หวังเจียเหยาพูดไม่ออกเหมือนเป็นใบ้ แล้วนึกได้ว่าจิบแชมเปญในเวลานี้คงจะไม่ถูกนัก
แชมเปญ ซิการ์ล้วนใช้ตอนที่ต้องเฉลิมฉลอง เช่นงานแต่งงานหรือการได้แชมป์ NBA
มีที่ไหนญาติใกล้ตายแล้วมาดื่มแชมเปญ?
หวังเจียเหยาเก็บแชมเปญแล้วกล่าว “ที่รัก ใช้มือถือฉันเปิดบลูทูธไหม? ฉันอยากฟังเพลงน่ะ”
รสนิยมในการฟังเพลงของทั้งสองคนไม่เหมือนกัน การเดินทางครั้งนี้ต้องใช้เวลาสองชั่วโมงกว่าๆ ถ้าหากหล่อนต้องทนฟังเพลงที่ไม่ชอบไปตลอดทาง คาดว่าหล่อนคงเบื่อหน่ายมากทีเดียว
เย่เฉินไม่เคยบังคับให้คนอื่นฟังเพลงที่ตนเองชอบมาก่อน จึงปล่อยให้หวังเจียเหยาเชื่อต่อบลูทูธแล้วเปิดเพลง
แต่ใครจะคิดหลังจากที่หวังเจียเหยาเชื่อมต่อกับบลูทูธรถแล้ว เพลงแรกที่หล่อนเปิดกลับเป็นเพลง ‘ Thousand Sad Reasons’
หลังจากอินโทรเปียโนที่คุ้นหูดังขึ้น ก็พาทั้งสองคนย้อนกลับไปที่งานคอนเสิร์ตตอนนั้น
หวังเจียเหยายื่นมือมากุมแขนเย่เฉิน “ที่รักรู้ไหม? วันนั้นที่เห็นนายขึ้นไปเล่นเปียโนเพลงนั้นบนเวที ฉันก็หลงนายจนหัวปักหัวปำเลย นายเองก็จริงๆ เลย หลอกฉันเรื่องตัวตนของนายก็ช่างเถอะ ทำไมถึงต้องปิดบังเรื่องนายเล่นเปียโนเป็นด้วยล่ะ ถ้าฉันรู้ว่านายเล่นเปียโนเก่งขนาดนี้ ฉันต้องรักนายมากกว่านี้แน่เลย!”
เย่เฉินไม่ได้สะบัดมือหวังเจียเหยาทิ้ง อย่างไรเสียมือขาวนวลเนียนนี้ที่จับเขาอยู่ก็สบายมากทีเดียว หล่อนเป็นคนเสนอตัวจับมือเขาก่อนไม่ใช่เขาเสนอตัวเสียหน่อย ดังนั้นนี่ไม่ได้แปลว่าเขาอยากจะคืนดีกับหญิงสาว
เย่เฉินกล่าวว่า “รักมากกว่านี้แล้วจะทำไม? เพียงแค่ว่าเป็นแค่ความสามารถเล็กหน่อยเท่านั้นเอง ก็ยังไม่สามารถช่วยคุณเพิ่มสถานะของที่บ้านคุณได้หรอกนะ คุณก็ยังคงจะไปหาฟางเชาอยู่ดี หวังเจียเหยาหลังจากที่คุณไปเปิดห้องกับฟางเชาแล้ว ผมก็ไม่รู้สึกอะไรกับคุณอีกแล้ว!”
รถขับเคลื่อนไปด้วยความเร็ว 60 กม.ต่อชั่วโมงไปบนทางด่วน ส่วนหน้าต่างของด้านหลังรถปิดสนิท แต่คนด้านหน้ามองไม่เห็นแล้วก็ไม่ได้ยินบทสนทนาระหว่างทั้งสองคน
หวังเจียเหยาจับมือเย่เฉินไม่ปล่อย “ถ้าหากว่าไม่รู้สึกอะไรแล้วทำไมถึงต้องน้ำตาซึมด้วยล่ะ?”
เย่เฉินตกใจทันที คำตอบนี้ของหวังเจียเหยาไม่ได้พูดแค่เรื่องที่เย่เฉินร้องไห้เพราะหล่อนในคอนเสิร์ต แต่เป็นเพราะเนื้อเพลงของเพลง Listen Up[1]ซึ่งเป็นเพลงที่เย่เฉินเคยเปิดเมื่อก่อน
เย่เฉินตกใจเขามองหวังเจียเหยาแล้วกล่าว “ผมเคยเปิดเพลงนี้แค่ครั้งเดียวเท่านั้น ทำไมคุณถึง…”
เย่เฉินและหวังเจียเหยาอยู่ด้วยกันสามปี หากเป็นเพลงที่เย่เฉินเปิดบ่อย ๆ หวังเจียเหยาจะรู้เนื้อเพลงบ้างก็ไม่แปลกอะไร
แต่เพลงนี้เขาจำได้ว่าตนเองเคยเปิดในรถเพียงแค่ครั้งเดียวเท่านั้น
หวังเจียเหยาหยิบมือถือออกมา เปิดแอพพลิเคชั่น Q music กดเปิดเพลย์ลิสต์ ‘My favourite’ แล้วส่งให้เย่เฉินดู
“เพลงที่นายเคยฟังมาตลอดสามปีมานี้ ฉันเก็บเอาไว้หมดนั่นแหละ ถ้าฉันไม่รักนาย ถ้าฉันรังเกียจชาติกำเนิดของนาย ถ้าฉันเป็นผู้หญิงโลเลรังเกียจคนจนรักคนรวย ทำไมฉันถึงต้องทำแบบนี้!”
เย่เฉินมองหน้าจอโทรศัพท์หวังเจียเหยาด้วยความประหลาดใจ
‘Listen Up’ ‘The Morning Train’ [2]‘Wanmeixiatian[3]’ ‘The Scientist’…
เพลงพวกนี้เป็นเพลงที่เย่เฉินชอบทั้งนั้น
ในเวลานี้เองหวังเจียเหยาที่กำลังอิงแอบอยู่ในอ้อมอกของเย่เฉินก็เริ่มออดอ้อน “ที่รักคะฉันรู้ว่าฉันทำร้ายที่รัก ที่รักจะดุด่าตบตีฉันก็ได้ แต่อย่าไม่สนใจฉัน อย่าไม่อยากได้ฉันเลยนะคะ ”
จำเป็นต้องยอมรับว่าเพลงมีอิทธิพลกับอารมณ์คนมากทีเดียว
ยามฟังเพลง ‘Thousand Sad Reasons’ เย่เฉินก็นึกถึงคืนวันนั้น ตอนฟางเชาขอหวังเจียเหยาแต่งงาน เย่เฉินอยากจะพุ่งพรวดไปบอกความจริงกับหญิงสาวว่าเขาให้อภัยหล่อน!
เขารู้ว่าตนเองยังรักอีกฝ่ายอยู่ ไม่อยากให้หญิงสาวแต่งงานกับชายอื่น
ตอนนี้หญิงสาวกลับมาอยู่ในอ้อมกอดเขา เย่เฉินจึงไม่ผลักไสหล่อน
ในเมื่อแกล้งทำเป็นไม่หย่าก็ถือเสียว่าแสดงละครแล้วกัน!
รถขับไม่ได้ถือว่าเร็ว ความเร็วบนทางด่วนก็แค่ 110 หรือ 120 กม.ต่อชั่วโมง
ตอนห้าทุ่มครึ่ง พวกเขาก็มาถึงบ้านตระกูลโจวอันเป็นที่พักของคุณย่าเล็กของตระกูลหวัง
ตระกูลโจวถือว่าเป็นครอบครัวที่ร่ำรวยในเมืองหยางหนิง แต่ถ้าเทียบกับตระกูลหวังแล้วถือว่าด้อยกว่าไม่น้อยจนไม่อาจนับเป็นตระกูลใหญ่ได้
ดังนั้นพอรู้ว่าคนตระกูลหวังจะมา ลูกหลานตระกูลโจวต่างมารอรับพวกเขาที่หน้าประตูนานแล้ว
เย่เฉิน หวังเจียเหยาและคุณนายหวังลงรถแทบจะพร้อมกัน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?)