“มิได้เจ้าค่ะ ข้าน้อยมีชีวิตอยู่รอดมาจนถึงวันได้พบหน้าบิดามารดาที่แท้จริงก็เพราะสกุลจังเมตตา ความลำบากแค่นั้นจะนับเป็นกระไรได้?”
“ข้ารู้มาว่าช่วงที่หลานเอ๋อร์ป่วย เจ้าเองก็พลอยลำบากไปด้วย ข้าเองก็ละอายแก่ใจยิ่งนักที่มิอาจปกป้องพวกเจ้าสามคนได้”
“ช่างมันเถอะเจ้าค่ะ เรื่องพวกนั้นมันผ่านไปแล้ว”
เผยมู่ซีได้ยินคนทั้งสองที่สนทนาทั้งน้ำตารื้นก็พลอยสลดหดหู่ใจไปด้วย นางนึกถึงสภาพที่นางฟื้นมาจากความตายแล้วพบว่าตนเองอยู่ในร่างคุณหนูชิงผู้น่าสงสาร สภาพการใช้ชีวิตของจังฮูหยินกับมู่เยี่ยนฟางในตอนนั้นนับว่าทุลักทุเลยิ่งนัก ดีที่มีอาจารย์ลู่ของนางคอยดูแลคนทั้งสามมาโดยตลอด ทั้งปกป้องให้อยู่รอดปลอดภัยจากมือสังหาร ดูแลความเป็นอยู่ในชีวิตประจำวัน หาบน้ำตัดฟืนดูแลรอบบ้าน รวมถึงให้ จังฮูหยินหยิบยืมเงินเพื่อประคับประคองฐานะในยามขาดแคลน
“ท่านพ่อเจ้าคะ ท่านได้เรียนให้ท่านปู่กับท่านย่าทราบหรือยังว่าท่านจะแต่งงานกับท่านแม่”
“หึๆ เจ้าคิดว่าหากพ่อเรียนผู้เฒ่าทั้งสองตรงๆ พวกเขาจะยินดีหรือ? สำหรับเรื่องนี้คงต้องทำอย่างที่เขาว่า...สุนัขแอบอ้างบารมีเสือ”
“อย่างไรหรือเจ้าคะ?” ชิงหลานทำหน้าฉงน มิใช่ว่าใต้เท้าชิงผู้นี้ก็เป็นพยัคฆ์ด้วยมิใช่หรือ? ในเมื่อยามนี้เป็นถึงเจ้ากรมกลาโหมแล้วยังจะคิดพึ่งพาผู้ใดอีก?
“คงจะมีหนทางเดียวที่จะทำให้ท่านผู้เฒ่าทั้งสองยอมรับเรื่องนี้โดยดุษฎี”
ณ ท้องพระโรงในวังหลวง
หลังจากการประชุมราชกิจช่วงเช้าเสร็จสิ้น หมิงฮ่องเต้ทรงคิดจะรีบกลับไปหารือกับฮองเฮาเรื่องการควานหาตัวอดีตอาลักษณ์อาวุโสที่กำลังสงสัยกันว่าคือผู้ปลอมแปลงลายมือของฮูหยินผู้เฒ่าแห่งสกุลจู ขันทีก็รีบเข้ามากราบทูลว่าใต้เท้าชิงมีเรื่องด่วนจะขอเข้าเฝ้า
“ได้! ไปเชิญเข้ามา”
หมิงฮ่องเต้ทรงเลิกพระขนงเล็กน้อยเมื่อขันทีขานว่าองค์ชายสิบห้าก็มาเข้าเฝ้าพร้อมกับเจ้ากรมกลาโหมด้วย
“องค์ชายสิบห้าเจ้ากับใต้เท้าชิงนี่มาด้วยธุระเดียวกันหรือ?”
“พะยะค่ะ เรื่องที่ใต้เท้าชิงจะมาทูลขอในวันนี้หากว่าไม่สำเร็จย่อมส่งผลร้ายต่อกระหม่อมอย่างหลีกเลี่ยงมิได้พะยะค่ะ”
“ใต้เท้าชิง ท่านลองว่ามาซิ! เรื่องใดของท่านจึงมีผลต่อน้องชายของเจิ้นด้วย”
ใต้เท้าชิงจึงได้กราบทูลถึงเรื่องที่ตนเองพบว่าฮูหยินเอกซิวซีชวนลอบคบชู้สู่ชายโดยจับได้คาหนังคาเขาขณะนางกำลังกกกอดอยู่กับบุรุษผู้นั้นบนเตียงในสภาพเปลือยเปล่าเสื้อผ้ากระจัดกระจายตามพื้น เขาได้พาพ่อบ้านประจำจวนและบ่าวรับใช้ทั้งหลายออกไปช่วยเหลือโดยเข้าใจว่านางถูกปองร้ายแต่เมื่อไปถึงกับได้พบกับความอัปยศอดสูแทน
เมื่อตรวจสอบเรื่องราวทั้งหมดแล้วกลับพบว่านางแอบนัดพบบุรุษผู้หนึ่งอยู่หลายครั้งแล้ว โดยคนทั้งสองอาศัยชั้นสองของเหลาหงส์ขาวเป็นสถานที่เริงรักกันเรื่องนี้เสี่ยวเอ้อยืนยันตรงกันถึงสองคน แม้ครั้งนี้จะจับกุมตัวชายชู้ผู้นั้นยังมิได้แต่ก็ประจักษ์แก่สายตาพยานทุกคนแล้วว่าซิวฮูหยินมีชู้จริง!
“ด้วยเหตุนี้กระหม่อมจึงมีความประสงค์จะนำตัวภรรยาคนแรกและบุตรสาวกลับสู่จวนสกุลชิง ทว่าบิดามารดาของกระหม่อมไม่ชอบที่ภรรยาผู้นี้ไร้ยศฐา บรรดาศักดิ์แต่ตัวกระหม่อมนั้นได้ให้สัญญากับนางไว้ว่าจะตบแต่งนางเป็นฮูหยินเอกตั้งแต่เริ่มคบหากัน แต่เพราะเกิดเหตุไม่คาดฝันทำให้กระหม่อมจำต้องแต่งซิวซีชวนเสียก่อน จังเยว่ภรรยาสุดที่รักของกระหม่อมถูกกลั่นแกล้งจนต้องระหกระเหินไปอยู่ที่อำเภอเฉินเสียหลายปีพะยะค่ะ”
ฮ่องเต้ทรงรับฟังมาถึงตรงนี้ก็พอจะมองออกแล้วใต้เท้าชิงประสงค์สิ่งใด? ทรงหันไปหาพระอนุชาที่ยืนทำหน้าเคร่งขรึมอยู่ใกล้ๆ
“ภรรยานอกสมรสของใต้เท้าชิงผู้นี้สินะที่เป็นมารดาของจิตรกรชิง”
“พะยะค่ะ!”
“อืม....มิน่าล่ะ! เจ้าถึงต้องเข้ามาร่วมกดดันข้าถึงในห้องนี้”
“มิได้พะยะค่ะ กระหม่อมเข้ามาด้วยเพียงหวังให้ฝ่าบาททรงเห็นใจใต้เท้าชิงที่จำต้องบากหน้ามาขอพระราชโองการพะยะค่ะ”
“ใต้เท้าชิง เจ้าคิดจะยืมหนังเสือของข้าไปข่มขู่หมาป่าแก่ๆ ที่จวนใช่หรือไม่?”
“ทรงพระปรีชายิ่งแล้วพะยะค่ะ”
หมิงเฟยหลงทรงพระสรวลดังลั่น “ได้! เจิ้นจะเห็นแก่ประโยชน์ขององค์ชายสิบห้าทำให้เจ้าสมหวัง”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดอีกคราเป็นชายาตัวร้าย(มีEbook)