แสงไฟภายในห้องหวังเยี่ยนหรงสลัวน้อยๆ หญิงชราเอนตัวอยู่บนเตียง ดวงตาสะลึมสะลือ ลมหายใจแผ่วเบา
คุณนายหวังเฝ้าหล่อนอยู่ข้างเตียง ส่วนคนในตระกูลหวังคนอื่นๆ ยืนรวมกันอยู่อีกฟาก
ทุกคนต่างก็รอโทรศัพท์ของเย่เฉิน
พวกเขาทุกคนรู้ว่าเย่เฉินเป็นประธานผู้บริหารของบริษัทหัวเซิ่งกรุ๊ป เขาถือเป็นเบอร์หนึ่งในโลกธุรกิจของอวิ๋นโจว ด้วยศักยภาพของเขาแล้วน่าจะค้นหาความจริงได้อย่างรวดเร็ว
ทางฝั่งครอบครัวหวังจื้อหย่วนกระอักกระอ่วนอย่างมาก เพราะกลัวว่าข่าวที่เพื่อนตนเองหามาได้นั้นจะเป็นเรื่องโกหก
“สวรรค์ทรงโปรด พระพุทธองค์โปรดเมตตา ข้อมูลที่จื้อหย่วนได้มาจะต้องเป็นเรื่องจริง!”
ซูหลานสวดอ้อนวอนกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ไม่หยุด
“กริ๊ง กริ๊ง…”
คนแทบหยุดหายใจเมื่อเสียงโทรศัพท์หัวเหว่ยของเย่เฉินดังขึ้น!
เย่เฉินปรายตามองหน้าจอโทรศัพท์แล้วพบว่าสายที่โทรเข้ามานั้นไม่ใช่พ่อบ้านฟาง แต่เป็นเบอร์ที่ไม่ได้บันทึกเอาไว้
“ฮัลโหล” เขากดรับสาย
เสียงในสายตอบกลับมา “สวัสดีครับคุณเย่เฉิน ผมคือหัวหน้าสำนักงานกิจการพลเรือนประจำอวิ๋นโจว ผมชื่อช่ายหมิ่นครับ”
“หัวหน้าช่าย สวัสดีครับ” เย่เฉินเองก็กล่าวทักทายอย่างมีมารยาท
ช่ายหมิ่นกล่าวว่า “ต้องขออภัยอย่างยิ่งที่ต้องแจ้งให้ท่านทราบครับว่า ในระบบไม่มีบันทึกการจดทะเบียนหย่าของคุณกับคุณหวังเจียเหยา ส่วนเอกสารสำคัญการหย่านั้นคนของเราลอบปลอมแปลงขึ้นเองครับ ดังนั้นเอกสารสำคัญการหย่าของพวกคุณถึงไม่มีผลตามกฎหมาย คุณและคุณหวังเจียเหยายังเป็นสามีภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายครับ ส่วนใบทะเบียนสมรสและใบสำคัญการหย่าระหว่างคุณหวังเจียเหยาและคุณฟางเชาก็ไม่มีผลทางกฎหมายใดๆ เช่นกันครับ
คุณเย่ พวกเราเจอตัวพนักงานของสำนักกิจการพลเรือนที่ทำเรื่องหย่าให้พวกคุณแล้วครับ ผมสั่งพักงานหล่อนไปแล้ว พรุ่งนี้เช้าผมจะให้หล่อนอธิบายอย่างละเอียดและขอโทษพวกคุณ คุณเย่กับคุณหนูหวังเจียเหยา ถ้าพวกคุณสองคนจะทำเรื่องหย่าอีกครั้ง ผมจะเป็นคนทำให้คุณด้วยตนเอง รับรองได้เลยครับว่าเรื่องแบบนี้จะไม่เกิดขึ้นอีก”
เย่เฉินกล่าวเสียงเรียบ “เรื่องหย่า ถ้ามีโอกาสผมจะไปคุยกับคุณก็แล้วกัน”
เย่เฉินรู้สึกว่าหวังเจียเหยาในตอนนี้ไม่มีทางยอมหย่ากับตนเองแน่
หลังจากเขาวางสาย หวังเจียเหยาก็ถามอย่างตะขิดตะขวงใจ “เย่เฉินเป็นยังไงบ้าง?”
เย่เฉินกล่าวว่า “พวกเรายังเป็นสามีภรรยากันอยู่ เอกสารสำคัญการหย่าที่เราทำกันก่อนนี้รวมไปถึงทะเบียนสมรสและใบหย่าของคุณกับฟางเชา เอกสารทั้งหมดไม่มีผลทางกฎหมาย”
“เย้!” หวังเจียเหยากระโดดโลดเต้นอย่างดีอกดีใจในห้องของหวังเยี่ยนหรง
คนตระกูลหวังทุกคนนอกจากหวังหยวนหยวนแล้วต่างก็ดีใจกันทั้งสิ้น โดยลืมเลือนไปโดยสิ้นเชิงว่าข้างกายพวกเขายังมีหญิงชราที่กำลังใกล้ตายอยู่
“เย่เฉิน…”
และในเวลานี้เองจู่ๆ หวังเยี่ยนหรงก็เรียกเย่เฉินด้วยเสียงแผ่วเบา
เย่เฉินเดินไปหาหญิงชรา หล่อนดึงมือเย่เฉินเอาไว้ “ขอโทษด้วยนะ…พี่ชายย่าเขา…”
เย่เฉินระบายยิ้มแล้วกล่าว “ไม่เป็นไรครับคุณย่าเล็ก ผมนับถือคุณปู่ของเจียเหยามากเลยล่ะครับ เขาสายตากว้างไกล รู้ว่าคนตระกูลหวังทุกคนเป็นพวกเลือกปฏิบัติ พวกเขาจะต้องให้เจียเหยาหย่ากับผม ดังนั้นถึงได้ทำแบบนี้”
เย่เฉินติดกับเขาในใจย่อมไม่พอใจมากอยู่แล้ว
แต่ตอนนี้หวังเยี่ยนหรงกำลังจะตาย เย่เฉินเองจึงไม่อยากจะพูดจาทำร้ายจิตใจอีกฝ่าย ทำได้เพียงแดกดันคนตระกูลหวังเท่านั้น
หวังเยี่ยนหรงกล่าว “คงใกล้ถึงเวลาของย่าแล้วล่ะ… อีกเดี๋ยวก็จะได้ไปเจอพี่ชายแล้ว…ก่อนจะตาย…ย่ามีเรื่องอยากจะขอร้อง…”
เย่เฉินเองก็สะเทือนใจไม่น้อย เมื่อพบว่าหญิงชราเริ่มหายใจลำบากขึ้นทุกที
“คุณย่าพูดมาเถอะครับ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?)