คนตระกูลหวังเข้าใจทันที
พวกเขาเข้าใจเจตนาที่คุณนายหวังทำเช่นนี้อย่างรวดเร็ว!
สามปีที่ผ่านมานี้เย่เฉินอยู่กับเจ้าพุดเดิ้ลตัวนี้นานที่สุด
อีกอย่างมีคำพูดว่า ‘ตาหมามองคนต่ำ [1]’ แต่สุนัขในบ้านหลังนี้กลับมองเย่เฉินได้ทะลุปรุโปร่ง
ตั้งแต่ที่เย่เฉินมาตั้งแต่ครั้งก่อน ก็พอจะมองออกว่าเย่เฉินผูกพันกับเจ้าฮัวฮัวอย่างมาก
คุณนายหวังรู้ว่าตอนนี้มีเพียงสุนัขตัวเดียวที่ควรค่าให้เย่เฉินมาหาด้วยตนเอง!
ส่วนคนอื่นซึ่งรวมถึงตนเองไม่สำคัญเท่าสุนัขตัวหนึ่งด้วยซ้ำ!
ตีสามแล้วแต่ฝนยังตกอยู่
แต่สำหรับคนตระกูลหวัง คืนนี้เป็นคืนที่ไม่อาจข่มตานอน
คืนนี้ฟางเชาเองก็นอนไม่หลับทว่าไม่ใช่เพราะนอนไม่หลับ แต่ไม่ได้นอนเพราะต้องปั๊มลูกกับหญิงแปลกหน้าตามคำสั่งมารดา
……
เจ็ดโมงครึ่งของเช้าวันต่อมา
เย่เฉินเพิ่งขึ้นจะไปบริษัท หวังซ่าวเจี๋ยก็โทรมา
“มีอะไร?” เย่เฉินถามทันที
หวังซ่าวเจี๋ยกล่าวพลางหัวเราะ “พี่เฉิน ฟังจากเสียงพี่น่าจะตื่นนอนแล้วล่ะสิ ผมยังกังวลว่าผมโทรหาพี่เช้าขนาดนี้จะรบกวการพักผ่อนของพี่!”
“มีอะไร พูดออกมาตรงๆ เถอะ” เย่เฉินกล่าวด้วยความเหนื่อยหน่าย
เขาเองก็รู้ว่าตอนนี้หวังซ่าวเจี๋ยอยู่เป็นอย่างมากไม่โทรหาเขาไปเรื่อยสร้างความรำคาญใจให้เขา
หวังซ่าวเจี๋ยกล่าวว่า “คือแบบนี้นะ พี่เฉิน เจ้าฮัวฮัวพุดเดิ้ลของคุณย่าน่ะ เมื่อวานโดนกระถางตกใส่ขยับเท้าหน้าไม่ได้ น่าสงสารเชียว อีกอย่างไม่ยอมกินอะไรทั้งวันเลยครับ! คุณย่าบอกว่าตอนนี้เห็นจะมีแต่พี่ป้อน มันถึงจะยอมกินข้าว พี่เฉินครับ พี่พอจะมาบ้านคุณย่าสักหน่อยได้ไหมครับ?”
เย่เฉินพอจะฟังออกว่าคนตระกูลหวังอยากให้เขาไปที่บ้าน
ส่วนที่เจ้าฮัวฮัวบาดเจ็บนั้นอาจจะเป็นเรื่องโกหกหรืออาจจะเป็นเรื่องจริงก็ได้
ถ้าบาดเจ็บจริงๆ ก็คงจะไม่บาดเจ็บได้พอดิบพอดีหลังจากที่เย่เฉินประกาศตัวแบบนี้ เป็นไปได้ว่าพวกเขาจงใจทำร้ายมัน!
เย่เฉินโกรธจัดเขาถามทันที “ที่ฮัวฮัวบาดเจ็บเพราะพวกนายจงใจทำร้ายมันเพื่อให้ฉันไปที่ั่นั่นใช่ไหม?”
หวังซ่าวเจี๋ยรีบพูดทันที “จะเป็นไปได้ยังไง พี่เฉินครับ! ฮัวฮัวเป็นสุดที่รักของคุณย่าเลยนะครับพวกเราไม่กล้าทำร้ายมันหรอก”
เย่เฉินพูดเสียงเย็น “ทางที่ดีขอให้เป็นแบบนั้น! วันนี้ตอนบ่ายพอฉันทำงานเสร็จจะไปที่บ้านคุณนายหวัง นายบอกย่านายแล้วกัน ฉันจะเอาฮัวฮัวไปด้วย! ส่วนราคาของฮัวฮัวแล้วแต่จะเรียกเลย”
ตอนนี้ทั้งบ้านตระกูลหวังมีแค่สุนัขตัวนี้ที่เขาอยากได้
สามปีที่ผ่านมาพวกเขาอยู่เป็นเพื่อนกันและกัน เย่เฉินและฮัวฮัวต่างต้องการกันและกัน ใครก็ไม่อยากทอดทิ้งใคร
หวังซ่าวเจี๋ยดีใจอย่างยิ่ง “ได้ครับ งั้นเดี๋ยวพวกเราจะเตรียมอาหารเอาไว้รอพี่มา เจอกันนะครับพี่เฉิน!”
ผ่านไปครู่ใหญ่ เย่เฉินก็มาถึงบริษัทแล้วพบกับคนที่มารอเจอเขา
นั่นคือหลิ่วหรูซือมารดาของฟางเชา
หลิ่วหรูซือสวมชุดทำงานเมื่อเห็นเย่เฉินก็รีบเดินมาหาเขาพร้อมรอยยิ้ม “คุณเย่ ไม่รู้ว่าคุณพอจะมีเวลาไหมคะ ฉันอยากคุยกับคุณ”
เย่เฉินไม่ต้องเดาก็รู้ว่าหล่อนจะคุยอะไรกับตนเอง ซึ่งคงไม่พ้นการอ้อนวอนแทนลูกชายตนเอง ขอร้องให้เย่เฉินปล่อยเขาไป
ไม่ว่าคำพูดของหวังเจียเหยาจะจริงหรือไม่ก็ตาม ฟางเชาก็คิดจะแย่งภรรยาของเขา คนที่คิดจะแย่งผู้หญิงของเขาคนผู้นั้นต้องรับกรรมที่ตนเองก่อขึ้น!
การล้างแค้นของเย่เฉินยังไม่จบ!
ดังนั้นเขาจึงไม่อยากคุยเรื่องนี้กับหลิ่วหรูซือ
“ผมยุ่งมาก”
เย่เฉินตอบกลับเสียงเรียบแล้วไปที่ห้องทำงานทันที
“อย่างนั้นฉันจะรอคุณที่ล็อบบี้ ถ้าคุณเย่ไม่ยุ่งแล้วหวังว่าคุณจะมีเวลาให้ฉันสักเล็กน้อยนะคะ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?)