ฝนซาลงจนใกล้จะหยุด หมิงเฉิงอวี่ทรงลูบหลังร่างน้อยในอ้อมกอดให้นางคลายสะอื้น “ฝนใกล้จะหยุดแล้ว เดี๋ยวข้าจะพาเจ้าลงจากรถม้า”
ชิงหลานยุดแขนองค์ชายสิบห้าเอาไว้ “หม่อมฉันไม่อยากลืมตาเพคะ”
“เดี๋ยวข้าอุ้มเจ้าลงไปเอง หลับตาไว้เช่นเดิมเถิด” นางรู้สึกคล้ายได้ยินเสียงหัวเราะพอใจเบาๆ ของชายหนุ่ม
ฝนหยุดแล้วองครักษ์ทั้งหลายจึงได้เห็นองค์ชายสิบห้าอุ้มสาวน้อยที่แอบอิงอยู่ในอกลงจากรถม้า...จงเหยียนกับเสี่ยวลิ่งหันไปสบตาและยิ้มให้กัน ดูเหมือนว่าคนทั้งสองจะมีใจตรงกันแล้ว คุณหนูชิงจึงยินยอมให้องค์ชายอุ้มง่ายดายเช่นนี้
“กังเฉินเอาม้ามาให้ข้า”
องค์ชายไม่ยอมให้เท้าของนางถูกพื้น ทรงอุ้มนางรออยู่กระทั่งองครักษ์กังจูงม้ามาเทียบข้าง พระองค์จึงส่งนางขึ้นบนหลังม้า
“เดี๋ยวเราขี่ม้ากลับด้วยกัน”
เสี่ยวลิ่งและจงเหยียนจึงต้องขึ้นรถม้าไป ส่วนกังเฉินเอาม้าของตนให้องค์ชายทรงขี่ประกบข้างคุณหนูชิง
“คุณหนูของเจ้าดูมีความสุขเช่นนี้คงจะไม่ปฏิเสธองค์ชายอีกแล้วกระมัง?”
“ท่านว่าคุณหนูกับองค์ชายจะลงเอยกันหรือเจ้าคะ?” แม้จะรู้ว่าองค์ชายสิบห้าทรงพอพระทัยในตัวคุณหนูของตนแต่เสี่ยวลิ่งก็อดจะกังวลถึงสิ่งที่คุณหนูเคยบอกมิได้
“เรื่องนั้นไม่มีผู้ใดรู้หรอก เราต้องคอยดูกันต่อไปอาจจะเป็นเหมือนเรื่องของเราสองคนก็ได้” จงเหยียนพูดแล้วก็ยิ้มหวานให้กับคู่หมั้น “เสี่ยวลิ่งในรถม้ามีแต่เราสองคนแล้วนะ”
“ทำไมหรือเจ้าคะ?” เสี่ยวลิ่งทำตาโต
จงเหยียนรีบดึงนางมานั่งตัก “ข้าขอชื่นใจเจ้าสักหน่อยเถิด ในนี้ไม่มีผู้ใดเห็นหรอกนะ นะ” ชายหนุ่มไม่รอให้นางตอบรับหรือปฏิเสธ เขาหอมแก้มนางทั้งซ้ายและขวา เสี่ยวลิ่งใบหน้าแดงก่ำ
“ท่านล่ะก็ เรายังไม่ได้เข้าพิธีกันเลยนะเจ้าคะ”
“กว่าจะรอจนถึงวันวิวาห์ข้าก็ขาดใจตายพอดี ข้าก็แค่อยากหอมเจ้า อยากจูบเจ้าไม่ได้หรือ?” ใบหน้าของชายหนุ่มงอง้ำ เสี่ยวลิ่งเห็นแล้วก็ขำคิกๆ
“ดูท่านสิ! ใครๆ ก็ว่าท่านเป็นองครักษ์จอมโหด หากมีคนมาเห็นยามนี้เข้าคงจะเอาไปล้อกันแน่ๆ” นางยกมือขึ้นประคองใบหน้าองครักษ์หนุ่มเอาไว้
“ข้าขอจูบเจ้าอีกทีหนึ่งเถิด ทีเดียวก็พอ”
เสี่ยวลิ่งหน้าแดงก่ำ พยักหน้าน้อยๆ ชายหนุ่มจึงยื่นมือไปประคองท้ายทอยให้หน้าก้มลงมารับจุมพิตของเขา จงเหยียนจูบคู่หมั้นสาวอย่างดูดดื่ม
“อะแฮ้ม! ข้ายังอยู่นี่ทั้งคนนะจงเหยียน” เสียงคนควบคุมม้าอยู่หน้ารถร้อง ดังขึ้นทำเอาเสี่ยวลิ่งสะดุ้งนางกระซิบบอกให้จงเหยียนปล่อยนางลงจากตักกลับไปนั่ง ที่เดิม
“เจ้ากินอิ่มกว่าผู้ใดยังจะขัดขวางความสุขเล็กๆ น้อยๆ ของข้าอีก...ช่างใจดำนัก” จงเหยียนแหวกม่านรถม้าออกมากัดฟันกรอดๆ ใกล้หูกังเฉิน
หัวหน้าองครักษ์ที่มือดึงบังเหียนม้าหันมายักคิ้วให้สหาย “เจ้าลงมือไม่เด็ดขาดล่ะสินะ ทำอยู่แค่นี้เมื่อใดจะได้แต่งงานเสียที”
จงเหยียนเลิกคิ้วขึ้นสูงลดเสียงต่ำลงจนกะว่าคนข้างในรถม้าไม่ได้ยิน “เจ้าหมายถึงเรื่องใด?”
ในหมู่องครักษ์ทั้งหลายต่างกล่าวขานกัน ไม่ว่ากังเฉินไปที่ใดนางคณิกาผู้งดงามอันดับแรกๆ ของสำนักโคมเขียวนั้นต่างพากันติดอกติดใจอยากจะดูแลคนผู้นี้นัก หลายนางพยายามทอดกายให้กับองครักษ์กังโดยที่เขาไม่ต้องเสียเงินเสียทองแต่อย่างใด บุรุษทั้งหลายอยากรู้ความลับนี้ยิ่งว่ากังเฉินทำเช่นใดจึงได้กลายเป็นยอดบุรุษที่สตรีเฝ้าใฝ่ฝันเยี่ยงนี้ เหล่าสตรีในเมืองหลวงที่ถูกซุบซิบนินทาว่ามีสัมพันธ์สวาทกับบุรุษโดยไม่แต่งงานหลายนางก็มีข่าวพัวพันกับกังเฉินผู้นี้ด้วย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดอีกคราเป็นชายาตัวร้าย(มีEbook)