ชิงหลานลอบสังเกตเจิงอิ่งอยู่เช่นกัน หลังการผ่านความตายนางมิได้ไว้ใจผู้ใดง่ายๆ จั๋วเหรินหาวบอกว่าจะส่งสาวใช้จากจวนมาให้แต่เหตุใดจึงได้ส่งสตรีจากเมืองหลวงมาแทน? เจิงอิ่งผู้นี้บอกชิงหลานว่านางเคยเลี้ยงม้าและขออาสาดูแลเจ้าสายลมให้ ชิงหลานจึงแอบกระซิบให้เหล่าลู่คอยดูให้ดีว่าเจิงอิ่งเอาสิ่งใดให้ม้าของนางกินบ้าง?
เจิงอิ่งรู้ตัวว่าเหล่าลู่คอยจับตามองนางจึงพยายามทำตัวให้ปกติ นางสังเกตได้ว่าฝีเท้าของเหล่าลู่เบากว่าผู้อื่น....คนผู้นี้เห็นทีต้องทดสอบเสียหน่อย!
หลังจากนางอยู่มาได้ครบเจ็ดวัน เจิงอิ่งจึงคิดจะหาวิธีส่งข่าวกลับไปให้เจ้านายได้ทราบ หากแต่เหล่าลู่คอยประกบนางอยู่ตลอดเวลาจนไม่สะดวก ค่ำคืนนั้นหลังจากที่ทุกคนในเรือนเข้าห้องนอนแล้ว เจิงอิ่งแอบย่องออกจากห้องนอน นางเดินไปหลังเรือน คืนนี้ท้องฟ้ากระจ่างแม้ไม่ต้องจุดคบไฟก็พอมองเห็นสิ่งรอบข้างได้รางๆ พลันเห็นร่างสูงใหญ่ของเหล่าลู่ออกเดินตรวจตราเข้ามาใกล้ นางจึงรีบเทน้ำร้อนลงในอ่างแล้วผสมน้ำเย็นลงไป แสร้งทำเป็นงัดหน้าต่างห้องอาบน้ำที่อยู่ด้านหลังเรือนนอนแล้วปีนเข้าไป
เหล่าลู่เห็นหลังคนผู้นั้นไวๆ
‘นั่นมันเจิงอิ่งนี่นา!’
เขารีบตามไปดูเห็นนางปีนเข้าหน้าต่างห้องนั้นก็แปลกใจ นางทำตัวเหมือนเพิ่งไปข้างนอกแล้วเพิ่งกลับเข้ามา พ่อบ้านหนุ่มลืมไปว่าหน้าต่างตรงนั้นคือห้องอาบน้ำ บานหน้าต่างถูกนางแง้มเอาไว้ เหล่าลู่จึงไปลอบมอง แต่แล้วเขาก็ต้องชะงักกับภาพตรงหน้า
เจิงอิ่งที่รูปร่างอรชรถอดเสื้อนอกออกจนหมด แผ่นหลังของนางมีเพียงสายเอี๊ยมเส้นเล็กผูกตรงคอและด้านหลัง ส่วนล่างมีเพียงกางเกงขาสั้นสีขาว มองเห็นขายาวเรียวได้ชัดเจน ผมยาวถูกรวบไปด้านหน้า นางยืนอยู่หน้าอ่างอาบน้ำที่มีไอร้อน คุกรุ่น
เหล่าลู่ที่ยังมิได้แต่งงานเห็นร่างเปลือยของสตรีตรงหน้าก็ถึงกับตกตะลึง แม้เขาจะเคยไปเที่ยวหอโคมเขียวกับอาจารย์ลู่เมื่อหลายปีก่อนไม่กี่ครั้ง แต่ก็ไม่เคยคิดว่าตนเองจะกลายเป็นบุรุษที่ต้องมาลอบมองสตรีอาบน้ำเช่นนี้ ครั้นเขาคิดจะผละออกจากหน้าต่าง เจิงอิ่งกลับคว้าเสื้อคลุมมาสวมแล้วกระโจนออกมาเสียก่อน!
“นั่นใคร?” เสียงนางมาถึงพร้อมกับมือของนางคว้าข้อมือของเหล่าลู่ไว้ได้
“อ๊ะ! ข้าไม่ได้ตั้งใจ แค่ออกมาตรวจรอบจวนเฉยๆ” ใบหน้าของเหล่าลู่แดงก่ำ การถูกนางจับได้ว่ามาแอบยืนดูเช่นนี้ช่างน่าละอายยิ่งนัก
สีหน้าและแววตาของเจิงอิ่งดูตกใจอย่างยิ่งใบหน้าของนางแดงยิ่งกว่าเหล่าลู่เสียอีก “ทะ ท่านเห็นร่างข้าหมดแล้วหรือ?”
เหล่าลู่รู้สึกผิดในทันทีใบหน้าของเขาถอดสี สำหรับสตรีอย่างนางการถูกบุรุษเห็นเรือนร่างก็เท่ากับสูญเสียความสาวให้กับคนผู้นั้นแล้ว สตรีที่ถูกกระทำเช่นนี้ล้วนอับอายจนไม่กล้าสู้หน้าผู้คนได้อีก
“ขะ ข้าขอโทษ มันเป็นเรื่องบังเอิญจริงๆ”
นางยืนอยู่ด้านในแต่มือยังยึดข้อมือเขาไว้แน่น เสื้อคลุมของนางปิดมาหลวมๆ ทำให้มองเห็นเอี๊ยมสีชมพูดันเนินเนื้ออวบอิ่มอยู่รำไร เหล่าลู่มองแล้วรู้สึกร้อนวูบวาบอยู่ในอกลุกลามไปทั่วตัว
“ข้าคงไม่กล้าสู้หน้าผู้คนแล้ว!” เจิงอิ่งน้ำตาหยดแมะ มองหน้าเหล่าลู่ด้วยสายตารันทด ดวงหน้างดงามนั้นเศร้าหมอง
“เจ้าจะให้ข้ารับผิดชอบหรือ?”
เจิงอิ่งสบตากับเหล่าลู่ “ท่านมีภรรยาหรือยัง?” นางแสร้งถามทั้งๆ ที่รู้เรื่องของเขามาก่อนแล้ว พ่อบ้านคนซื่อที่ไม่เคยสนใจสตรีคนใด
“ยัง! ข้าอยู่ดูแลจวนนี้มาตั้งแต่ยังรุ่นๆ มิเคยมีภรรยา”
“ท่านก็รู้ว่าหากมีคนรู้เรื่องนี้เข้า ข้าย่อมไม่มีหน้าไปสู้ผู้คนได้อีก” น้ำเสียงของนางสั่นเครือซ้ำน้ำตายังไหลอาบแก้ม
เหล่าลู่จากกำลังจะผละไปค่อยๆ ยืดร่างกายโน้มไปข้างหน้า เอื้อมมืออีกข้างไปกุมมือนางไว้ มองใบหน้าเศร้าโศกของสตรีตรงหน้าอย่างจนใจ
“เอาเถิด หากเจ้าไม่รังเกียจข้า ข้าก็จะแต่งงานกับเจ้าแต่ขอเวลาข้าสักหน่อย หากไปเรียนให้ฮูหยินทราบในยามนี้เกรงว่า....”
“ขอเพียงท่านสัญญาว่าจะรับผิดชอบข้า...เรื่องนี้ข้าจะเก็บไว้เป็นความลับ”
เหล่าลู่พยักหน้ารับทั้งที่รู้สึกมึนงง...เขาแค่เพียงจะออกมาตรวจความเรียบร้อยรอบจวนเหตุใดยามนี้ถึงได้กลายเป็นสามีผู้อื่นเสียเล่า?
“เจิงอิ่ง! เจิงอิ่ง! เจ้าอาบน้ำอยู่หรือ?”
“เสี่ยวลิ่งมาแล้ว ท่านรีบไปเสียเถอะ หากนางเห็นเขาคงไม่ดีแน่!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดอีกคราเป็นชายาตัวร้าย(มีEbook)