เย่เฉินเองก็ไม่สนใจหญิงชราที่เคยทำตัวเย่อหยิ่งไม่สนใจใครของตระกูลหวังเช่นกัน
เขาไม่ได้มาเพื่อใครในตระกูลนี้แต่เขามาเพื่อสุนัขตัวหนึ่ง
“ฮัวฮัวล่ะ?” เย่เฉินถามขณะมองหวังซ่าวเจี๋ย
หวังซ่าวเจี๋ยเป็นคนเดียวในตระกูลหวังที่เขายินดีจะพูดคุยด้วยในตอนนี้
หว่างซ่าวเจี๋ยรีบตอบทันที “ในห้องครับ พี่ไปหาน้องเจียเหยาเถอะครับ”
ซูหลานเองก็รีบเดินมาด้านหน้าพลางกล่าว “เย่เฉินอย่าโกรธเจียเหยาเลยนะที่ไม่ได้ออกมารับเธอ เมื่อวานเจียเหยาคุกเข่านานเกินไปน่ะ เมื่อวานปฐมพยาบาลกันที่โรงพยาบาลอยู่ตั้งหลายชั่วโมง ตอนนี้เพิ่งจะดีขึ้นมานิดหน่อยแต่ยังเดินไม่ได้”
เย่เฉินรู้ว่าหวังเจียเหยาร่างกายบอบบางต้องคุกเข่าอยู่ถึงสองชั่วโมง ตอนนี้ลุกขึ้นยืนก็อาจจะลำบากเอาการ
ทว่าคำพูดเหลวไหลเรื่องปฐมพยาบาลหลายชั่วโมง เย่เฉินไม่มีทางเชื่อ
สามปีที่ผ่านมาเขาเป็นคนดูแลหวังเจียเหยามาตลอด เขาฟูมฟักดูแลอีกฝ่ายอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง สุขภาพของอีกฝ่ายเป็นอย่างไรเขารู้ดีกว่าใครทุกคน
แต่เขาก็ไม่พูดอะไรและเดินตรงดิ่งเข้าไปในบ้าน
เพิ่งจะถึงชั้นแรกที่คุ้นเคย เย่เฉินก็เห็นหวังเจียเหยานั่งอยู่ที่โต๊ะอาหารกำลังอุ้มเจ้าฮัวฮัวไว้ในอ้อมแขน
ส่วนบนโต๊ะอาหารนั้นมีอาหารต่างๆ วางเรียงรายเต็มโต๊ะไปหมด สามปีที่แล้วไม่เคยจะอุดมสมบูรณ์แบบนี้มาก่อนด้วยซ้ำ
เย่เฉินเห็นที่ขาหน้าของเจ้าฮัวฮัวมีผ้าพันแผลพันอยู่จริงๆ เขารู้สึกสงสารมันอย่างยิ่งรีบเดินตรงดิ่งไปหามันทันที
เพิ่งจะไปถึงตัวฮัวฮัว สิ่งที่เย่เฉินเห็นเป็นสิ่งแรกคือรอยแผลบนขาหวังเจียเหยา
หวังเจียเหยาใส่กระโปรงสั้น เดิมทีเจ้าตัวคิดจะใส่ประโปรงยาวซ่อนรอยแผลนั้นสักหน่อยแต่ถูกซ่งหงเย่ด่าเสียยกใหญ่
ใส่กระโปรงยาวแล้วจะขอคะแนนความเห็นใจจากเย่เฉินได้ยังไง!
ทว่าพอเห็นรอยแผลบนขาหวังเจียเหยาแล้ว เย่เฉินกลับไม่ได้เห็นใจอีกฝ่ายแต่อย่างใด
เพราะตอนหล่อนเปิดห้องกับฟางเชาก็ไม่ได้คิดถึงความรู้สึกของเขาเช่นกัน!
“เย่เฉินนายมาแล้วเหรอ”
หวังเจียเหยาริมฝีปากซีดเผือดก่อนกล่าวด้วยน้ำเสียงที่ค่อนข้างแผ่วเบาและอ่อนระโหย
แต่หวังเจียเหยาที่ปากซีดเซียวใบหน้าซีดเผือดดูอ่อนระโหยไร้เรี่ยวแรงก็ยังสวยจนน่าหลงใหล
เย่เฉินไม่สนใจอีกฝ่ายและไม่ได้ไถ่ถามอะไร เขายื่นมือออกรับฮัวฮัวในอ้อมกอดอีกฝ่าย
หลังจากที่ฮัวฮัวเห็นเย่เฉิน มันก็ตื่นเต้นดีใจจนกระโดดโผเข้ามาหาเย่เฉิน
เห็นฮัวฮัวเดินมาหาด้วยขากะเผลกๆ เย่เฉินก็รู้ว่าฮัวฮัวต้องได้รับบาดเจ็บแน่นอน
เย่เฉินเจ็บปวดใจอย่างยิ่ง เขาไม่อยากให้คนตระกูลหวังทำอะไรแบบนี้อีกเพื่อหาเรื่องพบเขา
ดังนั้นเย่เฉินจึงกล่าวกับคุณนายหวัง “คุณนายหวัง ผมหวังว่าคุณจะขายสุนัขตัวนี้ให้ผม ผมยินดีจ่ายให้คุณล้านหยวน”
คุณนายหวังถือไม้เท้าเดินเข้ามาแล้วกล่าวกับเขาด้วยรอยยิ้ม “เสี่ยวเฉินเอ้ย นั่งลงกินอะไรก่อนสิ เราเป็นคนครอบครัวเดียวกัน ฮัวฮัวเป็นของย่า ย่อมแปลว่าเป็นของเธอเหมือนกัน พูดเรื่องซื้อเรื่องขายอะไรกัน ชักจะเกรงใจกันเกินไปแล้ว”
เย่เฉินหัวเราะเสียงเย็น “ผมและหวังเจียเหยาหย่ากันแล้ว ผมไม่ได้เป็นคนครอบครัวเดียวกันกับคุณสักหน่อย ผมไม่คิดจะกินอาหารมื้อนี้ด้วยซ้ำไป เดี๋ยวพอผมซื้อสุนัขตัวนี้แล้วก็จะไปทันที”
เย่เฉินแน่วแน่อย่างยิ่งทำให้คนตระกูลหวังเสียหน้าอย่างมาก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?)