กำหนดการเข้าคฤหาสน์สกุลจงมาถึง จังเสี่ยวลิ่งแต่งกายด้วยเสื้อผ้างดงามและเครื่องประดับเข้าชุดตามที่คุณหนูของนางเลือกสรรให้ สายวันนั้นในตอนที่จงเหยียนย่างเท้ามาถึงห้องโถงจวนสกุลจ้าวเมื่อเห็นสตรีร่างบางในชุดสีเขียวอ่อนงดงามพร้อมเครื่องประดับพริบพราวทั้งศีรษะและแขน จงเหยียนที่เงยหน้าขึ้นมองยังอดตะลึงในความงามของคู่หมั้นของตนมิได้
“เสี่ยวลิ่ง เจ้าแต่งตัวเช่นนี้ช่างงดงามนัก” จงเหยียนเดินตรงเข้าไปกุมมือหญิงคนรัก ในใจก็ปลาบปลื้มที่ตนช่างตาถึง สาวใช้จวนสกุลชิงผู้นี้แค่เพียงซ่อนความงามไว้ใต้เสื้อผ้าเก่าที่ดูปอนๆ เมื่อจับนางมาขัดสีฉวีวรรณและสวมแพรพรรณเลอค่า ตัวนางก็เปล่งประกายราวกับคุณหนูในห้องหอจากตระกูลใหญ่ๆ
แม้จงเหยียนจะพบเจอสตรีงดงามทั้งในวังและนอกวังมามากมาย ทว่าเขากลับรู้สึกสะดุดตาในตัวเสี่ยวลิ่ง นางน่ารัก เฉลียวฉลาด ขยันขันแข็งและกตัญญู ยิ่งได้เห็นนางช่วยงานชิงหลานอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย จงเหยียนก็ยิ่งประทับใจ เหนือไปกว่านั้นเขาเคยเห็นนางนั่งอ่านตำราจึงยิ่งพอใจที่นางอ่านออกเขียนได้
“เป็นเพราะท่านหาเครื่องประทินโฉมให้ข้าไม่ขาด ทั้งเสื้อผ้าและเครื่องประดับก็ล้วนแต่รบกวนท่าน ข้าเองก็ต้องขอบคุณท่านอย่างยิ่งนะเจ้าคะ” เสี่ยวลิ่งก้มลงดูชุดที่ตนเองสวมใส่และกำไลหยกที่ข้อมือตนเองด้วยความภาคภูมิใจ นี่ล้วนเป็นสิ่งที่แสดงว่าว่าที่สามีของนางให้ความรักความเมตตานาง
“ทุกสิ่งล้วนสมควรจะเป็นของเจ้า...ข้าเองก็เต็มใจจะหามาให้ ขอเพียงเจ้ามีความสุขข้าก็ยินดี”
ชิงหลานรีบกระแอมกระไอ “องครักษ์จง ดูท่าท่านจะทำให้ข้าต้องกลายเป็นแจกกันหรือเก้าอี้ประดับห้องนี้ไปเสียแล้ว”
จงเหยียนหัวเราะแก้เก้อ หันไปทางคู่หมั้นคนงาม “พวกเรารีบไปกันเถอะ ผู้อาวุโสในตระกูลกำลังรอเจ้าอยู่”
ยิ่งรถม้าใกล้ถึงคฤหาสน์สกุลจง จังเสี่ยวลิ่งก็ยิ่งตื่นเต้น ใจหน้าระทึกราวกับกลองศึกสีหน้าก็ดูเผือดสีลงจนองครักษ์หนุ่มต้องยื่นมือมากุมมือของนางไว้
“มือเจ้าเย็นเฉียบเชียว ตื่นเต้นมาเลยหรือ?”
“เจ้าค่ะ! ข้ากลัวท่านพ่อกับท่านแม่ของท่านจะไม่ชอบข้า”
“เจ้าจะห่วงไปไย? ในเมื่อท่านแม่ยอมหมั้นเจ้าให้กับข้าก็เท่ากับคนทั้งเรือนยอมรับเจ้าเป็นสะใภ้ตระกูลจงแล้ว ทำใจให้สบายเถิด...ไหนลองสูดลมหายใจเข้าลึกๆ สักสามสี่ครั้งซิ!”
เสี่ยวลิ่งทำตามที่คู่หมั้นหนุ่มบอก สีหน้าของนางเริ่มมีเลือดฝาดปรากฏ จงเหยียนหัวเราะหึๆ ยื่นหน้ามาหอมแก้มนางฟอดใหญ่
“ข้าอยากรีบแต่งงานกับเจ้าแล้วสิ! คงต้องเร่งท่านแม่สักหน่อย”
เสี่ยวลิ่งหน้าแดงก่ำ รถม้าชะลอความเร็วลงเพราะถนนก่อนจะถึงคฤหาสน์สกุลจงมีรถม้าวิ่งสวนกันไปมาหลายคัน องครักษ์หนุ่มรวบคู่หมั้นเข้ามาในอ้อมกอดจูบนางอย่างดูดดื่มอีกครู่ใหญ่ ร่างของเสี่ยวลิ่งอ่อนระทวยอยู่ในอ้อมแขนของเขา
เมื่อรถม้าหยุดลง จงเหยียนจึงปล่อยนางเป็นอิสระ
“คราวนี้เจ้าคงไม่ตื่นเต้นแล้วใช่หรือไม่?” สีหน้าของคู่หมั้นหนุ่มกรุ้มกริ่มยิ้มล้อเลียนจนนางต้องบิดตัวด้วยความขัดเขิน
จงเหยียนยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เมื่อประคองนางลงจากรถม้า เขาเดินจูงมือคู่หมั้นคนงามเดินตรงเข้าไปในเรือนใหญ่ตระกูลจง ห้องโถงของอาคารกลางโอ่อ่างดงามยิ่ง คหบดีจงซึ่งขึ้นชื่อว่าหนึ่งในพ่อค้าคนสำคัญของเมืองหลวง แม้จะไม่ค่อยชอบออกงานสังสรรค์แต่ก็เข้าร่วมการบริจาคเงินเพื่อการกุศลมิใช่น้อย จึงได้รับการยกย่องและนับหน้าถือตาจากแวดวงคนชั้นสูง บิดามารดาของจงเหยียนนั่งจิบน้ำชารออยู่พร้อมด้วยเหล่าวงศาคณาญาติที่มีคฤหาสน์อยู่ในเมืองหลวง พวกเขาล้วนอยากเห็นคู่หมั้นที่บุตรชายคนที่สี่ของคหบดีจงดื้อด้านจะหมั้นให้ได้ ยิ่งได้ยินว่านางเป็นสาวใช้จากอำเภอเฉินก็ยิ่งอยากจะรู้ว่าสตรีผู้นี้มีดีที่ใดกันจึงได้ทำให้คุณชายจงผู้ไม่เคยต้องตาสตรีใดมุ่งมั่นจะแต่งงานในยามนี้
คหบดีจงวางถ้วยชาหอมกรุ่นละมุนลิ้นลงบนโต๊ะ พลางมองบุตรชายคนเล็กที่จูงสตรีงดงามด้วยความเอาใจใส่ เมื่อคนทั้งสองก้าวข้ามธรณีประตูใกล้เข้ามา ผู้นำสกุลจงคนสำคัญจึงได้อมยิ้มมองนางตั้งแต่หัวจรดเท้า
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดอีกคราเป็นชายาตัวร้าย(มีEbook)