไมเหม็นจังเลยนะ?”

กัวเยว่หมิงเก้อเกิน เขารีบสาวเท้าเดินขึ้นไปด้านแล้วลากถังขยะมาดู

“ต้องขอโทษด้วยนะครับ ผมขี้เกียจไปหน่อย ไม่ได้ทิ้งขยะหลายวัน”

เย่เฉินกล่าว “เทของในขยะออกมาดู”

“หา?”

กัวเยว่หมิงอิดออด ของในถังขยะมีแต่ของสกปรกจะให้เทออกมาทำไม?

ถังขยะที่บ้านของกัวเยว่หมิงล้วนแต่เป็นระบบสมาร์ทโฮม อีกทั้งยังมีฝาด้วย ไม่ใช่ขยะที่แค่มองดูก็จะเห็นขยะด้านใน

กัวเยว่หมิงต้องเทของออกมา เมื่อเขาเทออกมาแล้วทุกคนก็ต้องเอามืออุดจมูกเอาไว้

ซีกวากล่าวอย่างอิดหนาระอาใจ “คุณหมอกัวครับ ดูเหมือนคุณก็เป็นคนรักความสะอาดอยู่นะครับ แต่เก็บไข่เน่าไม่ทิ้งทำไม”

กัวเยว่หมิงรู้สึกเขินอาย

ทว่าเย่เฉินกลับไม่สนใจรายละเอียดเล็กน้อยพวกนี้

เข่าใช้เท้าเขี่ยถังขยะแล้วก็พบว่าด้านในนั้นมีเศษบุหรี่อยู่ด้านใน

“คุณหมอกัว คุณสูบบุหรี่หรือเปล่า?”

เย่เฉินถาม

“ฮัลโหล”

“เย่เฉิน ปู่เอง”

คนที่โทรมาไม่ใช่ปู่ของเขา แต่เป็นปู่ของซูมู่ชิง

“คุณปู่ครับมีอะไรเหรอครับ?”

“มากินข้าวที่บ้านฉันหน่อยสิ ฉันมีเรื่องจะคุยกับเธอ”

“ได้ครับ”

ช่วงนี้มีเรื่องเกิดขึ้นมากมาย ซูเจิ้นหางน่าจะต้องรู้เรื่องแล้ว เย่เฉินเองก็คงจะต้องอธิบายเรื่องพวกนี้ให้ชายชราฟัง

เมือ่มาถึงบ้านของซูเจิ้นหาง เย่เฉินก็ร่วมรับประทานอาหารง่ายๆ กับชายชราแล้วตรงเข้าไปในห้องทำงานของเขา

ซูเจิ้นหางถามว่า “ได้ยินมาว่าเธอพาซือซิอไปตรวจ DNA อีกแล้วเหรอ?”

เย่เฉินพยักหน้ารับ “ครับ ต้องขอโทษด้วยนะครับ ผมไม่ควรสงสัยใตัวหลานสาวคุณปู่ ครั้งนี้ผมตกหลุมพรางคนอื่นเข้าน่ะครับ”

น้ำเียงซูเจิ้นหางเรียบเฉย “เรื่องนี้ฉันเองก็พอจะเข้าใจบ้าง ในฐานะที่เป็นผู้ชาย ถ้าเห็นรูปพวกนั้นไม่ว่าใครก็คงจะต้องโกรธกันบ้างแหละ ก่อนนี้ฉันเองก็เคยกังวลใจเรื่องของมู่ชิงกับคนแซ่กัวนั่นว่าจะสนิทกันเกินไปหรือเปล่า แต่ว่าปู่ย่าพ่อแม่เขาต่างก็เป็นคนดี ดังนั้นฉันเลยสบายใจ เย่เฉินเอ๊ย เรื่องครั้งนี้ฉันจะไม่โทษเธอหรอกนะ อย่างไรเสียภรรยาเก่าก็เคยทำแบบนี้กับเธอมาก่อน เธอจะระแวงมากไปหน่อยก็เป็นเรื่องปกติ กลับกันหลังจากที่เธอสงสัยว่ามู่ชิงหลอกลวงเธอ แต่เธอกลับไม่ลงไม้ลงมือทำร้ายหล่อนและไม่ได้พูดจาทำร้ายจิตใจหล่อน ฉันได้ยินมู่ชิงเล่าว่าเธอบอกหล่อนว่าต่อให้ซือซือไม่ใช่ลูกสาวเธอ เธอก็ตั้งใจจะเลี้ยงแกเหมือนลูกสาวแท้ๆ ฉันได้ยินก็ดีใจมาก! เย่เฉินดูแล้วเธอเห็นมู่ชิงกับซือซือเป็นคนในครอบครัวของตัวเองแล้วจริงๆ สินะ”

เย่เฉินนิ่งเงียบไม่พูดอะไร

มันก็จริงที่ในตอนนี้แม้จะผ่านไปเพียงระยะเวลาสั้น แต่เย่เฉินก็เห็นมู่ชิงและซือซือเป็นคนในครอบครัวที่เขาไม่อาจเสียไปได้อีกแล้ว!

ซูเจิ้นหางกล่าวถาม “สืบเจอหรือยังว่าใครปั่นหัวเธอ?”

เย่เฉินชะงักไปครู่หนึ่ง แต่ก็ไม่ได้บอกชื่อพี่ชายของตนเองออกมา

ทว่าคิดไม่ถึงว่าซูเจิ้นหางกลับหัวเราะหึหึ แล้วถาม “ใช่พี่รองของเธอเย่เซวียนหรือเปล่า?”

เย่เฉินชะงักไปทันทีซูเจิ้นหางรู้ได้อย่างไร!

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?)