หลังจากหมดงานวาดภาพที่วัด คนในอำเภอเฉินที่พอมีฐานะล้วนว่าจ้างให้ชิงหลานไปวาดภาพเหมือนของตน รายได้ที่นางคิดจะเก็บหอมรอบริบเพื่อเข้าเมืองหลวงจึงมากกว่าที่คิดไว้ ถุงเงินใส่ตำลึงเงินก็นางหนักอึ้งจนต้องไปหาแลกเป็นตำลึงทอง ชิงหลานที่เลือกกินเนื้อสัตว์และฝึกวิทยายุทธ์อยู่แทบทุกวันรู้สึกตื่นเต้นเมื่อพบว่าขีดความสูงที่นางให้เสี่ยวลิ่งช่วยวัดและเอามีดกรีดทำรอยบากไว้ที่เสาสูงขึ้นอีก
“คุณหนูท่านสูงขึ้นด้วยนะเจ้าคะ”
“ดีๆ สมกับที่ข้าทุ่มเทเงินทองเพื่อหาซื้อเนื้อสัตว์มากิน ข้าควรจะสูงมากกว่านี้” ชิงหลานมองเสี่ยวลิ่ง นางในชาติก่อนน่าจะสูงกว่าเสี่ยวลิ่งอยู่สักหน่อย เมื่อเทียบกับองค์ชายสิบห้าแล้วยามที่เป็นชิงหลานตัวนางอยู่แค่ระดับอก แต่ถ้านางตัวนางที่เป็นเผยมู่ซีต้องสูงถึงคางของเขาแล้ว
‘นี่ข้าจะต้องคิดทำไม? ว่าจะสูงอยู่ระดับใดของบุรุษผู้นั้น’
ร่างกายของชิงหลานเพิ่งสิบสี่ปี ซ้ำยังนอนป่วยมิได้กินอาหารดีๆ อยู่ตั้งหลายปีก็ย่อมจะทั้งเล็กและบอบบาง การที่นางจะฟื้นให้สาวน้อยผู้นี้รูปร่างสูงสง่าเหมือนเผยมู่ซีคงต้องใช้เวลาพอสมควร
“เสี่ยวลิ่ง แถวนี้มีคนขายนมแพะอยู่มิใช่หรือ? ข้าอยากได้มาดื่มเจ้าไปติดต่อขอซื้อมาให้ที”
“เจ้าค่ะ”
เผยมู่ซีในร่างชิงหลานคิดจะฟื้นฟูทั้งร่างกายและความงาม นางส่องกระจกดูเค้าโครงใบหน้าของชิงหลานก็พบว่าสาวน้อยผู้นี้ได้เคาความงามมาจากมารดาไม่น้อย จังฮูหยินนับว่าเป็นสตรีที่รูปร่างอ้อนแอ้นและใบหน้าสวยอย่างยิ่ง แม้จะมิได้สมบูรณ์พูนสุขเช่นสตรีในจวนใหญ่แห่งอื่นแต่นางก็ยังคงดูดีจนผู้คนเห็นก็รู้สึกชื่นชม ในเมื่อความงามก็เป็นอำนาจชนิดหนึ่ง หากคิดจะกลับไปแย่งที่ยืนในจวนใหญ่สกุลชิง เผยมู่ซีเห็นว่าจะให้ชิงหลานดูเป็นสตรีธรรมดามิได้ นางจึงสั่งให้เสี่ยวลิ่งหาซื้อสิ่งที่จะบำรุงผิวพรรณและร่างกายมาเพื่อทำให้ชิงหลานผู้นี้....กลายเป็นคุณหนูชิงในยามเข้าเมืองหลวง
มิใช่เพียงชิงหลานเท่านั้นที่หาเงินได้มาก ชาวเมืองเฉินล้วนได้ยินชื่อเสียงในการทำอาหารของจังฮูหยินว่าแม้แต่องค์ชายสิบห้าก็ยังทรงติดพระทัยจึงอยากจะชิมเป็ดอบรสเลิศบ้าง เหลาสุราของคุณชายใหญ่จั๋วมองเห็นเป็นโอกาสจึงสั่งซื้อเป็ดอบจากจังฮูหยินทุกวันเพื่อนำไปจำหน่ายโดยขอให้จังฮูหยินทำส่งตนเพียงเจ้าเดียว
ผ่านไปครึ่งเดือน จู่ๆ คุณชายใหญ่จั๋วก็นำสตรีนางหนึ่งมายังจวนสกุลชิง
“ชิงหลาน น้องชายได้ฝากคนผู้นี้มาไว้ที่เรือนเจ้า นี่เป็นจดหมายที่เขาฝากมาด้วยเจ้าจงอ่านดูเถิด”
สาวน้อยรับจดหมายด้วยความงุนงง สตรีตรงหน้าแต่งกายดี ลักษณะคล่องแคล่ว เหตุใดต้องเอามาฝากไว้ที่เรือนนางด้วย? จดหมายของจั๋วเหรินหาวบรรยายว่านางเป็นบุตรตระกูลช่างตีกระบี่ ครอบครัวของนางถูกไฟไหม้เรือนเสียชีวิตจนหมด ไร้ญาติขาดมิตร จั๋วเหรินหาวเห็นว่าชิงหลานต้องการคนอยู่เป็นเพื่อนมารดาจึงส่งนางมาให้พักพิงอาศัย ในส่วนของค่าเบี้ยหวัดนางนั้น นางไม่ต้องการขอเพียงมีที่อยู่ที่กินก็พอแล้ว
“คุณชาย จะดีหรือเจ้าคะ? หากว่านางไปทำงานก็น่าจะได้ค่าแรงไม่น้อย มาอยู่ในจวนของข้ายามนี้ยังไม่อาจจะจ่ายค่าจ้างผู้ใดเพิ่มได้”
ร่างบอบบางของสตรีที่ยืนตรงหน้ารีบคุกเข่าลง “คุณหนูชิง ได้โปรดรับข้าไว้ด้วยเถิดเจ้าค่ะ ข้ามิได้เพียงต้องการเงิน หากแต่ต้องการครอบครัวให้พึ่งพาอาศัย คุณชายน้อยจั๋วบอกกับข้าว่าพวกท่านสองแม่ลูกเป็นผู้มีคุณธรรมและไว้ใจได้ จึงได้ส่งข้ามาที่นี่ เรื่องข้าแรงนั้นข้าไม่เอาเจ้าค่ะ ขอเพียงให้ที่พักกับอาหารแก่ข้าก็พอ”
เสี่ยวลิ่งรู้สึกถูกชะตาหญิงที่มาใหม่ “เจ้าชื่ออะไรหรือ?”
“ข้าชื่อเจิงอิ่ง”
“คุณหนูเจ้าคะ รับนางไว้เถิด นางเป็นสตรีตัวคนเดียวอาจจะหวาดกลัวที่จะไปอยู่กับผู้อื่น ในเมื่อคุณชายน้อยจั๋วส่งมาแล้วก็ให้นางอาศัยอยู่กับเราไปก่อน หากต่อไปภายหน้านางมีที่หมายอื่นก็ค่อยให้นางไป”
“เจ้ารับไปเถิด เจิงอิ่งผู้นี้เดินทางมาจากเมืองหลวงพร้อมกับท่านพ่อของข้า ท่านพ่อเป็นผู้รับฝากมาจากเหรินหาวด้วยตนเอง เจ้าวางใจได้”
ชิงหลานหันไปสบตากับมารดา จังฮูหยินเห็นว่าสตรีตรงหน้าดูเป็นคนซื่อๆ จึงได้พยักหน้า “ให้นางอยู่กับพวกเราเถอะหลานเอ๋อร์ สตรีตัวคนเดียวจะตระเวนไปอยู่กับผู้อื่นอาจจะไม่สบายใจ”
เสี่ยวลิ่งตื่นเต้นยิ่งกว่าผู้ใด นางไม่เคยมีพี่สาวน้องสาว เมื่อสอบถามแล้วเจิงอิ่งอายุเท่ากันกับนาง เสี่ยวลิ่งก็ยิ้มร่ารีบช่วยเจิงอิ่งยกห่อผ้าใหญ่เข้าไปดูห้องนอน
“ประเดี๋ยวให้เหล่าลู่ทำเตียงให้อีกสักอัน เจ้ากับข้าจะได้นอนห้องเดียวกันแต่คนละมุมดีหรือไม่?”
“ดี! ข้านอนที่ใดก็ได้ทั้งนั้น” เจิงอิ่งมองไปรอบๆ ห้อง นางเห็นว่าเครื่องนอน ม่านมุ้งในห้องนี้ล้วนเป็นของใหม่ “เจ้าโชคดีนัก ฮูหยินคงจะใจดียิ่งเครื่องนอนของเจ้าดูใหม่และน่าใช้มากเทียว”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดอีกคราเป็นชายาตัวร้าย(มีEbook)