หงฮูหยินรู้สึกแปลกใจที่ภรรยาของคหบดีจงส่งพ่อบ้านตระกูลจงให้มาเรียนเชิญนางให้นางรีบไปคฤหาสน์ตระกูลจงในทันที เมื่อไม่กี่วันก่อนพวกนางเพิ่งจะพบปะพูดคุยดื่มชาสังสรรค์สอบถามความหลังกันหยกๆ โฉวฉ่วงเสียสหายเก่าของนางเพิ่งจะเดินทางกลับเมืองพยัคฆ์เหินได้เพียงสองวัน เหตุใดโฉวฮูหยินที่เป็นพี่สาวของโฉวฉ่วงเสียจึงนึกอยากจะพบนาง?
พ่อบ้านตระกูลจงยืนรอฮูหยินท่านรองแม่ทัพมู่ด้วยใจจดจ่อ
“ฮูหยินขอรับ! ข้าน้อยคิดว่าโฉวฮูหยินคงอยากจะให้ท่านไปดูคู่หมั้นของคุณชายน้อยน่ะขอรับ”
“เอ๋?” หงฉู่เย่นึกถึงเรื่องที่โฉวหลี่เล่าว่าคู่หมั้นของบุตรชายคนที่สี่นั้นเป็นเด็กกำพร้า นางก็พลันรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมา...หรือว่าโฉวหลี่จะพบเบาะแสสำคัญ
“ได้ๆ ข้าไปเดี๋ยวนี้” นางรีบหันไปสั่งสาวใช้คนสนิทและผู้อารักขาให้เตรียมรถม้าพร้อมออกเดินทางไปยังคฤหาสน์สกุลจง นางหันไปหาพ่อบ้านประจำจวนที่กำลังยืนรอฟังคำสั่ง “เจ้าเรียนท่านรองแม่ทัพด้วยว่าข้าไปพบโฉวฮูหยินมีธุระสำคัญ ไม่นานก็จะกลับ”
“ขอรับ!”
เสี่ยวลิ่งถูกว่าที่แม่สามีรั้งตัวเอาไว้จนบ่ายคล้อย จงเหยียนเห็นมารดาของตนดูสนใจคู่หมั้นอย่างมากก็เป็นกังวลเกรงว่าท่านแม่จะรังแกหญิงคนรัก
“ท่านแม่ ท่านคงมิได้คิดจะทำอย่างบทงิ้วหรอกนะขอรับ!”
“อย่างไรหรือ?” โฉวฮูหยินบอกบุตรชายด้วยความฉงน นางรั้งตัวเสี่ยวลิ่งเอาไว้รับประทานอาหารเที่ยวและยังไม่ยอมปล่อยให้นางกลับไปเพราะรู้สึกตื่นเต้นแทนหงฮูหยินสหายเก่าแก่ของน้องสาว
“ก็อย่างเช่น พอคล้อยหลังข้าท่านก็ดูหมิ่นเหยียดหยามนางจนนางทนไม่ไหวต้องขอถอนหมั้นไปเอง หรือไม่ก็เสนอทรัพย์สินเงินทองให้นางไปจากข้า?”
โฉวฮูหยินหัวเราะคิกๆ ออกมา “เจ้าเพ้อเจ้อหรือไร? แม้ข้าจะถ่วงเวลาเรื่องแต่งงานของเจ้าแต่ก็มิได้คิดจะทำเช่นนั้นสักหน่อย ก็แค่ห่วงว่านางจะทำให้เจ้าขายหน้าจึงได้คิดจะหาคนมาสอนนางให้ปฏิบัติตนให้เหมาะสมกับตำแหน่งฮูหยินเอกของเจ้า ข้ายังไม่เคยเจอนางจะตกลงใจเรื่องแต่งงานปุ๊บปั๊บได้อย่างไร? ยามนี้ได้พบตัวคนแล้วก็พอใจอยู่ที่นางงดงามเหมาะสมกับเจ้า กริยามารยาทก็เรียบร้อยถือว่าใช้ได้”
“จริงนะขอรับท่านแม่! ท่านมิได้คิดจะรังแกเสี่ยวลิ่งของข้าจริงๆ นะ”
“ไปๆ เจ้ามีการงานใดก็ไปทำเถอะ แม่รับรองว่าที่รั้งตัวนางไว้มิได้คิดรังแกนางแม้แต่น้อย”
เมื่อได้รับคำยืนยันจากมารดา จงเหยียนจึงเดินเข้าไปหาเสี่ยวลิ่งที่นั่งอยู่ในห้องนั่งเล่นอีกห้องหนึ่งแล้วลานางไปเข้าเฝ้าองค์ชายสิบห้า ใจเขายังไม่คลายกังวลนักเพราะนี่เป็นครั้งแรกที่มารดาของเขาพบนางและนางก็ยังไม่คุ้นเคยกับคฤหาสน์ตระกูลจงแห่งนี้
“เสี่ยวลิ่ง หากว่าท่านแม่ของข้าพูดจาทำร้ายจิตใจเจ้าหรือเอาทรัพย์สินมาว่าจ้างให้เจ้าไปจากข้า เจ้าก็อย่ากังวลใจรอข้ากลับมาจัดการทุกอย่างเข้าใจหรือไม่?”
“ไอหยา! ท่านแม่ของท่านคิดจะทำเช่นนั้นหรือเจ้าคะ?”
“ข้าไม่แน่ใจเหมือนกันแต่ก็พูดเผื่อเอาไว้ก่อน ไม่ว่าจะเกิดเรื่องเช่นใดเจ้าก็ต้องบอกข้าและรอข้า ห้ามตัดสินใจไปจากข้าเข้าใจหรือไม่?”
ยามนี้จงเหยียนนึกเสียใจที่ไม่รับเอาคุณหนูชิงมาด้วย หากว่าชิงหลานมาเป็นเพื่อนเสี่ยวลิ่งเขาก็คงสบายใจกว่านี้ คุณหนูชิงเป็นคนคิดอ่านละเอียดรอบคอบ หากเกิดเรื่องอันใดในคฤหาสน์แห่งนี้เขาเชื่อว่านางจะรับมือได้ทุกรูปแบบ!
“ข้ารับปากท่าน...ไม่ว่าคนในเรือนท่านคิดจะแยกข้าออกจากท่าน ข้าก็จะไม่ไปทั้งนั้นเพราะว่า....” นางเว้นระยะก่อนจะช้อนตามองจงเหยียนอย่างมีความหมาย องครักษ์หนุ่มกลั้นหายใจรอให้นางพูดต่อ “เพราะว่า...ข้าคงข้าสามีที่ใจดีและชอบซื้อของให้ข้าอย่างท่านไม่ได้อีกแล้ว”
จงเหยียนถอนหายใจด้วยความเสียดาย “เฮ้อ! ข้านึกว่าเจ้าจะพูดคำที่ซาบซึ้งกว่านี้เสียอีก เสียแรงข้าตั้งใจฟัง”
เสี่ยวลิ่งมองซ้ายมองขวาเมื่อเห็นว่าสาวใช้เรือนโฉวฮูหยินรู้ความนัก เมื่อเห็นคุณชายน้อยเข้ามาหานางพวกเขาก็หลบออกไป นางจึงยื่นหน้าไปจูบแก้มเขาเบาๆ
“ท่านไปเข้าเฝ้าองค์ชายเถิด ข้าจะอยู่ทางนี้จะรับมือมารดาท่านให้ดีที่สุด”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดอีกคราเป็นชายาตัวร้าย(มีEbook)