เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?) นิยาย บท 95

สรุปบท ตอนที่ 95 เป้าหมายก็คือทรัพย์สินแสนล้าน!: เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?)

ตอน ตอนที่ 95 เป้าหมายก็คือทรัพย์สินแสนล้าน! จาก เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?) – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

ตอนที่ 95 เป้าหมายก็คือทรัพย์สินแสนล้าน! คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายAction เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?) ที่เขียนโดย Internet เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

สองวันต่อมา หลังจากเย่เฉินและคนตระกูลหวังจัดการเรื่องงานศพคุณย่าเล็กเรียบร้อยก็เดินทางออกจากเมืองหยางหนิง

เย่เฉินและหวังเจียเหยานั่งจับมือกันอยู่บริเวณที่นั่งด้านหลังของมายบัคแลนดอเล็ตรุ่นลิมิเต็ดด้วยใบหน้าที่มีความสุข

หวังเจียเหยากล่าวปากถามด้วยท่าทีสนิทสนม “ที่รัก คืนนี้ฉันอยากชวนพวกเพื่อนสมัยมหาวิทยาลัยไปเลี้ยงฉลองกันที่บ้านเราได้ไหมคะ?”

ถ้าหากว่าเป็นห้องชุดในเขตซินเฉิง หวังเจียเหยาย่อมไม่จำเป็นต้องถามความเห็นของเย่เฉิน

คำว่า ‘บ้านเรา’ ที่หลุดมาจากปากหวังเจียเหยานั้นย่อมหมายถึงวิลล่าหรูหราในเขตเหมยกุยหยวนที่เย่เฉินเพิ่งซื้อ

ทั้งสองคนเป็นสามีภรรยากันแล้ว ถ้าอย่างนั้นบ้านของเย่เฉินย่อมเป็นบ้านของหวังเจียเหยาเช่นกัน

เย่เฉินไม่ได้มีท่าทีต่อต้านเมื่ออีกฝ่ายเรียกเขาว่าที่รักอีกแล้ว แต่กล่าวถาม “คุณย่าเล็กเพิ่งเสีย คุณฉลองอะไร?”

หวังเจียเหยากล่าว “ก็ฉลองที่ฉันเป็นผู้หญิงเต็มตัวแล้วไง! ก็ฝีมือนายนั่นแหละ ชิ!”

ขณะที่กล่าวประโยคสุดท้ายแล้วหวังเจียเหยาก็ทุบเย่เฉินน้อยๆ

เมื่อคืนวานในที่สุดความสัมพันธ์ฉันสามีภรรยาระหว่างเย่เฉินและหวังเจียเหยาก็กลายเป็นจริงเสียที นับว่าความสัมพันธ์ของพวกเขาสองคนก็พัฒนาไปอีกครั้ง

เย่เฉินไม่ได้อยากจะตะต้องหล่อน แต่หวังเจียเหยาเป็นฝ่ายลงมือก่อน

บวกกับที่เย่เฉินรับปากคุณย่าเล็กไว้ว่าจะให้โอกาสอีกฝ่ายอีกครั้ง

สามปีมานี้ไม่ได้นอนกับหวังเจียเหยา ถือเป็นความน่าเสียดายอย่างสูงสุดของเย่เฉิน เขาเองก็เป็นผู้ชายธรรมดาจะทนไหวได้อย่างไร

จากคืนวานทำให้เย่เฉินได้พิสูจน์แล้วว่าหวังเจียเหยาไม่ได้มีความสัมพันธ์อะไรกับฟางเชาจริงๆ เขาจึงรู้สึกมีความสุขอย่างยิ่ง

“เอาสิ ถ้าคุณอยากชวนเพื่อนมาเที่ยวก็เอาสิ”

เย่เฉินจำได้ว่าเพื่อนสมัยมหาวิทยาลัยส่วนมากของหวังเจียเหยาเป็นคนอวิ๋นโจว หรือไม่ก็พอเรียนจบแล้วก็อยู่ทำงานที่อวิ๋นโจวต่อ

ผู้หญิงพวกนี้เป็นพวกคนชอบดูถูกคนอื่น ก่อนนี้พวกหล่อนมักจะเหยียดหยามเขา เมื่อได้พบตนเองอีกครั้งจะมีท่าทีอย่างไรนะ!

“ขอบคุณนะคะที่รัก!”

หวังเจียเหยาจุมพิตบนหน้าผากของหวังเจียเหยาด้วยท่าทีรักใคร่

จากนั้นหวังเจียเหยาก็เอนศีรษะไปพิงไหล่ของเขาแล้วออดอ้อน “ที่รักฉันอยากไปวิลล่าของนายที่ภูเก็ตจังเลย! แล้วฉันก็อยากไปเจอคุณปู่ คุณย่า คุณพ่อ คุณแม่ของนาย แล้วก็พี่ใหญ่ พี่รอง น้องสาวคนที่สี่ ห้า หก เจ็ดของนาย! ฉันอยากให้พวกเขารู้ว่าฉันคือลูกสะใภ้ตระกูลเย่ของพวกเขา!”

……

เวลาหนึ่งทุ่ม ณ วิลล่าเขตเหมยกุยหยวน

ซ่งหงเย่รวมไปถึงหญิงสาวอายุยี่สิบต้นๆ ห้าหกคนมาที่วิลล่าของเย่เฉิน

บรรดาหญิงสาวเพิ่งจะย่างกรายเข้ามาในตัวบ้านก็เอ่ยชมการตกแต่งที่หรูหรา และข้าวของราคาแพง รวมไปถึงเฟอร์นิเจอร์ที่พวกหล่อนไม่แม้แต่จะเคยเห็นมาก่อนไม่ขาดปาก

“เจียเหยา สามีเธอนี่รวยจริงๆ ฉันไม่เคยเห็นบ้านที่หรูหราแบบนี้มาก่อนเลย!”

“คุณเย่นี่เหมาะสมกับพี่เจียเหยาจริงๆ พวกพี่ทั้งหน้าตาดีแล้วก็มีชาติตระกูลที่ดีด้วย วางแผนว่าจะมีน้องกันเมื่อไหร่เหรอคะ?”

“นั่นสิ จริงด้วย พวกเรารอกินบะหมี่ซั่ว[1]ของเธอสองคนอยู่นะ!”

หวังเจียเหยาลำพองใจเมื่อได้ยินคำชื่นชมของเพื่อนสมัยเรียน

ที่ผ่านมาหวังเจียเหยาเองค่อนข้างเขินอายที่จะพาเย่เฉินมาพบเพื่อนของหล่อน เพราะเพื่อนๆ เหล่านี้ต่างก็ชอบดูแคลนคนอื่นอย่างยิ่ง พวกหล่อนมักจะเหน็บแนมตนเองเรื่องที่เย่เฉินแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิง

ตอนนี้ทุกคนต่างก็รู้ว่าเย่เฉินเป็นประธานบริษัทหัวเซิ่งกรุ๊ป ทำให้เพื่อนๆ พวกนี้เริ่มริษยาหวังเจียเหยาขึ้นมา

หวังเจียเหยากล่าว “ฉันกับเย่เฉินเองก็เองวางแผนจะมีลูกกัน ถ้าโชคดีล่ะก็น่าจะใกล้ติดแล้ว”

ก่อนที่หวังเจียเหยากับเย่เฉินแต่งงานกันพวกเขาสองคนเซ็นข้อตกลงกันก่อนแต่งงานว่าทรัพย์สินของแต่ละคนจะไม่เกี่ยวข้องกัน

ในเมื่อไม่เกี่ยวข้องกันแปลว่าวิลล่าหรู รถหรูและบริษัทของเย่เฉินไม่เกี่ยวอะไรกับหวังเจียเหยา

ตอนที่เซ็นข้อตกลงฉบับนี้เป็นเพราะคนตระกูลหวังกลัวว่าเย่เฉินจะเอาเปรียบพวกเขา ตอนนี้ใครจะไปรู้ว่ามันจะกลับกันอย่างสิ้นเชิง

กลายเป็นเย่เฉินต่างหากที่กลัวว่าจะโดนคนตระกูลหวังเอาเปรียบ!

หวังเจียเหยากล่าวว่า “จริงสิ ฉันเคยถามเย่เฉิน เขาบอกว่าต้องหลังจากที่ไปพบคุณปู่เขาที่อังกฤษ ให้คุณปู่เขาพบฉันก่อนแล้วยอมรับฉัน ถึงจะรับฉันเป็นทายาทของตระกูลเย่”

ซ่งหงเย่กล่าวอย่างร้อนรน “แล้วทำไมเธอไม่รีบไปหาปู่เขาที่อังกฤษล่ะ! จะมาจัดงานปาร์ตี้อะไรกันแม่คุณหนู! เรื่องไหนที่สำคัญกว่ากัน? ฉันจะบอกเธอให้นะ เรื่องที่พวกเธอยังไม่หย่ากันไม่ใช่เรื่องที่สำคัญที่สุดอีกแล้ว ตอนนี้เรื่องที่สำคัญที่สุดก็คือทรัพย์สินของตระกูลเย่ต่างหาก!”

เพราะหวังเจียเหยาเตรียมตัวจะท้องจึงไม่ได้ดื่มเหล้า หล่อนดื่มน้ำแล้วกล่าว “รีบร้อนอะไร ตอนนี้ฉันกำลังจะมีลูก เย่เฉินรักฉันขนาดนี้ ตระกูลเย่ต้องยอมรับฉันแน่ สบายใจได้เลย”

ใบหน้าซ่งหงเย่เหนื่อยหน่าย “เธอนี่มันใจกว้างจริงๆ เธอไม่กลัวว่าฟางเชาจะมาหาเย่เฉินแล้วปูดเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนั้นของพวกเธอหรือไง?”

หวังเจียเหยาหัวเราะเสียงแผ่ว “ตอนนี้เขาเองยังเอาตัวไม่รอดเลยพูดความจริงอย่างนั้นเหรอ? เขากลัวอายุจะยืนหรือไง? หลิวเจิ้งคุนกับซีกวาเป็นลูกน้องของสามีฉันนะ!”

ซ่งหงเย่กล่าวด้วยความกังวล “ฉันได้ยินมาว่าเขาไปพบคนตระกูลหลิ่วที่เทียนไห่ ศักยภาพของคนตระกูลหลิ่วก็ลึกล้ำเกินจะคาด ต่อให้ตระกูลเย่โหดขนาดไหน ปู่ของเขาก็ย้ายไปอังกฤษตั้งนานแล้ว คิดว่าศักยภาพของพวกเขาในประเทศตอนนี้น่าจะด้อยกว่าตระกูลหลิ่วด้วยซ้ำ”

หวังเจียเหยายังคงไม่พอใจ “ในฐานะที่หลิ่วหรูซือเป็นคนของตระกูลหลิ่ว ไปขอร้องอ้อนวอนตระกูลหลิ่วยังไม่ได้ ฟางเชาแซ่ฟาง คนตระกูลหลิ่วไม่สนใจเขาหรอก สบายใจได้ ฉันรู้เรื่องตระกูลหลิ่วกับตระกูลฟางมากกว่าเธอ ตระกูลหลิ่วไม่มีทางล่วงเกินตระกูลเย่เพื่อฟางเชาหรอก”

ซ่งหงเย่ไม่พูดอะไรอีก หล่อนชูแก้วไวน์ขึ้น “อย่างนั้นก็ขอแสดงความยินดีล่วงหน้ากับเศรษฐินีสาวแสนล้านไว้ก่อนเลย”

“ขอบใจนะเพื่อนสาว รอฉันมีเงินแสนล้านจะให้เธอซักหลายพันล้านเอาให้เธอไว้เลี้ยงผู้ชาย ฮ่าๆ”

หวังเจียเหยายกแก้วน้ำขึ้นชนกับซ่งหงเย่

[1] บะหมี่ซั่ว (เป็นอาหารที่กินในงานแต่งงาน)

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?)